6 มี.ค. 2023 เวลา 03:54 • ความคิดเห็น
ตั้งแต่เกิดมา และเคยมีโอกาสไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ (ย้ำว่าใช้ชีวิตนะ ไม่ใช่แค่ไปเที่ยว) ประเทศไทยเป็นประเทศที่ทวงบุญคุณได้เก่งที่สุดแล้วครับ
เคยมีคนบอกว่าแค่คุณลืมตาดูโลกในประเทศนี้ก็เป็นหนี้บุญคุณคนสารพัดแล้ว ทั้งๆ ที่บางคนก็งงๆ ว่ามีบุญคุณตรงไหน
2
ลืมตาปุ๊บเป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่ (อันนี้ถ้าพ่อแม่ดีๆ หน่อยก็มองว่าเป็นบุญคุณได้ แต่ถ้าพ่อแม่แย่ๆ ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
เข้าโรงเรียนเป็นหนี้บุญคุณอาจารย์ (ทั้งๆ ที่จ่ายค่าเทอม ไม่ได้เรียนฟรี หรือถึงเป็นโรงเรียนรัฐ เงินเดือนอาจารย์ก็มาจากภาษีผู้ปกครอง)
เป็นหนี้บุญคุณชาวนา (ทั้งๆ ที่ซื้อข้าว ไม่ได้ขอข้าวกินฟรี)
เป็นหนี้บุญคุณทหาร (ทั้งๆ ที่เงินเดือนทหารก็มาจากภาษีประชาชน) และอีกสารพัด
1
ทวงบุญคุณเก่งที่สุดแล้วครับ
ส่วนที่ถามว่าเคยต้องเปลี่ยนผิดเป็นถูกเพราะเป็นหนี้บุญคุณใครหรือไม่ ตอบได้ว่ายังไม่เคยครับ มีแต่ช่วยเหลือตามสมควร หากเขาเดือดร้อนและเราช่วยได้ก็จะช่วยเต็มที่
ตอนผมเรียนปริญญาโท อาจารย์คนหนึ่งมีแต่คนไม่ชอบเพราะสอนไม่รู้เรื่อง ทำให้หลายคนอคติ อีกทั้งยังออกจะมีนิสัยมนุษย์ป้านิดๆ ทำให้ในคลาสนั้นหลายคนไม่ชอบ และรวมตัวกันล่ารายชื่อเพื่อขอเปลี่ยนอาจารย์
แต่อาจารย์คนนี้เคยช่วยผมไว้ เพราะในวิชาของอาจารย์ ผมรู้ตัวว่าทำข้อสอบไม่ได้ เลยไปคุยกับอาจารย์ ขอให้อาจารย์ช่วย บอกว่ากำลังจะจบแล้ว เหลือแค่ไม่กี่ตัวและมีปัญหาแค่วิชานี้วิชาเดียว
อาจารย์ก็ช่วยผม และให้งานมาทำเพื่อดันเกรดเอาให้ผ่าน ซึ่งสุดท้ายก็ผ่านอย่างหวุดหวิด
ดังนั้นสำหรับผม อาจารย์ท่านนี้คือผู้มีพระคุณคนนึง แต่ก็เห็นด้วยว่าแกสอนไม่ดีจริงๆ
กลับมาที่การล่ารายชื่อ ทั้งห้องแทบทุกคนได้ลงชื่อขอถอดถอนอาจารย์ท่านนี้ แต่พอมาถึงผม ผมก็ต้องพูดตามความจริง บอกตามตรงว่าผมลำบากใจ
ผมบอกว่าผมเห็นด้วยที่อาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็คงจะดีกว่าจริงๆ
แต่อาจารย์ก็ช่วยเหลือผมมา ถ้าไม่ได้อาจารย์ ผมก็คงแย่ ดังนั้นผมรับความช่วยเหลือจากอาจารย์มาแล้ว จะให้ผมกระทืบแก ทำร้ายแก ผมก็ทำไม่ได้
สรุปก็คือ ใครอยากทำอะไรทำไป จะลงชื่อก็ลงไป ผมไม่ห้าม แต่ผมขอไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ขอลงชื่อร่วมถอดถอนอาจารย์ เพราะผมทำไม่ได้จริงๆ ส่วนใครอยากจะลงชื่อ ก็เอาเลย แล้วแต่ แต่ตัวผมขอไม่มีส่วนร่วม
อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะว่าจะเรียกเป็นการตอบแทนบุญคุณได้มั้ย
โฆษณา