🔥 คุณหนึ่ง จักรวาลกับคุณเปิ้ล-สุทธินันท์ ดำริทำคอนเสิร์ตเพลงครูรัก รักพงษ์ 🌟
3 มีนาคม 2566 คุณเปิ้ล-สุทธินันท์ จันทระ ได้เชิญคุณหนึ่ง จักรวาล คุณทิพวรรณ ปิ่นภิบาลและคณะ มาสนทนากับพ่อครูที่ปฐมอโศกก่อนเร่ิมงานพุทธาภิเษกฯครั้งที่ 47
คุณเปิ้ล จากที่เคยป่วยเป็น Stroke โรคอัมพฤกษ์ ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ซีกซ้ายอ่อนแรง แต่สามารถมีใจบันดาลแรง ใช้ดนตรีในการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเกือบปกติได้ จนได้ไปประกวดร้องเพลงในรายการ “The Golden Song เวทีเพลงเพราะ ซีซั่น 5” ทางช่อง One31 และบังเอิญคุณเปิ้ลกับคุณหนึ่ง จักรวาล สนิทกัน โดยที่คุณหนึ่ง จักรวาล เป็น ผู้กำกับดนตรีในรายการ The Golden Song ด้วย
คุณหนึ่ง จักรวาล หรือ นายจักรวาร เสาธงยุติธรรม ชื่อเล่น หนึ่ง เป็นนักดนตรี โปรดิวเซอร์ดนตรี ผู้กำกับดนตรี นักเรียบเรียงเพลงชาวไทย เป็นที่รู้จักจากรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง และ I Can See Your Voice Thailand นักร้องซ่อนแอบ The Golden Song เป็นต้น คุณหนึ่ง เป็นคนที่สู้ชีวิตจากเด็กสลัม จนเติบโตประสพผลสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้อย่างน่าทึ่งคนหนึ่งเลยทีเดียว
คุณเปิ้ล ได้ทราบว่า คุณหนึ่งรู้จักพ่อครูด้วย คุณหนึ่งศรัทธาคุณปราจีน ทรงเผ่า ที่เป็นนักดนตรี นักแต่งเพลง อดีตหัวหน้าวงดนตรีดิ อิมพอสซิเบิล คุณทิพวรรณได้ เล่าว่า คุณปราจีน ศรัทธาพ่อครูมากตรงที่พ่อครูศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าได้อย่างลึกซึ้ง และที่สำคัญคือท่านทำได้จริง
พ่อครูเล่าว่าพ่อครูเป็นคนที่ได้แนะให้คุณปราจีนเรียบเรียงเพลงแรกเลย คือเพลงเริงรถไฟ พ่อท่านได้แนะนำให้ไปนอนฟังเสียงรถไฟ ตอนนั้นยังไม่มีเพลงแบบตะวันตกเลย มีแต่ลอกเลียนตะวันตกมา เพลงไทยเพลงแรกที่เป็นสตริงคอมโบ ออกมาคือเพลงเริงรถไฟ ให้คณะดิ ดิมพอสซิเบิล เล่นคนก็ฮือฮากันใหญ่ เสร็จแล้วก็มีเพลงชื่นรักต่ออีก ซึ่งเพลงเริงรถไฟมันเร็ว แต่เพลง ชื่นรักมันโรแมนติก เพลงเริงรถไฟจึงดรอพลง เพลงชื่นรักก็จึงขึ้นมา ซึ่งเป็นเพลงในหนังโทน เลยส่งเสริมให้วงดิ อิมพอสซิเบิลดังใหญ่เลยในตอนนั้น
