3 มี.ค. 2023 เวลา 14:17 • ศิลปะ & ออกแบบ

หม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิชัย

วันนี้ 3 มีนาคม…คล้ายวันสิ้นชีพิตักษัย ของหม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิชัย เชื้อพระวงศ์ที่ทรงพระปรีชาสามารถทางด้านการออกแบบ จนได้รับการยอมรับและขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกแฟชั่นชั้นสูงของเมืองไทย
นอกจากพรสวรรค์และความสามารถทางด้านการออกแบบเสื้อผ้าแล้ว ท่านชายยังทรงพระปรีชาสามารถในการออกแบบเครื่องประดับเครื่องแต่งกาย หรือ Jewelry Design รวมถึงงานดีไซน์อื่นๆ อย่างเช่นโลโก้ ‘ตุ๊กตารำไทย’ ที่ท่านชายไกรสิงห์ทรงออกแบบให้กับสายการบินไทยในยุคบุกเบิกอีกด้วย
วันนี้…เพื่อน้อมรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของหม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิชัย ขอนำเรื่องเล่าที่เขียนถึงท่านโดยอ้างอิงคำบอกเล่าของพระขนิษฐา หม่อมเจ้าวุฒิเฉลิม วุฒิชัย หรือท่านหญิงนัง มาให้อ่านกันอีกครั้ง
ถึงแม้จะค่อนข้างยาว แต่ทักษะความเป็นนักเขียนในตัวท่านหญิงนังนั้น ทำให้เรื่องเล่าค่อนข้างยาวนี้ อ่านเพลิน จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเอาเลยทีเดียว
…………………………………………
ท่านชาย.....ดีไซน์เนอร์
หม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิชัย ทรงเป็นพระนัดดาในรัชกาลที่ 5 และเป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร กับหม่อมประพันธ์ วุฒิชัย ณ อยุธยา (สกุลเดิม ชะตารุ่ง) ทรงมีพระขนิษฐาร่วมพระอุทรคือ
หม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิชัย (29 เมษายน 2472 - 3 มีนาคม 2519)
หม่อมเจ้าวุฒิสวาท วุฒิชัย (8 ตุลาคม 2473 - 23 มกราคม 2557)
หม่อมเจ้าวุฒิเฉลิม วุฒิชัย (21 พฤษภาคม 2477 - ปัจจุบัน)
หม่อมเจ้าวุฒิวิฑูร วุฒิชัย (2 ธันวาคม 2479 - 23 กุมภาพันธ์ 2546)
เมื่อท่านชายจบการศึกษา จาก St. Martin's of Arts จากอังกฤษ และ Ecole Guerre-Lavigne จากฝรั่งเศส (เกียรตินิยม) แล้ว ท่านชายได้ออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้กับสมาชิกราชวงศ์หลายพระองค์ ซึ่งตามปกติแล้วก็คือเจ้าพี่ทั้งนั้น เพราะกรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร พระบิดาของท่านชาย ทรงเป็นพระราชโอรสรุ่นเล็กในรัชกาลที่ 5 จนกลายเป็นว่าเจ้าพี่ทุกพระองค์ทรงพากันเชียร์ว่าให้เปิดกิจการเสียที และเปิดเป็นสถาบันสอนไปด้วยในตัว
‘Desiree’ ของท่านชาย จึงเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2501 ไม่มีห้องเสื้อสถานเสริมสวยใดในประเทศไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่จะเก๋และสำคัญมากไปกว่า ‘ห้องเสื้อเดซีเร’ ของท่านชายไกรสิงห์ ตั้งอยู่ที่ห้าแยกบนถนนพลับพลาไชย ที่ที่เจ้านาย ไฮโซจากน้อยถึงใหญ่ ดาราที่โด่งดังสวยและทันสมัยที่สุดของวงการ พากันไปชุมนุมจากเช้าจดค่ำ
