6 มี.ค. 2023 เวลา 15:37 • ปรัชญา

มหัศจรรย์แห่งชีวิต (The Miracle of Life)

โดย ศาสตราจารย์ พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ
"พระเจ้าที่รัก จะทำอย่างไรดี คุณแม่จะต้องถูกวางยาสลบเพราะก้างชิ้นเดียวหรือ ? มันไม่คุ้มกันเลย พระบิดา พระองค์เอาก้างออกให้ได้แน่ ก้างชิ้นเดียวเรื่องเล็กสำหรับพระองค์" เมื่ออธิษฐานเสร็จฉันก็โทรศัพท์ถึงคุณแม่ บอกท่านว่า "คุณแม่คะเรามาอธิษฐานขอพระเจ้าทรงรักษาดีกว่า พระเจ้าทรงทำสิ่งอัศจรรย์ได้ คุณแม่เชื่อไหม ? " คุณแม่บอกว่า "เชื่อ แม่รู้ว่าพระเจ้าทำได้" "ถ้าอย่างนั้นคุณแม่อธิษฐานตามนะคะ
พระบิดาที่รัก พระองค์เป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่และทรงเป็นแพทย์ผู้ประเสริฐ ขอบพระคุณสำหรับพระเยซูที่ทรงตายบนไม้กางเขนแทนความผิดบาปและความเจ็บป่วยของเรา ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระเยซูคริสด์เจ้า เราขอสั่งผีร้ายวิญญาณชั่วแห่งความเจ็บป่วยจงออกไป
เราขอสั่งให้ก้างปลาหลุดออก ขอสั่งให้อาการเจ็บหายไป ขอให้การอักเสบจงหยุด ให้คุณแม่กลืนอาหารได้ ขอให้คุณแม่แข็งแรง กลืนได้ดีดังเดิม อาเมน
ศจ. พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ
นี่คือเหตุผลที่ หมออุมาพร ต้องอธิษฐาน
เพราะคุณแม่หมออุมาพรมีก้างปลาติดคอไปโรงพยาบาลใช้เครื่องมือคีบออกมาไม่ได้เพราะก้างอยู่ลึกเกินไปต้องดมยาสลบ และใช้เครื่องมือพิเศษคุณแม่อายุตั้งแปดสิบแล้ว การวางยาสลบสำหรับผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะอันตราย คุณหมออุมาพรอธิษฐานสั่งให้ก้างปลาหลุดโดยใช้ความเชื่อ และสิทธิอำนาจในฐานะที่เป็นลูกของพระองค์
ในขณะที่เห็นภาพของคุณแม่ก็ซ้อนขึ้นมา ก้างปลาเคยติดคอคุณแม่จนแทบแย่ แต่มันก็หลุดด้วยการอธิษฐานและฉันเองนี้แหละที่เป็นผู้ 'สั่ง' ให้มันหลุด นึกได้เช่นนั้นฉันก็เลยจับมือคุณป้าแล้วอธิษฐาน ว่า
"ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้าผู้ทรงตายบนไม้กางเขนแทนความบาปและความเจ็บป่วยของเราขอขับไล่ผีร้ายวิญญาณชั่วแห่งความเจ็บป่วยจงออกไป ขอขับไล่อาการเลือดออกในสมองจงออกไปขอขับไล่อาการที่ไม่รู้ตัวให้ออกไป
ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า ขอให้ไม่มีเลือดออกในสมอง ขอให้กะโหลกไม่แตก ขอให้เลือดหยุดไหลขอให้พี่ใหญ่ฟื้นขึ้นมาแล้วหายเป็นปกติโดยไม่มีปัญหาใด ๆ ให้เรากลับเมืองไทยได้อย่างเรียบร้อย
ศจ. พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ
นี่คือเหตุผลที่ หมออุมาพรต้องอธิษฐาน หมออุมาพรพาคุณป้าและพี่สาวไปเที่ยวประเทศอังกฤษขณะที่เที่ยว พี่สาวประสบอุบัติถูกรถเหวี่ยงศีรษะกระแทกพื้นแรงมากเลือดไหลนองและกระจายที่พื้นทำให้รู้ว่านี่ไม่ใช่หัวแตกธรรมดากลัวว่าจะมีกะโหลกแตกร่วมด้วย แต่ที่กลัวยิ่งกว่านั้นก็คือเลือดออกในสมอง ก็อาจเสียชีวิตได้