คุณเปิ้ลเล่าให้คุณหนึ่งฟังว่า เพลงของพ่อท่านนี้ แนวทางหรือคอร์ดต่างไม่ปกติ (พ่อครูว่า ไม่ใช่ Abnormal นะ แต่เป็น Supranormal) พ่อครูเล่าถึงชีวิตตอนเป็นวัยรุ่นที่แต่งเพลงผู้แพ้ เพลงกำลังโด่งดังอยู่ในสังคม
แต่นั้นตนเองก็ต้องทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียนเพาะช่างปี 2-3 และส่งน้องๆหลายคนเรียน ทำงานไปส่งหนังสือพิมพ์ให้แก่คนที่เขากำลังร้องเพลงที่ตนเองแต่งอยู่เลย เราจะถามเขาดูไหมว่า เพราะไหม? เพลงนี้ผมแต่ง! คงจะน่าดู เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เพราะสมัยก่อนคนจะแต่งเพลงต้องเป็นอายุมากแล้วนะ เด็กๆไม่มีสิทธิ์แต่งหรอก
คุณเปิ้ลได้ เกริ่นกับคุณหนึ่งไว้ว่า บรรดาศิลปินนักร้องลูกศิษย์พ่อครู เช่นคุณทิพวรรณ ผม คุณแม้ว(จารุณี) อยากจะทำเพลงพ่อท่าน คุณหนึ่งก็บอกว่า ไม่ขัดข้องเลย ยินดีเลย พ่อครูเลยบอกว่า มีคนอยากทำมากคือ หมอพันทิวา ซึ่งบอกว่าอายุมากแล้ว เดี๋ยวจะตายก่อนไม่ได้ทำ
คุณเปิ้ลว่า...ถ้าทำเพลงพ่อท่านโดยคุณหนึ่งจักรวาล แล้วก็อยากจะทำเป็นคอนเสิร์ตด้วย เหมือนแต่ก่อนที่จัดคอนเสิร์ตเชยเชย แจ๊ซ เบื้องต้นคุยกันว่าเรื่องงานยินดี แต่เรื่องวันเวลาที่จะจัดนี้อย่างไร ค่อยปรึกษากันอีกที
แต่นำเรียนพ่อท่านว่า เราจะทำเพลงพ่อท่าน แล้วบรรดากลุ่มศิลปินที่เป็นลูกศิษย์พ่อท่าน เช่น ทิพย์วรรณ ปิ่นภิบาล, อรวี สัจจานนท์, ศรีไสล สุชาตวุฒิ, มณีนุช สเมรสุต, ผุสดี เอื้อเฟื้อ, ปู-กันยารัตน์ กุยสุวรรณ, วัชราภรณ์ สุขสวัสดิ์, อุมาพร บัวพึ่ง, นันทวรรณ เมฆใหญ่, วินัย พันธุรักษ์ เป็นต้น ที่อยากจะรวมตัวกันทำเพลงพ่อครูอีกครั้งหนึ่ง
พ่อครูเล่าขำๆว่า ตอนแต่งเพลงผู้แพ้ ได้ค่าแต่งเพลง 1,200 บาท เอาไปจ่ายเป็นค่าวง ค่านักร้อง จะเหลือให้ผู้แต่งเพียง 300 บาท พ่อครูว่า อาตมายังจำได้ว่า 300 บาทนี้เอาไปเล่นไพ่เสียไปหมดไม่เหลือเลย สรุปก็ไม่เหลือเลยค่าเพลงผู้แพ้ .... คุณเปิ้ลเลยแซวว่า เป็นผู้แพ้จริงๆ ... พ่อครูว่า...มีคนยุให้อาตมาแต่งเพลงผู้ชนะ...อาตมาไม่แต่ง แต่งไม่เป็น
คุณเปิ้ลว่า... นี่ถ้าทำคอนเสิร์ต มีเพลงผู้แพ้ แล้วก็มี story เหล่านี้ด้วย เป็นละครเวทีนะ เล่นแล้วถึงเพลงนี้คงสนุกแน่ๆเลย
พ่อครูว่า มันมีเยอะ เรื่องเพลงผู้แพ้นี่ อาตมาได้ยินคนร้องดังไปหมดเลย คนนิยมเพลง แต่ไอ้คนแต่งขับจักรยานส่งหนังสือพิมพ์ เขาก็ร้องเพลงที่เราแต่ง เราก็ยื่นหนังสือพิมพ์ให้เขา ผ่านตรงที่มืดๆหน่อยก็น้ำตาไหล เพลงนั้นเป็นดาว แต่เรานั้นเป็นดิน
