ณ ช่วงเวลานี้ข่าวคราวของแก้งคอลเซ็นเตอร์มีให้เห็นอย่างมากมาย เกือบทั้งหมดที่ตกเป็นเหยื่อล้วนแล้วแต่ต้องสูญเงินไป โดยมองไม่เห็นโอกาสได้คืนเลย บางรายยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำแต่เงินถูกโอนออกจากบัญชีเอง
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ทางธนาคารต้องออกมาปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ที่จะไม่จ่ายคืนให้เจ้าของบัญชีที่เงินถูกโอนออกไป แต่ยังไงก็ต้องมีการสืบสวนหาสาเหตุที่เงินหลุดรอดออกจากบัญชีได้อย่างไร กรณีที่เจ้าของบัญชีไม่ได้ดำเนินการเอง แล้วเป็นความผิดพลาดของธนาคารและมีรูโหว่ ยังไงทางธนาคารก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ยิ่งยื้อไปยิ่งทำให้ธนาคารเกิดความเสื่อมความน่าเชื่อถือลงไปทุกที
ที่มา Amarin TV
คนไทยในเวลานี้อาจจะไม่มีทางเลือกอะไรมากมายนักกับการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่หากความเดือดร้อนเกิดมากขึ้น ธรรมชาติของคนก็ต้องหาทางออกอื่นจนได้ จะทำให้ธนาคารต่างๆต้องพบกับคู่แข่งรายใหม่ๆที่จะมาแก้ไขปัญหานี้เร็วขึ้นด้วย ยกตัวอย่างแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสาร ใช้รถเก่ามารยาทไม่ดี ไม่มีความปลอดภัย แล้วก็ไม่คิดจะปรับปรุง ในที่สุดก็ต้องพบกับ GRAB UBER เป็นต้น
สิ่งที่แก้งคอลเซ็นเตอร์ทำก็คือการหลอกล่อให้ผู้เสียหายโอนเงินหรือเปิดโอกาสให้เข้าถึงการทำธุรกรรมทางการเงิน เรื่องนี้ป้องกันได้ยากมาก เพราะแก้งนี้จะมีเทคนิคใหม่ๆมาเปิดตัวอยู่เสมอ
แต่เมื่อมาดูที่เป้าหมายปลายทางของแก้งนี้ก็คือเงิน ซึ่งเป็นสกุลเงินบาทแล้วต้องมีการโอนผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการหลอกให้โอนทางเอทีเอ็มหรือจะเป็นทางโมบายแบงค์กิ้ง
ที่มา Thai PBS
การที่สามารถตรวจสอบว่าเงินอยู่ที่ไหนกับใครได้ในทันทีหรือในระยะเวลาอันสั้น จึงเป็นหนทางที่จะสามารถจัดการกับแก้งนี้ได้แบบถอนรากถอนโคน
ในเร็วๆวันนี้คนไทยจะมีโอกาสได้ใช้ระบบการเงินแบบใหม่ที่ชื่อว่า CBDC (Central Bank Digital Currency) ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาโดยธนาคารแห่งประเทศไทย มีการทดสอบมาหลายรอบแล้ว จวนเจียนจะออกมาใช้ได้แล้ว
ที่มา BOT
ระบบ CBDC เป็นระบบกระเป๋าเงินแบบดิจิตอล เสมือนเราพกเงินไว้ในประเป๋า ค่าเงินเทียบเท่าค่าเงินบาท ไม่สามารถที่จะพิมพ์ธนบัตรเพิ่มหรือเติมเงินโดยไม่มีที่มาของเงินเข้าไปได้เลย เป็นระบบที่ปลอดภัยไม่สามารถเก็งกำไรได้ สามารถกำหนดให้นำไปใช้กับสินค้าและบริการใดๆก็ได้ที่เจ้าของบัญชีต้องการ
การที่แก้งคอลเซ็นเตอร์สามารถหลอกเอาเงินไปได้ก็จริง จะผ่านกี่บัญชีม้าหรือบัญชีตัวแทนก็ตาม เงินที่ได้ไปจะสามารถติดตามไปจนถึงปลายทางที่เอาเงินนั้นไปได้ในทันทีที่ทำการตรวจสอบ ทั้งยังไม่สามารถนำเงิน CBDC ไปฟอกได้ เพราะยังไงก็หาเจอไม่มีประโยชน์ที่จะนำไปฟอกหรือแปลงเงินเป็นทรัพย์สินอื่นๆ
หากมีการพัฒนาระบบ CBDC ได้อย่างสมบูรณ์แบบสามารถออกนำมาใช้ได้ เงินที่ถูกหลอกโอนไปก็จะไม่สามารถนำไปใช้ได้หรือสามารถตามคืนได้ทั้งหมด
Credit: The Asian Banker
กรณีที่แก้งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกให้เปิดเผยรหัสหรือทำผู้เสียหายเผลอ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเงินจะถูกเข้ารหัสไว้ล่วงหน้า ทั้งยังสามารถกำหนดว่าสามารถชำระสินค้าอะไรกับใครก็ได้ก่อนที่จะนำไปใช้ ลดโอกาสหรือปิดโอกาสให้แก้งคอลเซ็นเตอร์ลงมือหลอกเอาเงินไปได้
ปัญหาการถูกหลอกโอนเงินหรือเปิดเผยช่องทางเข้าถึงธุรกรรมทางเงินก็จะหมดไป
แต่ปัญหาจะเกิดกับเหล่าบรรดาธนาคารต่างๆแทน เพราะว่าลูค้าหากฝากเงินต่อไปแม้ว่าจะได้ดอกเบี้ยก็ตาม แต่หากไม่ได้มีเงินฝากแบบนิ่งๆหลักหลายสิบล้านขึ้นไป ชีวิตไม่ได้เปลี่ยนเพราะได้ดอกเบี้ยเงินฝากเลย ซ้ำยังต้องมาลุ้นว่าเงินจะถูกดูดดออกจากบัญชีเมื่อไหร่โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ได้รู้ตัว แล้วธนาคารก็ยังไม่รับผิดชอบต่อไป
ที่มา Tnews
วิกฤติที่เกิดกับประชาชนทั่วไป ก็จะเปลี่ยนไปเกิดกับเหล่าบรรดาธนาคารต่างๆแทน หากยังไม่ทำอะไรที่เป็นรูปธรรมในการจัดการกับแก้งคอลเซ็นเตอร์
16 ถูกใจ
9 แชร์
1.9K รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
- 16
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2023 Blockdit