เมื่อไปถึงห้องฉุกเฉิน ฉันบอกคุณหมอที่ดูแลว่า ขอทำ CT Scan
ในที่สุดหมอก็แจ้งว่า "CT scan is perfect."ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มีเลือดออกในสมองและกะโหลกไม่แตกหรือร้าวเลยหลังจากเย็บแผลไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ก็ไปเที่ยวต่อได้
คืนนั้นฉันถามตัวเองว่า ทำไมฉันไม่อธิษฐานล่ะ ? พระเจ้าทรงทำสิ่งอัศจรรย์ได้ พระองค์ยังทำให้พี่ใหญ่ฟื้นขึ้นมาอย่างเรียบร้อย ถ้าเทียบกันแล้วเศษกระดูกหักเป็นเรื่องเล็กสำหรับพระองค์คิดเช่นนั้นแล้วฉันก็วางมือบนหัวเข่าขวาและอธิษฐานว่า
ในพระนามพระเยชูคริสต์เจ้า กระดูกชิ้นนี้จงละลาย ขอบคุณพระองค์อาเมน"
ศจ. พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ
"ในพระนามพระเยซูคริสต์ผู้ทรงตายบนไม้กางเขน แทนความบาปและความเจ็บป่วยของเรา ขอสั่งให้อาการเจ็บเข่าจงหยุด ขอสั่งให้ชิ้นกระดูกหายไป ขอพระพรของพระเจ้าให้ข้อเข่าแข็งแรง พระบิดาที่รัก ลูกขอการอัศจรรย์ อาจฟังดูแล้วตลกนิดนึง เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่ากระดูกน่ะมันไม่หายไปง่าย ๆ แต่ลูกขอให้กระดูกชิ้นนี้ละลาย พระองค์ทรงทำให้คนตายแล้วฟื้นขึ้นมา เรื่องกระดูกชิ้นนี้เป็นเรื่องเล็กสำหรับพระองค์ ในพระนามพระเยชูคริสต์เจ้า กระดูกชิ้นนี้จงละลาย ขอบคุณพระองค์อาเมน"
นี่คือเหตุผลที่ หมออุมาพร ต้องอธิษฐาน หมออุมาพรมีอาการปวดเข่าจนเดินไม่ได้ใช้เครื่อง อัลตราซาวนด์ ตรวจเข่าขวา และพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมที่เรียกว่า foreign body อยู่ในเข่า แพทย์บอกว่าเป็นเศษกระดูก คงเกิด chip fracture หรืออาการกระดูกหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ อยู่ในข้อเข่า จึงทำให้ปวด และบางทีชิ้นกระดูกนี้ไปขัดค้างในขณะที่เข่ากำลังเคลื่อนไหว ทำให้มีอาการเข่าอ่อนแรงเป็นๆ หายๆ จะต้องทำการผ่าตัดที่เรียกว่า arthroscope คือเจาะเข่าแล้วเอาเครื่องมือใส่เข้าไปเพื่อคีบชิ้นกระดูกออกมา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาฉันพบคุณหมอรุ่นน้องที่ไปนอนทำกายภาพบำบัดเตียงติดกัน เธอถามฉันว่า"อาจารย์ไปผ่าตัดมา หายดีแล้วหรือคะ ? ดูเดินคล่องเชียว""หายดีแล้วค่ะ แต่พี่ไม่ได้ผ่าหรอก""อ้าว! แล้วหายได้อย่างไร ?" "คืออย่างนี้ค่ะ มันอาจจะฟังดูตลกสักนิดนะ พี่เชื่อว่าพระเจ้าทรงทำสิ่งอัศจรรย์ได้ พี่ก็เลยอธิษฐานให้กระดูกละลาย พอไปทำ MRI ก็ไม่เห็นชิ้นกระดูกเลย พี่เลยไม่ต้องเจาะเข่า และตอนนี้ไม่ปวด และเดินคล่องแบบที่เห็นนี่แหละ"
เธอทำหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อ เธออาจจะนึกในใจว่า ศาสตราจารย์คนนี้พูดอะไรน่าขัน กระดูกมันจะละลายไปได้อย่างไรกัน ?หรือเธออาจจะสะกิดใจว่า เอ ! พระเจ้ามีจริงหรือ ? ทำไมอาจารย์พูดราวกับว่ามีจริง ?
การอธิษฐาน 3 ครั้งข้างต้นของหมออุมาพรเป็นการอธิษฐานแบบที่คริสเตียนไม่เคยรับรู้ว่ามีการอธิษฐานแบบสั่งได้โดยใช้ความเชื่อ และสิทธิอำนาจในฐานะที่เป็นลูกของพระองค์
แต่ทำไมชีวิตของฉันจึงแห้งแล้ง?
หมออุมาพรทำงานรับใช้มากมายเข้าร่วมกลุ่มอนุชน ไปประกาศพระกิตติคุณ ช่วยแจกใบปลิวข่าวประเสริฐของพระเยซูตามที่ต่างๆ ทั้งสีลม สวนลุมพินี พัทยา ฯลฯเคยเป็นประธานคณะอนุชน ประธานคณะสตรีคริสเตียนของคริสตจักร ประธานชมรมแพทย์และพยาบาลคริสเตียนในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ การประกาศข่าวประเสริฐแก่คนไข้ในช่วงคริสตมาสโดยการไปร้องเพลงตามหอผู้ป่วยและมอบของขวัญให้ด้วย ประกาศข่าวประเสริฐกับคนมากมายโดยเฉพาะกับลูกศิษย์และคนไข้ หลายคนต้อนรับพระเยซูและชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลง บางคนไปเป็นผู้นำคริสตจักรและนำพระพรไปสู่คนจำนวนมาก
หากคุณดูชีวิตของใครคนหนึ่งที่มีประสบการณ์แบบนี้แล้ว "ต้องเป็นคริสเตียนที่ดีพอแล้ว" พระเจ้าทรงรักฉันและพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ฉันมากมายแต่ทำไมชีวิตของฉันจึงแห้งแล้ง?
เพราะเลือกรับเฉพาะสิ่งที่ไม่ค่อยมีค่าเท่าไร เช่น
พระพรฝ่ายโลก พระพรในการงาน การเงิน และความสำเร็จต่างๆ
ศจ. พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ
แต่สิ่งที่มีค่ามากกว่านั้น
คือพระพรทางจิตวิญญาณ ของประทานของพระวิญญาณ บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ภาษาแปลกๆ การทรงสถิต และ การสำแดงของ พระวิญญาณบริสุทธิ์
ศจ. พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ
นั้นกลับปฏิเสธ
ภาษาแปลกๆ การเผยพระวจนะ และการอัศจรรย์เรื่องการรักษาโรค ยังคงมีอยู่ในยุคปัจจุบันหรือ?
ฉันไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านี้ในคริสตจักร ฉันเคยได้ยินศาสนาจารย์บางคนพูดว่า สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในสมัยของอัครทูต แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว บางคนก็ว่า เราไม่จำเป็นต้องมีสิ่งเหล่านี้แล้ว เราไม่จำเป็นต้องได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าโดยตรง เพราะเรามี พระคัมภีร์ซึ่งเป็นพระวจนะของพระเจ้าแล้ว นอกจากนี้เราไม่จำเป็นจะต้องรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์รวมทั้งพูดภาษาแปลกๆ เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์ประทับอยู่ในเราทุกคนเมื่อเรารับเชื่อพระเยซูแล้ว และจะทรงอยู่ตลอดไป
สิ่งที่เกิดขึ้นกับน้าวิชัยเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับที่สอน และปฏิบัติกันที่โบสถ์ของฉัน
หากน้าวิชัยได้รับสิ่งเหล่านี้ แปลว่า มันยังมีอยู่ และมันต้องเป็นสิ่งที่ดีเพราะต้องการรู้ว่าความจริงคืออะไร
ฉันจึงตั้งต้นอ่านพระคัมภีร์อย่างละเอียด เพื่อค้นหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องภาษาแปลกๆ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และยังไปซื้อหนังสือหลายเล่มจากร้านขายหนังสือ คริสเตียนมาอ่าน ฉันขังตัวเองอยู่ในห้องเพื่ออ่านหนังสือและอธิษฐานบางครั้งก็ถือศีลอดอาหารด้วยเพื่อจะให้ได้คำตอบที่ชัดเจนจากพระเจ้า
ฉันอธิษฐานว่า""
พระบิดา ลูกอยากเข้าใจเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ และภาษาแปลกๆ หากพระองค์ยังคงให้สิ่งนี้แก่ผู้เชื่ออยู่ ลูกก็ขอด้วย ลูกอยากได้รับประสบการณ์ อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร และหากนี่เป็นสิ่งจำเป็นก็ขอทรงให้แก่ลูกด้วย
ศจ. พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ
หลายเดือนผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนฉันคิดว่าในศตวรรษที่ 20 สิ่งเหล่านี้คงไม่มีแล้ว บางที่คิดว่าฉันคงไม่ได้รับหรอก ฉันคงไม่ดีพอ พระเจ้าคงประทานให้เฉพาะบางคนที่พระองค์ทรงเลือกให้ทำงานพิเศษเท่านั้น
ช่วงใกล้คริสตมาสฉันนอนฟังเพลงเมื่อฟังถึงตอน Do you hear what I hear? (เธอได้ยินสิ่งที่ฉันได้ยินไหม?) และ Do you see what I see? (เธอเห็นสิ่งที่ฉันเห็นไหม?) ฉันรู้สึกปลาบปลื้มใจ และซาบซึ้งในพระคุณของพระเจ้ามาก
การเชื่อในพระเจ้าที่มองไม่เห็นเป็นสิ่งที่ยาก แต่พระเจ้าทรงเลือกฉันจากบรรดาคนมากมายให้ได้มีโอกาสรู้จักพระองค์ พระองค์ทรงให้ฉันและผู้เชื่อสามารถมองเห็นสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น(มองเห็นพระเจ้าด้วยตาฝ่ายจิตวิญญาณ และรู้ว่าพระองค์ทรงดำรงอยู่จริง)
ได้ยินในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน (ได้ยินพระสุรเสียงด้วยหูฝ่ายจิตวิญญาณ) ขอบพระคุณพระเจ้าจริงๆ ที่ทรงนำให้ฉันเชื่อในพระองค์ทั้ง ๆที่มองไม่เห็นพระองค์
ขณะที่นอนฟังเพลงและอธิษฐานอยู่ในใจนั้นปากของฉันเริ่มขยับแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และมีคำแปลก ๆ เปล่งออกมา ฉันรู้สึกตกใจ "เอ๊ะ! เกิดอะไรขึ้น?"ฉันสำรวจตัวเอง ฉันยังมีสติดีอยู่ ยังอยู่ในห้องนอน ฟังเพลงคริสตมาสอยู่ รู้ตัวดีทุกอย่าง
แต่ปากและลิ้นขยับไปเอง เปล่งเสียงที่ตัวเองไม่เข้าใจ ฉันอาจจะเอามือปิดปาก และฝืนลิ้นไม่ให้ขยับก็ได้แต่ฉันไม่ทำเพราะอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร ลิ้นเริ่มขยับเร็วขึ้นเรื่อย ๆ และเสียงดังขึ้นฉันลงจากเตียงมาคุกเข่าอธิษฐานในใจว่า "พระบิดานี่คงเป็นภาษาแปลก ๆ ของพระองค์ลูกขอบพระคุณพระองค์ที่ลูกมีประสบการณ์ เดี๋ยวนี้ลูกรู้แล้วว่าเป็นยังไง"
พระเจ้ายังคงตรัสกับมนุษย์อยู่หรือเปล่า?
ฉันเคยได้คำตอบว่า แน่นอน พระองค์ยังคงตรัสกับเราอยู่โดยทางพระคัมภีร์ เมื่อเราสงสัยว่าพระองค์มีน้ำพระทัยอย่างไร เราอ่านได้จากหนังสือพระคริสตธรรมคัมภีร์แต่เดี๋ยวนี้ฉันรู้ว่าพระเจ้าทรงตรัสกับเราด้วยวิธีอื่นอีก ไม่ใช่เพียงทางพระคัมภีร์เท่านั้นวิธีที่มนุษย์ติดต่อกันยังมีหลายวิธี แล้วพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่จะทรงมีเพียงวิธีเดียวหรือ?เมื่อฉันค้นดูในพระคัมภีร์ ฉันพบว่าพระองค์ตรัสกับมนุษย์หลายวิธี เช่นเป็นเสียงเบาๆ ในใจ เป็นพระคำที่ผ่านเข้ามาในเวลาพิเศษนอกจากนี้ยังทรงตรัสผ่านความฝันหรือภาพนิมิต (vision) อีกด้วย
ฉันเคยสงสัยว่า เสียงที่พระเจ้าตรัสกับเราเป็นอย่างไร หนังสือหลายเล่มบอกไว้ว่าพระเจ้าตรัสด้วยเสียงเล็กๆ เบา ๆ ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า still small voice เสียงเล็กๆ เบาๆ นี้เป็นอย่างไรกันนะ?ฉันอยากจะได้ยินบ้าง หนังสือยังบอกอีกว่า
การอธิษฐานที่เกิดผลนั้น ไม่ใช่การพูดกับพระเจ้าฝ่ายเดียว เพื่อทูลขอสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่เราจะต้องนิ่งสงบ และตั้งใจฟังว่า พระองค์ต้องการจะตรัสอะไรกับเราด้วย
ศจ. พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ
ดังนั้นเวลาอธิษฐานฉันจึงพยายามฝึกตัวเองให้เงี่ยหูฟัง (แต่ก็มักจะลืมบ่อยๆพอพูดสิ่งที่อยากพูดเสร็จก็มักจะ "อาเมน" แล้วก็ลุกไป)
ในช่วงนั้นฉันอธิษฐานบ่อยมากเพื่อให้พระเจ้าทรงนำในการตัดสินใจ วันหนึ่งฉันมีประสบการณ์ที่แปลกประหลาดคือ ขณะอธิษฐานฉันได้ยินเสียงเล็กๆ ดังขึ้นมาว่า "จงเรียนต่อเถิด จงเรียนต่อเถิด เพราะนี่คือแผนการของเราสำหรับเจ้า" แม้ว่าจะเป็นเสียงเบาๆแต่มันก็ชัดเจนมาก มันดังออกมาจากข้างในตัว ไม่ใช่ดังออกมาจากความคิดของฉัน เสียงนี้เป็นเสียงที่สุภาพ บอกในเชิงขอร้องว่าอยากให้ทำอะไร แต่ไม่ได้บังคับหรือสั่งเรา
ข้อความเบื้องต้นมาจากส่วนหนึ่งของหนังสือ มหัศจรรย์แห่งชีวิต (The Miracle of Life) โดย ศจ. พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ
สารบัญ Blockdit Christianthai
ซีรีส์ แบ่งปันข้อพระคัมภีร์โดย ChatGPT
ซีรีส์ ใบปลิวคริสเตียน
ซีรีส์ หนังสือเสียงคริสเตียน
โฆษณา