4 มี.ค. 2023 เวลา 02:52 • ไลฟ์สไตล์

03-MAR-23

วันนี้ได้ไปเจอทีมงานใหม่ทุกคนของเราเป็นครั้งแรก น่าสนใจมากเลย จริงๆ เจ้านายคนใหม่ของเราก็ค่อนข้าง open นะ ไม่ธรรมดาหรอก ดูมีความวิชาการสูง ดูประสบความสำเร็จและเป็นที่ไว้ใจของนายๆ มาตลอด จะไม่ยอมผิดพลาดใดๆ จะไม่ยอมล้มเหลว ดูเป็นคนอย่างนั้นน่ะ ถ้าเกิดเค้าไม่ล้มหายตายจากไปเอง หรือถูกย้ายไปอยู่ในบริษัทอื่นๆ ในเครือ เค้าก็คงอยู่ค่ำหัวทีมงานไปแบบนี้เรื่อยๆ แหละ เก่งจะตาย
เอาเป็นว่าสิ่งต่างๆ ที่เราได้ยินมา มันก็จริงบ้างไม่จริงบ้าง เรายังอยากช่วยเค้าอยู่นะ ยังอยากเข้าใจและหาางช่วยเค้าและทีมงานทั้งหมดอยู่ เราคิดว่าเราทำได้ และเราตองฉลาดและกล้าหาญยิ่งกว่านี้ มันถึงจุดที่เราไม่ต้องไปกลัวใครหรอก ได้ก็ดี โดนคว่ำก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างมากก็แค่ลาออกไปหางานใหม่ อย่าไปกล้วเลย
แต่สิ่งที่น่ารำคาญคือ อีตาลูกน้องสุด ego ของเรานั่นเองงงง ฮ่าๆๆ เมื่อวานนี้หัวฟัดหัวเหวี่ยงไปหมด ไปเจอทางนู้นเก่งไม่ใช่เล่น ก็ไปหาว่าเค้าโง่แต่อวดฉลาด ทำเป็นอวดรู้ แต่จริงๆ ไม่รู้เรื่องห.อะไรเลย แต่ตัวเองหางานอื่นทำนะ เพราะรู้ว่าไม่น่า contribute อะไรตรงนั้นได้แล้ว เสร่อจริง
เราว่าเค้าคงจะผิดหวังในตัวเราพอสมควรนะ ที่เราช่วยไฝว้ให้เค้าไม่ได้ และไม่คิดจะทำ เอาจริงๆ นะ มันมีคำถามขึ้นมาในหัวเราตลอดเวลา ว่าถ้าเรารั้งเค้าหรือทำให้เค้าเคารพเราไม่ได้จริงๆ นี่คือความล้มเหลวของการเป็นหัวหน้าคนของเราหรือเปล่า หัวหน้าที่เก่งหรือผู้นำที่เยี่ยมยอด ต้องเป็นที่เคารพได้กับลูกน้องและทีมงานได้สิ แต่เราทำไม่ได้น่ะ ลูกน้องเราคนนี้ดูถูกเราและท้าทายเราตลอดเวลา เค้าทำให้เรารู้สึกด้อยค่า ไม่มีค่า เป็นพวก naive และทำให้เรารู้สึกท้อแท้หมดหวังตลอดเวลา
คนแบบนี้อยู่ด้วยแล้วมีแต่พลังลบ เราทำงานกับเค้ามาหลายเดือน เรารู้สึกว่าเราไม่อยากอยู่ใกล้ๆ เค้าเลย เราไม่เห็นว่าเค้าจะเห็นความดีหรือโอกาสอะไรในสิ่งใด โอกาสที่เค้าเห็นเค้าจะเก็บมันไว้เป็นของเค้าเอง ไม่แบ่งใคร เค้าฉวยโอกาสไว้คนเดียว แล้วทำลายคนอื่นตลอด
ดูๆ ไปก็น่าสมเพชนะ จริงๆ เราว่าเค้าก็น่าสมเพชอยู่พอสมควรนะ อายุขนาดนี้แล้ว และมีความทะเยอทะยานถึงขีดสุด แต่มันไปไหนไม่ได้ซักที ยังวนเวียนดักดานกับตำแหน่งง่อยๆ กับงานธรรมดาๆ ไม่ได้สร้างชื่อเสียงอะไรให้กับตัวเองได้มากนัก น่าสงสารนะ... มันเป็นเพราะอะไรกันนะ
