Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
7 มี.ค. 2023 เวลา 02:55 • หุ้น & เศรษฐกิจ
“Coca-Cola” หุ้น 16 เด้ง ปันผลปีละ 20,000 ล้าน ของวอร์เรน บัฟเฟตต์
หากเราได้เงินสด 20,000 ล้านบาท ในทุก ๆ ปี เราจะนำเงินก้อนนี้ไปทำอะไร
นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริง กับการลงทุนในหุ้น Coca-Cola ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ลงทุนในบริษัทแห่งนี้มาอย่างยาวนานถึง 35 ปี
2
จนวันนี้ Coca-Cola กลายมาเป็นเครื่องจักรผลิตเงินสด จากการจ่ายเงินปันผลให้วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไปมากถึง 357,000 ล้านบาท..
เรามาดูกันว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ ตัดสินใจลงทุนใน Coca-Cola เพราะอะไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เป็นที่รู้กันว่า ปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น
- ความสามารถในการแข่งขัน
- ความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน
- ผลการดำเนินงานของบริษัท
1
ล้วนเป็นสิ่งที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ใช้พิจารณาในการลงทุนอยู่เสมอ
1
ดังนั้นเราลองย้อนไปดูผลประกอบการของบริษัท Coca-Cola ในช่วงก่อนที่ Berkshire Hathaway จะเริ่มเข้าไปลงทุนกัน
ปี 1985
รายได้ 205,000 ล้านบาท
กำไร 25,000 ล้านบาท
ปี 1986
รายได้ 243,000 ล้านบาท
กำไร 33,000 ล้านบาท
1
ปี 1987
รายได้ 267,000 ล้านบาท
กำไร 32,000 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า Coca-Cola อยู่ในช่วงที่กำลังเติบโต โดยมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี และมีกำไรเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี
นอกจากนี้ อีกหนึ่งประเด็นที่เขามองเห็นคือ อัตราการบริโภคน้ำอัดลมแบรนด์ Coca-Cola หรือ โค้ก กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย และยุโรป
หากเราลองมาดูอัตราการบริโภค Coca-Cola
ของหลาย ๆ ประเทศในปี 1987 เทียบกับปีก่อนหน้า
จะพบว่า
- อินโดนีเซีย มีอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้น 38%
- ไต้หวัน มีอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้น 34%
- ไทย มีอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้น 26%
- สเปน มีอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้น 14%
ซึ่งถ้าเทียบกับการเพิ่มขึ้นของประเทศสหรัฐอเมริกาที่เรียกได้ว่าอิ่มตัวแล้ว มีอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้นเพียง 1%
1
จุดนี้ เราจึงสรุปได้ว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ มองไปที่การเติบโตของ Coca-Cola ในต่างประเทศ
1
แต่แม้ธุรกิจจะแข็งแกร่ง และเติบโตได้ดีแค่ไหน
อีกปัจจัยสำคัญที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ใช้พิจารณาในการลงทุน คือ “ความเหมาะสมของราคาหุ้น”
1
ในเวลานั้น ซึ่งเป็นช่วงปลายปี 1987 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดอย่าง Black Monday ก็เกิดขึ้น
อธิบายเหตุการณ์ Black Monday แบบง่าย ๆ ก็คือ เป็นวันที่ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างรวดเร็ว
โดยมีสาเหตุหลักเกิดจากความผิดพลาดของระบบการซื้อขายหลักทรัพย์อัตโนมัติ..
