6 มี.ค. 2023 เวลา 15:05 • ท่องเที่ยว
เพชรบุรี

CU Gavel Trip

สวัสดีครับทุกคน หลังจากห่างหายจากเพจไปนาน วันนี้จะมารีวิวทริปของชมรม English Public Speaking (Gavel) 3 วัน 2 คืนที่ชะอำ
ช่วงเย็นวันศุกร์หลังจากป้องกันแชมป์ปิงปองคณะเสร็จ รีบไปขึ้นรถบัสที่จะออกจากจุฬาตอน 5 โมง แต่หลังจากนั้นมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ขาไปเมื่อใกล้ถึงที่พักมีบรรยากาศน่าขนหัวลุกขึ้นบนรถบัส ที่โรงแรมมีกิจกรรมที่ถึงกับต้องเสียสละเสื้อตัวเอง ต้องเจอคำถามว่า”ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต คุณจะทำอะไร?”
เกม truth ot dare ที่ถามคำถามลึกซึ้งบาดลึกหัวใจ ถ้าในสิ่งที่ประหลาดสุดๆ เกิดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดสุดดราม่าที่ชายหาดชะอำ และการเล่นเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวในวันขากลับ เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดอะไรขึ้น แล้วเป็นไปตามความคาดหวังของภูมั้ย
รูปรวมหน้าศาลาพระเกี้ยวก่อนออกเดินทาง
[DAY1]
หลังจากรถบัสออกจากจุฬาไปสักพักพวกเราก็ผลัดกันมาแนะนำตัวหน้ารถพร้อม 1 คำให้ตัวเอง และพี่คนนึงที่ชื่อขึ้นว่าเล ตอบไปว่า “Lay is all dove” ผวนเป็น “Love is all day” ผ่ามๆ555 ผ่านไปสักพักก็แจกขนมลองท้องก่อนจะเริ่มง่วงหงาวหาวนอนหลับกันไป
ออกเดินทางวันศุกร์ที่ 17 กุมภา เวลา 17.12 น.
ตื่นขึ้นมาอีกทีฟ้าก็มืดแล้วใกล้ถึงที่พักแล้วเย้ๆ ด้วยบรรยากาศที่ฟ้ามืด รอบๆข้างกำลังหลับกันอยู่ ภูเลยให้เพื่อนๆรอบข้างเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกฟังกัน ซึ่งเรื่องที่ภูเล่าให้เพื่อนฟังหลอนสุดๆ คร่าวๆว่า “มีชายคนนึงแอบชอบสาวข้างบ้าน มานั่งคุยกันที่ศาลาทุกวัน แต่ถูกแม่สาวคนนั้นว่าเพราะไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองต้องผิดหวังเรื่องความรักอีก แต่สุดท้ายก็มาพบความจริงจากเพื่อข้างบ้านว่าทั้งสาวที่คุยด้วยทุกวันและแม่ของเค้าได้เสียชีวิจไปหลายเดือนแล้ว…” เล่าจบปุ๊บก็ถึงที่พักพอดี
จากนั้นก็นั่งล้อมวงกินข้าวเย็นแล้วเล่นเกม “นาฬิกา นาฬิกาใจ” ที่ให้ทุกคนลงชื่อคนที่จะไปคุยด้วย ณ เวลานั้น ซึ่งเรื่องที่คุยจะเป็นคำถามแบบ Table topic (Impromptu speech) ใช้เวลาคุย 2-3 นาที อย่างเช่น ”ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต คุณจะทำอะไร?” ”ถ้าคุณติดอยู่ในเกาะกลางทะเล คุณจะทำอะไร 3 อย่าง?” จากนั้นเป็นเกม”หม้อค้อน” ถ้าฉุบชนะจะได้ตีหัวเพื่อน ถ้าแพ้ต้องป้องกันตัวเอง และก่อนนอนก็นั่งเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกับ roomates กันอย่างมีความสุข
MC กำลังโดนถ้าให้เล่นเกมหม้อค้อน
[DAY2]
เช้าวันถัดมาตื่นมาด้วยความสดชื่น อาหารเช้าเป็น buffet เหมือนโรงแรมทั่วไป ห้องอาหารโปร่งด้านหลังเป็นสระว่ายน้ำกับสนามหญ้าเขียวขจี มีลมพัดเย็นๆ เป็นมื้อเช้าที่ดีมาก หลังกินอาหารเช้าเสร็จไปนั่งเล่นเกม “truth or dare” บนสนามหญ้าโดยพูดคำที่เกี่ยวข้องกับคนก่อนหน้าต่อๆกัน ใครตอบซ้ำ ช้า หรือไม่เกี่ยวข้องก็จะโดนให้เลือก truth or dare (truth โดนถามคำถาม, dare โดนท้าให้ทำ)
ซึ่งคนส่วนมากก็เลือก truth เพราะแค่ตอบคำถามไม่ต้องเสี่ยงโดนท้าให้ทำอะไรพิเลนๆ คนที่พึ่งเข้าไปใหม่พอแพ้ก็จะโดนคำถามรับน้องว่า “ใครน่ารักที่สุดในค่าย?” เกมกำลังเข้มข้นเลยอยู่ๆก็โดนตามไปห้องประชุมเพื่อทำกิจกรรมถัดไป
ก่อนเริ่มกิจกรรมในห้องประชุมมีการตั้งแถวต้อนรับคู่ที่มาช้าที่สุดพร้อมเปิดเพลงงานแต่ง บรรยากาศหวานมาก (ประชดสุดๆ55) ถัดไปเป็นเกม “Box of Lie” ซึ่งจะให้แต่ละทีมส่งตัวแทนออกไปดูรูป อธิบายให้ฝ่ายตรงข้ามฟัง แล้วฝ่ายที่ฟังต้องตอบว่า ”truth or lie” เกมนี้พีคตรงรูปที่หามาแต่ละรูปดูประหลาดทั้งนั้น เลยเดายากมากว่าคนที่อธิบายกำลังหลอกอยู่มั้ย ซึ่งสู้กันสูสีจนถึงรอบ sudden death 3 ทีมและก็จบลงด้วยชัยชนะร่วมกันอย่างสนุก
ต่อด้วยเกม”แบ่งเป็นห้าทีม” ซึ่งเป็นการฝึก problem solving skill แก้ปัญหาที่ 5 ทีมในชมรมเราเจอ (Education, Membership, Public Relation, Secretary, Finance) ภูเลือกไปอยู่ทีม Education ก็ได้คิดหัวข้อ Edutainment + Table topics, ช่องทางการติดต่อ Guest speaker, สิ่งที่ต้องแจ้งกับทีมอื่น เมื่อรวบรวมความคิดเสร็จก็ออกไปนำเสนอหน้าห้องก็ได้ฝึก presentation skill ไปอีกด้วย
เกมแบ่งห้าทีม
กิจกรรมช่วงบ่ายเริ่มต้นด้วยเกม”ทายเพลง”, “เก้าอี้ดนตรี”, “Bonding” ซึ่งเป็นการไล่จับกันในห้องประชุม โดยเริ่มจากคนไล่จับ 1 คน คนที่โดนจับจะต้องไปจับมือกับคนไล่จับเพื่อไล่จับคนอื่นต่อจนครบ เกมนี้ดูเหมือนจะจบเร็วเพราะมีพื้นที่แค่ในห้องประชุม แต่เล่นไป 3 นาทีก็ยังจับไม่ครบ พีคตรงมีคนไปแอบบนเวที + หลังผ้าม่าน (me lol) เลยรอดมาได้
ถัดไปเป็นเกม”ตักน้ำ” เล่นบริเวณสระว่ายน้ำโดยให้ทุกคนแบ่งเป็น 2 ทีม ทีมไหนตักน้ำจากสระว่ายน้ำโดยห้ามใช้สิ่งที่ใหญ่กว่าถังลองน้ำมาใส่ถังเต็มก่อนก็ชนะไป ซึ่งทีมภูชนะไปแบบขาดลอยเลย เนื่องจากมีเพื่อนคนนึงสละเสียตัวเองเอาไปชุบน้ำแล้วมาบิดบวกกับเอาแผ่นใส่ป้ายชื่อไปลอง ทีมฝั่งตรงข้ามเห็นแต่ไม่มีใครเสียสละเสื้อตัวเองถึงขนาดต้องเป่ายิ้งฉุบกันเลย555