จากคำบอกเล่าจากพระขนิษฐา หม่อมเจ้าวุฒิเฉลิม วุฒิชัย… ‘โก’ (พระนามเล่นของท่านชายสำหรับน้องเล็กสององค์ ที่ประสูติที่ปีนัง เพราะพี่เลี้ยงคนจีนสอนให้เรียกพี่ชายว่า โก) โกเขารักฉันมาก จับฉันแต่งตัวมาตั้งแต่เด็กแล้ว ฉันนี่แหละเป็นคนแรกสุดที่โกออกแบบให้ทั้งเสื้อผ้าและเพชรพลอย
ครั้งหนึ่ง…โกจับฉันแต่งดำ สมัยนั้นไม่มีใครเขาแต่งกัน เป็นเรื่องของงานศพ ดำไม่พอ ด้านหน้ายังปิดมาถึงต้นคอ ไม่มีไหล่ แต่ด้านหลังเปิดหมดลงมาจะถึงสะเอว แล้วมาบังคับให้ฉันใส่ ฉันยืนยันว่าฉันไม่ใส่ กลายเป็นเรื่องทะเลาะกันเสียงดังไปทั้งตำหนัก แม่ต้องลงมาห้าม มาขอร้องให้ฉันตามใจโก ที่สุด…แต่งก็แต่ง แต่ฉันมีข้อแม้ว่า ฉันจะนั่งหันหลังเข้าฝาทั้งคืน จะไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว โกจะต้องไปตักอาหารมาเสิร์ฟฉัน
เมื่อโกเปิดร้าน Desiree ไม่มีห้องเสื้อสถานเสริมสวยใดของประเทศไทยทั้งในอดีตและปัจจุบันที่จะเก๋และสำคัญมากไปกว่าห้องเสื้อเดซีเร ของท่าน ร้านตั้งอยู่ที่ห้าแยกบนถนนพลับพลาไชย ที่นี่…เจ้านาย ไฮโซจากน้อยถึงใหญ่ ดาราที่โด่งดัง สวย และทันสมัยที่สุดของวงการ พากันไปชุมนุมจากเช้าจดค่ำ
มีอยู่วัน…สมเด็จหญิง (สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา) เสด็จมาหวีพระเกศา แม่ (หม่อมประพันธ์) กำลังนอนให้เขาสระผม พอสมเด็จหญิงเสด็จผ่าน แม่รีบลุกขึ้นมาก้มกราบลงกับพื้น เปียกปอนเลอะเทอะไปทั่ว เดือดร้อนถึงสมเด็จหญิงต้องทรุดพระองค์ลงขอร้องให้แม่กลับไปนอนสระผม
ทีนี้สมเด็จหญิงเลยทราบกลวิธี พอท่านเสด็จเข้ามา เห็นแม่นั่งอยู่ที่ไหน ท่านทรงรีบไหว้แม่ก่อนแล้วปุ๊บหายไปเลย แม่ไม่ทันได้กราบกราน พองุ่มง่ามจะลงจากเก้าอี้ สมเด็จหญิงก็เสด็จผ่านไปเรียบร้อยแล้ว ขนาดนี่เป็นถึงหม่อม อยู่แต่ในวังยังตื่นเต้นขนาดนี้ ลองนึกถึงคนทั่วไปที่มาเป็นลูกค้า จะปลาบปลื้มยินดีที่จะได้อยู่เห็นใครต่อใครก็มี ที่สั่นไปเลยก็มี ที่กลัวจนเกร็งไม่กลับมาอีกเลยก็มี
ไม่ช้าไม่นานสถานเสริมสวย สมาคมไฮโซของเดซีเร ก็อุ่นหนาฝาคั่งมากขึ้น จนไม่มีที่จอดรถ ซึ่งสมัยนั้นแทบจะเป็นเรื่องประหลาดเพราะทั้งกรุงเทพมหานครมีรถเพียงกี่คันเชียว เมื่อต้องวุ่นวายหาที่จอดรถ ท่านชายจึงปิดเดซีเร แล้วมาตั้งใหม่ที่ ปากซอยไชยยศ ถนนสุขุมวิท จอห์นไรเฟนเบิร์กออกแบบให้ในสไตล์ใหม่ล่าสุด ปูพรมสี Chartreuse (เหลืองอมเขียว) คราวนี้ตั้งชื่อใหม่ว่า ‘ไกรสิงห์’