ในวันนั้น ดัชนีหุ้น Dow Jones ร่วงลงกว่า 22.6% ภายในวันเดียว
ต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้ราคาหุ้นหลายตัวปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่หุ้น Coca-Cola ที่ร่วงลงมาจากจุดสูงสุดกว่า 27%
แต่ในมุมของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เขามองว่าการที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง เป็นผลกระทบมาจากตลาดโดยรวม
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักอย่างน้ำอัดลม Coca-Cola แต่อย่างใด
ปลายปี 1988 Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ จึงตัดสินใจเข้าซื้อหุ้น Coca-Cola ด้วยเงินมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 6.2% ของบริษัท Coca-Cola ทั้งหมดในเวลานั้น
จน Coca-Cola ได้กลายมาเป็นการลงทุนที่มีสัดส่วนมากที่สุดใน Berkshire Hathaway เลยทีเดียว
เรื่องราวของการลงทุนใน Coca-Cola ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้วอร์เรน บัฟเฟตต์ มีแนวคิดเรื่องการลงทุนเปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน
จากเดิมที่เขามองว่า ซื้อหุ้นของบริษัทธรรมดา ในราคาที่ยอดเยี่ยม
กลายมาเป็น “ซื้อหุ้นของบริษัทที่ยอดเยี่ยม ในราคาที่เหมาะสม”
2
และนับตั้งแต่วันนั้น Berkshire Hathaway ก็ยังคงถือ และทยอยซื้อหุ้น Coca-Cola เพิ่มมาโดยตลอด
ปัจจุบัน มูลค่าหุ้น Coca-Cola ที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนของ Berkshire Hathaway มีมูลค่าประมาณ 890,000 ล้านบาท
คิดเป็น 8.5% ของมูลค่าพอร์ตการลงทุนทั้งหมดของ Berkshire Hathaway ที่ประมาณ 10.5 ล้านล้านบาท
แล้วการลงทุนในหุ้น Coca-Cola ของ Berkshire Hathaway ประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ?
หากเราลองมาดูมูลค่าของบริษัท Coca-Cola ณ สิ้นปี 1988 อยู่ที่ 570,500 ล้านบาท
1
ปัจจุบันนี้ มูลค่าของบริษัท Coca-Cola อยู่ที่ 9,100,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 16 เท่า ภายในเวลา 35 ปี
ในขณะเดียวกัน Coca-Cola ก็ได้กลายมาเป็นแบรนด์ระดับโลก สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ
และกลายมาเป็นเครื่องจักรผลิตเงินสด จากการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่ง Berkshire Hathaway ที่ได้ลงทุนในบริษัทแห่งนี้มาอย่างยาวนาน
ปีล่าสุดได้รับเงินปันผลจาก Coca-Cola ราว 24,000 ล้านบาท หรือรวมเงินปันผลทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มลงทุน มาจนถึงปัจจุบัน ก็คือ 357,000 ล้านบาท เลยทีเดียว..
"พิเศษ คนที่เปิดบัญชี Dime! ผ่านลิงก์ของลงทุนแมน ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 มีนาคม 2566 จะได้รับ “ฟรี” ค่าคอมมิชชัน การซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ตลอดเดือนเมษายน 2566 พิเศษสำหรับแฟนเพจลงทุนแมนเท่านั้น สมัครเลยที่
https://link.dime.co.th/Longtunman
ผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียด และ เงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่
https://dime.co.th/en/articles/dime-x-ltman
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน"
References
-
https://www.investopedia.com/ask/answers/052615/why-did-warren-buffett-invest-heavily-cocacola-ko-late-1980s.asp
-
https://www.fool.com/investing/2023/01/27/how-much-warren-buffett-earned-coca-cola-dividend/
-
https://www.buffett.online/en/portfolio/
-
https://www.gurufocus.com/news/205476/revisiting-buffett-cocacola-in-1988
-
https://stockcircle.com/portfolio/warren-buffett/ko/transactions
-
https://www.macrotrends.net/stocks/charts/KO/cocacola/stock-price-history
-
https://www.macrotrends.net/stocks/charts/KO/cocacola/stock-splits
-
http://insidebuffett.com/wp-content/uploads/2016/07/1987-Coca-Cola-Annual-Report_Complete.pdf
-
http://stuff.maxolson.com/annual-reports/KO-1986.pdf
-
https://www.cnbc.com/berkshire-hathaway-portfolio/
-
https://www.settrade.com/th/equities/quote/kbank/financial-statement/five-years
-รายงานประจำปีบริษัท Coca-Cola ปี 1987, 1986
ธุรกิจ
หุ้น
20 บันทึก
48
14
20
48
14
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย