3 มี.ค. 2023 เวลา 08:39 • การศึกษา

ทำไมต้องรู้และเข้าใจงบการเงินของตัวเองด้วย ?

งบการเงิน มี 2แบบ
1.งบการเงินในทางบัญชี (แบบวิชาการ)
2.งบการเงินในชีวิตจริง (แบบประยุกต์ใช้ได้กับชีวิตจริง)
แบบแรก ทำให้คนส่วนใหญ่ยิ่งโง่เขลาการเงิน ทำให้เข้าใจว่าหนี้สินคือทรัพย์สินเฉยเลย
แต่ก็จำเป็นต้องรู้เพื่อใช้ประโยชน์ในทางบัญชี
เช่น วางแผนภาษี วางแผนการลงทุน วางแผนการเป็นหุ้นส่วน วางแผนขยายกิจการ
แบบสอง ทำให้คุณรู้จริงเรื่องเงิน แบบสองจำเป็นต้องรู้มากกว่าแบบแรกอีกแต่คนส่วนใหญ่รู้น้อยเรื่องเงิน
มี 2 ส่วน
1. ส่วนบน เรียกว่า งบรายรับรายจ่าย หรือ งบกำไรขาดทุน Income statement
2. ส่วนล่าง เรียกว่า งบแสดงฐานะการเงิน หรือ งบดุล Balance sheet
มี 3 วิธีคิด
1. คนจน Poor
2. คนชั้นกลาง Middle
3. คนรวย Rich
ทิศทางการไหลของกระแสเงินสดของวิธีคิดแต่ละแบบ
ตัวอย่าง งบการเงินในชีวิตจริงแบบสอง
แบบสองจำเป็นต้องรู้มากกว่าแบบแรกอีกแต่คนส่วนใหญ่รู้น้อยเรื่องเงิน
เพราะว่า
1. มันแยกแยะความแตกต่างระหว่างทรัพย์สินกับหนี้สินได้
จะเห็นว่า ช่องเลข3 ไม่มี รถยนต์ส่วนตัว บ้านพักอาศัยส่วนตัว เพราะมันเป็นหนี้สิน
2. มันแสดง Port การลงทุนในทรัพย์สิน-การเงิน ได้อย่างถูกต้อง
จะเห็นว่า ช่องเลข3 มี 5 Port
1 ธุรกิจ
2 อสังหา
3 หลักทรัพย์
4 โภคภัณฑ์
5 เงินออม
3. มันแสดง Net cash flow กระแสเงินสดสุทธิต่อเดือน = รายได้จากการเป็นลูกจ้าง + รายได้จากทรัพย์สิน - รายจ่ายรวม
4. มันแสดง กำไรตอนถือครองทรัพย์สิน และ ตอนเปลี่ยนมือถือครองทรัพย์สิน ด้วย
รายการทรัพย์สิน สร้างเงินเข้า ใส่ช่องรายรับ เรียก Cash flow กำไรตอนถือครอง
รายการหนี้สิน สูบเงินออก ใส่ช่องรายจ่าย
5. สำคัญที่สุด คือ มันสรุปให้เราว่า เราติดอยู่ในสนามแข่งหนู หรือ ออกจากสนามแข่งหนู
ด้วยสูตร รายได้จากทรัพย์สิน ต้องมากกว่า รายจ่ายรวม คือ ออกจากสนามแข่งหนูได้
หรือ รายได้จากทรัพย์สิน หาร รายจ่ายรวม ต้องมากกว่า 1 เรียกว่า อัตราส่วนความมั่งคั่ง
เพราะ แก่นหรือเป้าหมายของงบการเงินส่วนบุคคล มันไม่ใช่ การใช้โปรแกรม Excel ช่วยคำนวณอะไรทั้งนั้น
แต่มันคือ การทำให้เรารู้สถานะการเงินว่าตัวเราเอง ออกจากสนามแข่งหนูได้หรือยัง นี่ต่างหากที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด
มันคือ ความหมายของอิสรภาพทางการเงิน หรือ การเกษียณเร็วเกษียณรวย
ถ้าเปรียบกับ ด้านการเคลื่อนที่
ผลตรวจงบการเงิน ผลตรวจสุขภาพกาย ก็เทียบเท่ากับ ผลตรวจตำแหน่งการเดินทาง(มันช่วยระบุตำแหน่งเหมือน GPS)นั่นเอง
พอเรารู้ตำแหน่ง ด้านการเคลื่อนที่ ด้านการเงิน ด้านสุขภาพ
เราก็จะรู้ว่าตัวเองใกล้หรือไกลเป้าหมายที่กำหนดไว้เพียงใด
เช่น
ด้านการเงิน ปี61 จน, ปี62 พอกินพอใช้, ปี63 อยู่ดีกินดี, ปี64 ร่ำรวย, ปี65 มั่งคั่ง
ด้านสุขภาพ ปี61 จนสุขภาพ, ปี62ร่ำรวยสุขภาพ
ด้านการเคลื่อนที่ ชั่วโมงแรก เหลืออีก200km. ชั่วโมงที่สอง เหลืออีก 100km. ถึงเป้าหมาย
ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่เดินทางโดยไม่มีตัวนำทาง ด้านการเงิน ด้านสุขภาพ
มีแค่ตัวนำทาง ด้านการเคลื่อนที่(เรียกว่า Navigator)
และพอเรายอมรับและรู้ตัวว่า
-เรารู้น้อยเรื่องเงินหรือโง่การเงินมากแค่ไหน
-เราติดอยู่ในสนามแข่งหนูในอดีตมานานแค่ไหน
เราจะได้ หาวิธีแก้ไขที่ปลายน้ำ Action Effect, หาสาเหตุ Cause, หาวิธีป้องกันที่ต้นน้ำ Action cause ด้วยการ
-เพิ่มความรู้ทางการเงิน
-เพิ่มทักษะการหาเงิน+ใช้เงิน+เก็บเงิน+ลงทุนในทรัพย์สิน-การเงิน ได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
-เพิ่ม Port การลงทุนเข้าไปในช่อง3 Asset
โฆษณา