อย่างนึงที่เราคิดออกคือ เราคิดว่าเป็นเพราะเค้าไม่ได้รับ support อย่างเต็มที่น่ะ แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ถ้าถามเรานะ เป็นเพราะเราไม่เอ็นดูเค้า เราเป็นหัวหน้าเค้า หน้าที่นึงของเราคือต้อง support เพื่อให้เค้าทำงานได้อย่างเต็มที่และบรรลุเป้าหมายของเค้าเองและของทีม ที่ผ่านมานะ เค้าได้โอกาสจากเรามากมาย ได้อิสระในการทำงาน การสร้างผลงาน สร้าง target ของเค้าเอง เราแค่ให้เป้าหมายกว้างๆ
เค้าทำงานแบบไม่ให้เรายุ่งนะ ให้เรารู้เฉพาะตอนเค้ามีปัญหา และเราต้องไปแก้ปัญหาให้เค้าเยอะแยะเลยนะ ทั้งเรื่อง budget เรื่องคน ฯลฯ แต่เค้ายังมาทำหงุดหงิดใส่เรา ที่มันมีปัญหาเนี่ย มันเป็นเพราะ process ทั้งนั้นแหละ เราก็ช่วยกรุยทางไปให้ แต่แทนที่จะทำงานต่ออย่างสบายใจ ยังจะหาเรื่องบ่นก่นด่าทุกอย่างตลอดเวลาอีก แถมยังจะหาแต่โอกาสขโมยงานพวกนี้ไปเป็นงานส่วนตัวอีก เลวจริงๆ
เนี่ย นิสัยแบบนี้ ใครจะไปอยากช่วยล่ะ แทนที่จะได้รับคำขอบคุณและพลังบวกที่เพิ่มขึ้น แต่กลับมีแต่เสียงบ่น ความหงุดหงิด และการชุบมือเปิบ การหนีเอาตัวรอดคนเดียว... นี่แหละ มันถึงไม่ได้รับ support จากคนรอบข้างอย่างเต็มที่ เพราะคุณไม่ play fair แต่แรก
เจ้านายจอมยุ่งของเราก็ท้าทายเราตลอดนะ เรารู้ว่าถ้าเราโวยวายไป เค้าจะยอ้นกลับมาที่เราว่า มันคือการฝึก leadership ของเรา เราต้องสามารถหา sweet spot ในการทำงานกับคนแบบนี้ เพราะเค้าเก่งมาก เราต้องหาวิธีเก็บเค้าไว้ให้ได้ ให้เค้าทำงานให้เรา ซึ่งประเด็นนี้แหละที่มันกัดกินหัวใจเรามาตลอด เราไม่คิดว่าเราอยาก lead คนแบบนี้อะ มันมีแต่ทำให้เราท้อแท้ มีแต่พลังลบ น่ารำคาญ แทนที่เราจะได้พลังบวกจากการทำงาน มีความคิดดีๆ ในสมอง แต่ไม่เลย อะไรๆ กับอีตานี่ คิดดีไม่ได้เลย
เรามาลองคิดๆ ดู เราอาจจะเข้าข้างตัวเอง ถ้าเราเลือกที่จะไม่เอาเค้าไว้ต่อ ด้วยเหตุผลว่า สิ่งที่สำคัญกว่าคนทำงานเก่งๆ แต่เก่งอยู่คนเดียว เป็นคนที่มีจิตใจดี มี team work และสร้างบรรยกาศบวกให้กับทีมงาน เราผิดมั้ย ที่เลือกที่จะไม่ท้าทายตัวเองให้เป็น leader ที่เก่งขึ้นด้วยการทำให้คนๆ นี้เป็นลูกน้องที่ดีของเราได้ ... ไม่รู้สิ
แต่เรารู้เลยว่า ที่เค้าเลือกจะไปจากเรา และถ้าเค้าทำได้จริง สิ่งที่เค้าจะพูดถึงเรามันคืออะไรบ้าง... ช่างแม่งเหอะ
โฆษณา