ทำไมผู้หญิงชอบผู้ชายรวย
ขอสรุปโดยอ้างอิงความรู้จากหนังสือหมวดวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาพัฒนาตนเองเพราะมันมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่ลึกซึ้งกว่าที่เรามองเห็นเพียงผิวเผิน
สัญชาตญาณทางอารมณ์ คือ
การสะสมพฤติกรรมที่มีประโยชน์และฝังอยู่ในพันธุกรรมในสมองเราเพื่อช่วยให้เราอยู่รอดและส่งต่อพันธุกรรมไปนานๆ
มันทำงานแบบ(นอกจิตสำนึก) คือทำแบบอัตโนมัติไม่ต้องเรียนมาก่อน
และมันทำงานได้ดีในสิ่งแวดล้อมยุคหินที่มันถูกวิวัฒนาการสร้างมา
มาดู(สัญชาตญาณทางอารมณ์ในการส่งต่อพันธุกรรมการเลือกคู่)่ของผู้หญิงกันว่าเป็นอย่างไร
สมองผู้หญิงจะมองหาคุณสมบัติของผู้ชายจาก 3 ปัจจัย
1 ความสามารถในการ(มีลูก)
คือ มีพันธุกรรมดี
เช่น ผิวพรรณดี ผมดำเงางาม รูปร่างหน้าตาสมมาตร ไม่เจ็บป่วย
เพราะมันบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่แข็งแรง
2 ความสามารถในการ(เลี้ยงลูก)
คือ มีทรัพยากรมากและมีคุณลักษณะพ่อที่ดี
เช่น รวย คนดัง มีสถานะทางสังคมสูง ใส่ใจ เป็นห่วง
เพราะในยุคหินผู้หญิงไม่สามารถหาอาหารเองได้(ในป่ามีแต่อันตราย)ใครเป็นผู้นำหรือคนสำคัญในเผ่า จะมีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรได้มากกว่าทำให้ลูกไม่อดตาย
ผู้ชายขับรถราคาแพงจึงไปกระตุ้นสัญชาตญาณทางอารมณ์ในสมองส่วน Limbic brain ที่ส่งทอดมาจากบรรพบุรุษของเพศหญิงทุกคนด้วยความหวังดี
3 ลักษณะที่บ่งว่าเป็นเพศตรงข้ามสะท้อนให้เห็นถึงระดับฮอร์โมนเพศ
ผู้ชายคนใดที่ว่าผู้หญิงเห็นแก่เงิน จะบ่งบอกว่า
เขาไม่เข้าใจการทำงานของสมองตัวเองและผู้อื่น
เขาจับโดนจุดอ่อนของสัญชาตญาณที่มันทำงานได้ดีและหวังดีอยากช่วยให้ผู้หญิงอยู่รอดในสิ่งแวดล้อมยุคหินที่ธรรมชาติวิวัฒนาการมา
แล้วความรู้เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไรกับผู้ชาย
ในเมื่อเรารู้ว่าผู้หญิงชอบคุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้รู้ว่า
ผู้ชายควรดูแลสุขภาพกายและจิตให้ดี
และควรสร้างงานสร้างเงินให้มั่นคง
ทั้งหมดเรียกว่า
การพัฒนาตนเองในทางสร้างสรรค์
ไม่ใช่ในทางที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เช่น ไปโกหก หลอกลวง เอาเปรียบ ดูถูกดูหมิ่นผู้อื่น
ใครที่พัฒนาสมองส่วนเหตุผลมากๆจะเป็นคนที่เข้าใจตนเองและผู้อื่น
เขาจะอยู่กับด้านมืดของตัวเองด้วยความเข้าใจ และอยู่กับด้านมืดของผู้อื่นด้วยความเห็นอกเห็นใจ เพราะด้านมืดของคนอื่นก็มีอยู่ในตัวเราเช่นกัน
สิ่งที่สำคัญมากอยากให้ทุกคนเข้าใจสมองตนเอง คือ
สัญชาตญาณทางอารมณ์ทั้งหมดที่เรามีในสมองนั้นล้วนมีเป้าหมายหวังดีอยากให้เราดำรงชีวิตอยู่รอดและดำรงเผ่าพันธ์ไปนานๆ
(ขอย้ำว่าช่วยให้อยู่รอดและส่งต่อพันธุกรรมเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยให้ก้าวหน้า) ซึ่งมันทำงานได้ดีมากในยุคหิน
(สมองส่วนเหตุผลจึงถูกวิวัฒนาการมาตามหลังอารมณ์อีกที)
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจึงไม่สามารถ(ฝืน)สัญชาตญาณได้ถ้าเรา
(ไม่เชื่อหรือไม่ทำพฤติกรรมตาม)
สัญชาตญาณ เช่น ไม่ยอมกินเมื่อหิวมาก ไม่ยอมพบเจอผู้คนเมื่อเหงา เราจะเจอกับปัญหาสุขภาพกายและใจตามมาเพราะสารความเครียด Cortisol (เป็นระบบสัญญาณเตือนให้เรารับรู้ถึงสิ่งอันตราย ธรรมชาติวิวัฒนาการมา)
และจะเกิดอะไรขึ้นหากเรา
(เชื่อหรือทำพฤติกรรมตาม)สัญชาตญาณ
(แบบหลับหูหลับตา แบบไม่มีสติ แบบมากเกินไป แบบสัญชาตญาณพาไปผิดทาง)
ตัวอย่างเช่น
ยุคโบราณ คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล ไขมัน เป็นของมีประโยชน์และหายาก ธรรมชาติฉลาดมากออกแบบติดตั้งสัญชาตญาณการกินให้เราชอบความหวานอาหารแคลลอรี่สูง เพื่อให้เรารีบกินเพื่อเก็บรักษาพลังงานไว้ใช้ในหน้าหนาวและวิ่งหนีสิงโต แต่สมัยนี้ไม่มีอันตรายแล้วแต่เรายังมีสมองเหมือนบรรพบุรุษอยู่
คือชอบของหวานอาหารอ้วน ดังนั้นหากเรากินของพวกนี้เป็นเวลาติดกันนานๆ จะส่งผลให้เรามีน้ำหนักเกินตัวกลายมาเป็นโรคข้างเคียง เช่น น้ำตาลในเลือดสูงเกินมาตรฐาน ไขมันในเลือดพุ่ง
ผลเลือดหรือเหตุผลทางการแพทย์จะช่วยเตือนสติเรา(มีเบรก)ให้หยุดการกินแบบเชื่อสัญชาตญาณได้ทันท่วงที
หรือพูดอีกอย่าง คือ
สมองเรา(มีเหตุผลดีๆ)มาเปลี่ยนแรงขับจากความต้องการ1ไปสู่อีกความต้องการ1
เปลี่ยนจาก(ความต้องการอยากกินของอร่อย)ไปเป็น(ความกลัวสุขภาพไม่ดีแก่เร็วตายไวนั่นเอง)
แล้วถ้าหากอยากก้าวหน้าต้องทำอย่างไร
ต้องพัฒนาสมองส่วนเหตุผลด้วยการเพิ่มความรู้ในสมองเรา
เพื่อที่เราจะได้ใช้ความรู้สร้างประโยชน์ให้กับตนเองและสังคมได้มากขึ้น
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