ตอนนั้นร้านไกรสิงห์เต็มไปด้วยลูกค้าบุคคลสำคัญที่สุดของสมัยนั้น อาทิ สมเด็จอา (สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นสมเด็จอา ของเหล่าพระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือทูลกระหม่อมปู่) สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ และพระมารดา พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี หม่อมราชวงศ์ พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ชายาในพระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร หม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ชายาของพระองค์เจ้าอาทิตยทิพอาภา ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ
โกเก่งมากเรื่องการออกแบบเครื่องเพชร เมื่อเริ่มออกแบบใหม่ๆ ก็ไม่แน่ใจในการขีดเขียน ดีไซน์เครื่องเพชรมันต้องใช้ความละเอียดอ่อน แต่โกเป็นคนใจร้อน อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต ซึ่งโกรักมาก เป็นนักเรียนวชิราวุธรุ่นหลังของโก มีพรสวรรค์งานขีดเขียนของเขา สุดแสนประณีตบรรจง เค้าก็มาช่วยโกออกแบบสเก็ตภาพ แล้วจักรพันธุ์ นำไปใส่รายละเอียด ไปขัดไปเกลา
พอว่างท่านชายก็จับให้ฉัน นั่งเป็นหุ่นให้จักรพันธ์ุ วาดพอร์เทรต วาดทั้ง สีน้ำ สีน้ำมัน แล้ว จักรพันธ์ุ ยังมายอฉันอีกในภายหลังว่าเขาแอบเอาหน้าของฉันไปเป็นแบบวาดนางฟ้าที่รำแล้วก็ลอยกันไปลอยกันมา จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
ฉันเป็นหนูตะเภาให้โก ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะไปเรียนเรื่องเหล่านี้มาจากยุโรปด้วยซ้ำ พอกลับมาถึงปั๊บ..ก็ประจวบเหมาะที่ว่า ในตอนนั้นฉันกำลังจะเรียนจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (คณะอักษรศาสตร์) มาถึงแล้วแต่โกยังไม่ได้เปิดห้องเสื้อ ก็เลยพาลมาจับฉันแต่งตัวจนฉันหัวหมุน ก็ฉันเพิ่งจะเป็นสาวนี่ สะเอว 19 นิ้วเท่านั้น
และที่คนไม่ค่อยเข้าใจกันก็คือ โกไม่ได้ลุกขึ้นมาเป็นดีไซเนอร์ลมๆแล้งๆ เพราะว่ามีมโนภาพที่ปราดเปรื่อง แต่โกเรียนรู้ทุกอย่างอย่างถี่ถ้วนถ่องแท้ (จาก St.Martin's of Arts สถาบันของอังกฤษ และ Ecole Guerre-Lavigne ของฝรั่งเศสพร้อมเกียรตินิยม)
อยู่มาวันหนึ่งโกมาบังคับให้ฉันนั่งให้ท่านตัดผม แป๊บเดียวเท่านั้น ผมของฉันสั้นเหลืออยู่นิดเดียว ฉันเกือบร้องไห้ แต่โกชื่นชมโสมนัส บอกทุกคนไปหมดว่า น้องตัวสวยกว่า ออเดรย์ เฮปเบิร์น ฉันก็ว่า เอ๊ะ! โก พูดอะไร อ๋อ! เพราะตอนนั้น ออเดรย์ ตัดผมทรงนี้เข้ากล้องในหนังเรื่อง Roman Holiday ฉันน่ะ กลัวว่าจะดูผิดแผกไปจากนิสิตด้วยกัน แต่โกก็ว่า นังต้องนำสมัย ต้องล้ำสมัย ดีไม่ดีพวกเขาอาจจะไปตัดตามนัง นังจะได้ช่วยให้เขาสวย ซึ่งก็จริง ตามแบบฉันกันหลายคนทีเดียว