กิจกรรมไฮไลท์ของทริปอยู่ที่ช่วงเย็นนี้เลย เราไปชายหาดชะอำกันนน บรรยากาศดีมาก มองไปรอบๆเห็นทะเลสีฟ้าใส มีคลื่นเล็กน้อย ลมเย็นสบาย มีการแข่งขัน “dodgeball” ซึ่งเป็นการปาบอลใส่อีกฝ่าย ถ้าเค้าปามาโดนเราเราก็ต้องออกไป แต่ถ้าเรารับได้จะได้เพื่อนที่ออกไปคืนกลับมา
Dodgeball & Football ที่ชายหาดชะอำ
จากนั้นก็เป็นสิ่งที่ภูรอคอยมานานแสนนาน นั่นคือ “beach football นั่นเอง พวกเราแบ่งเป็น 2 ทีม : Bayern (Phu, Gong, Win, Pin) VS Spain (Kaoklong, Leo, Wasin, Daniel) เป็นเกมที่เข้มข้นมากๆ แลกกันหมัดต่อหมัด เล่นแบบไม่มีเส้นออก และก็เกมจบลงอย่างดุเดือดเสมอกันไป 4-4 โดยฝ่ายตรงข้ามพี่เลโอซัดคนเดียว 4 ลูก ส่วนภูยิงไป 2 ลูก
จากนั้นถ่ายรูปเก็บบรรยากาศสวยๆก่อนไปกอนข้าวเย็นที่ร้านครัวห้วยทราย ซึ่งบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยบทสนทนาเกี่ยวกับเป้าหมายชีวิต การพัฒนาตนเอง ท่ามกลางบรรยากาศในร้านที่สวยงาม มีดนตรีสดเพราะๆให้ฟังไปด้วย และก่อนนอนคืนสุดท้ายก็มีการล้อมวงเล่น werewolf, truth or dare ซึ่งก็เกิดการท้าทายอะไรแปลกๆเกิดขึ้น เช่น โดดน้ำตอน 9 โมงเช้า, ใส่เสื้อกลับด้าน, มัดผม 5 จุก ส่งท้าย
[DAY3]
เช้าวันสุดท้ายตื่นมาพร้อมกับความสดชื่น อากาศเย็นสบายเช่นเดิม หลังทานข้าวเช้าเสร็จก็ไปเก็บกระเป๋ามานั่งล้อมวงเล่นกีต้าร์รอขึ้นรถ มีทั้งเพลงไพเราะๆอย่าง ความคิด, มันคงเป็นข้ามรัก, ข้างกัน, หมายความว่าอะไร เพลงซึ้งๆอย่าง ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด, ถ้าเราเจอกันอีก, อิ่มอุ่น
ล้อมวงเล่นกีต้าร์ระหว่างรอขึ้นรถ
หรือแม้กระทั่งเพลงเรียกเสียงหัวเราะอย่าง ต้นไม้ของพ่อ, เราจะทำตามสัญญา สร้างความสนุกสนานเฮฮากันก่อนกลับ จากนั้นไปกินเข้ากลางวันที่ร้านลุงโน่ป้าไก่ และแวะ Camel Republic ไปให้อาหารแพะ + เล่นเครื่องเล่นต่างๆ ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่ Zero gravity, Flying cacaw เล่นทีมีเสียว
แวะเที่ยว Camel Republic ก่อนกลับจุฬา
และก็เดินทางกลับถึงจุฬาโดยสวัสดิภาพเวลา 19.00 น. เป็นทริปที่เกินคาดจริงๆ ได้ทั้งความสนุกและสาระ เป็นประสบการณ์อันยอดเยี่ยมกับทุกๆคนทั้งคนที่เจอในชมรมมาเป็นประจำมาตั้งแต่ปี1 เทอม1 หรือคนที่พึ่งมาใหม่ สุดท้ายขอสรุปทริปนี้ด้วยคำว่า “It’s beyond my expectation”:)
#gaveltrip #chaam #beachfootball #bannphingpraew #camelrepublic
โฆษณา