ชุดสำคัญที่สุดที่จุฬาฯ ที่โกตัดแล้วมาบังคับให้ฉันใส่อีกเช่นเคย ก็คือ ชุดราตรีงานบอลล์ฉลองวันรับปริญญา ไปจัดกันที่สถานลีลาศสวนลุมพินี เขามีกฏว่า ทุกคนต้องแต่งชุดราตรียาวสีขาวและจะต้องมีดอกมะลิปักอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ท่านชายทรงรีบถือโอกาส ตัดชุดราตรีสแตรปเลสส์ (Strapless) ให้ฉันใส่รัดอยู่แค่หน้าอก ฉันตกใจไปหมด ฉันบอกฉันไม่กล้าใส่ ฉันจะเดินไม่ออก โกก็ว่า เอาเถอะน่า ไหล่นังสวย คอก็สวย ควรไปโชว์ มายอฉันเสียอีก ฉันก็เลยพลอยบ้ายอไปตามพี่ชาย
ท่านคงได้พระทัย เพราะยังจะต้องปักดอกมะลิ ก็เลยจับฉันเกล้าผม ดึงผมของฉันจนตึงเปรี๊ยะไปมัดเป็นมวยสูงอยู่ข้างบนจนฉันเจ็บไปหมด โกรธก็โกรธ เพราะฉันอายที่ฉันหน้าผากสูง พอไปงาน เลยกลายเป็นนางโชว์แฟชั่นให้ท่านชาย คนมองกันจนฉันขาสั่น
ชุดที่มีความหลังฝังใจที่สุดสำหรับฉันก็คือ ชุดวิวาห์ เสมือนแต่งกัน 3 วัน 7 คืนกระมัง มีทั้งราชพิธีและพิธีมากมาย ต้องตระเวนไปกราบคำนับสมาชิกราชวงศ์เกือบทั้งหมด 13 มหาสาขา งานเลี้ยงรับรองต้องจัด 2 คืนติดต่อกัน โก ยิ้มแย้มแก้มโตทีเดียว จะได้มีโอกาสจับฉันแต่งให้เต็มที่ เดี๋ยวชมพู เดี๋ยวฟ้า โกมีความสุขที่สุดที่จะได้แต่งตัวให้น้องสาว เหมือนมีนางแบบอยู่ในบ้าน แต่ก็แน่นอนว่าทุกอย่างที่โกทำก็เพราะโกรักฉันมาก
ช่วงเวลานั้น โกท่านว่า ห้ามใส่เครื่องเพชรวูบวาบ และ คนโบราณถือเรื่องการใส่ไข่มุกในวันสมรส ว่าเป็นการใส่เม็ดน้ำตา ฉันก็เลยไม่กล้าใส่อะไรมากมาย โก ต้องเดินทางเสมอ ท่านนำผ้าไทยและแฟชั่นของท่านพร้อมเครื่องเพชรพลอยไทยที่ท่านออกแบบ ไปโชว์หลายที่ทีเดียว นับเป็นการส่งเสริมและประกาศความงามของสินค้าไทย ศิลปะไทย ไปโชว์ที่ เดนมาร์ก ฮ่องกง ฮาวาย ไปจนถึง อิสราเอล นางแบบและคนติดตามเป็นโขยง พวกที่คุมเครื่องเพชรก็ปาเข้าไปแล้วหลายคน แต่ทุกคนรู้ว่า จะต้องทั้งสวยทั้งสนุก ไม่มีใครที่อยู่กับท่านชายแล้วไม่สนุก
แต่แล้วก็พลันมาสิ้นชีพิตักษัย เมื่อมีพระชันษาเพียง 47 ชันษา (พ.ศ.2472-2519) ฉันเศร้า จนบอกไม่ถูก งงจนร้องไห้ไม่ออกอยู่เป็นเดือนๆ หลังจากที่ท่านชายสิ้นใหม่ๆ ฉันจัดงานแสดงผลงาน ด้านเสื้อผ้าของท่านชาย เพื่อเป็นที่ระลึกโดยมี หม่อมกอบแก้วเป็นประธาน ชื่องาน ‘Kraisingh Retrospective’
ต่อมา ฉันและจักรพันธ์ุ พิมพ์หนังสือแบบเครื่องเพชรของท่านชายออกขาย ซึ่งจักรพันธ์ุช่วย illustrate ส่วนหนึ่งของเครื่องเพชร แล้วนำไปสมทบกับทุน ‘ไกรสิงห์’ ที่ฉันตั้งไว้แล้ว เพื่อช่วยเหลือนักเรียนดีเด่นของคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปกรซึ่งยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้
……………………………
ในภาพคือนิตยสารพลอยแกมเพชร ฉบับที่ 200 ปักษ์หลัง 30 พฤษภาคม พ.ศ.2543 นางแบบปก คือคุณรุจิรา ช่วยเกื้อ กับเครื่องประดับจากฝีมือการออกแบบของหม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิชัย คอลเลคชั่นของหม่อมหลวงรจนาธร ณ สงขลา
ข้อมูลอ้างอิงจากกรุ๊ปกลุ่มลักษณะไทยโดยแอดมิน Aay Vuttikorn
โฆษณา