คุณทิพวรรณว่า ตอนเวลาประกาศในรายการ The Golden song ที่พี่เม้าท์ สุดา ชื่นบาน ก็จะออกมาประกาศว่า เพลงนี้ ผู้แต่งคือ รัก รักพงษ์ ปัจจุบันท่านคือ พระโพธิรักษ์ แห่งสำนักอโศก ท่านก็จะอธิบายให้ฟังว่าเป็นใคร เคยทำงานที่ทีวีสีช่อง 4 อะไรอย่างนี้
พ่อครูว่า... อย่างเม้าท์นี่เพื่อนกันกับแดง ฉันทนา กิติยพันธ์ ซึ่งฉันทนานี้ อาตมาก็สอนให้ร้องเพลงตั้งแต่ยังอยู่ รร.สตรีวิทย์ ม.4 ให้หัดทำปาก ทำเสียงอย่างไรๆ ฝึกหัดให้ออกเสียงร้อง เขาก็เรียกอาตมาว่าครู ฝึกร้องแล้วก็เอาไปประกวดงานกาชาติ งานศิลปะหัตถกรรมของนักเรียน ก็ได้ถ้วยมาตั้งเยอะ เขาก็เรียกครูๆ คุณทิพวรรณก็เสริมว่า...เขาบอกว่า พี่นี่ก็อยากไปกราบท่านจังเลย
คุณเปิ้ลว่า... คนในวงการก็ไม่ค่อยมีจังหวะมาหา นี่เป็นโอกาสดีที่ได้มากราบพ่อครู เพราะพ่อครูไม่ได้ลงมา กทม.ง่ายๆนะครับ แล้วผมคุยกับหนึ่งเขานะครับว่า ตอนนี้เวลาเขาเร่งรัดมากเลย วันที่ 6 นี่ 18 เพลงเขาต้องจบแล้ว (ต้องเรียบเรียงเพลงออกรายการ The Golden song) แล้ววันที่ 7 มีรายการของ Golden song กลุ่มอื่นอีก 18 เพลงครับ
คุณหนึ่งว่า...ตอนนี้เหลืออีก 5 เพลงครับ
คุณตุ๊กติ๊ก(ภรรยาของคุณหนึ่ง จักรวาล) ว่า... เป็นเพลงลูกทุ่ง ที่เขาชอบอยู่แล้วค่ะ ได้ทำเพลงที่ตัวเองชอบก็เลยมีความสุข
คุณเปิ้ลว่า...ที่ผมทึ่งเขาก็คือ ในระหว่างที่คุยๆกันอยู่อย่างนี้ เราก็ยังคุย mood เราก็ยังอินอยู่กับเรื่องที่คุยกัน แต่เขาแวะไปอเรนจ์เพลงได้แล้ว สุดท้ายแป๊บเดียวเสร็จ เรียบเรียงเสียงประสานเองหมด จะใส่เครื่องดนตรีชิ้นไหน ทำได้ในคนเดียวหมด ข้อสำคัญคือในเวลาอันสั้นๆ ปกติเขาต้องใช้เวลานาน แต่เขานี่ทีเดียวหมด
คุณตุ๊กติ๊กว่า...พี่หนึ่ง ปกติชอบไปวัดไปสนทนาธรรมกับหลวงพ่อตามจังหวัดต่างๆ จะเร่งทำเพลงให้เสร็จเพื่อจะหาทางไปพักผ่อน แต่ว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาวัดแต่ได้สนทนากันเรื่องดนตรี เพราะพ่อท่านมีองค์ความรู้เรื่องดนตรีอยู่แล้ว เป็นครั้งแรกเลย คุยเรื่องคอร์ด ไมเนอร์ ชาร์ป ปกติถ้าคุยที่อื่นจะงง
คุณหนึ่งว่า... ถ้าวันไหนผมว่างจะไปวัดครับ ไปวัดเสร็จปึ๊บ ผมจะต้องไปเปิดประตูโบสถ์ให้ได้ แม้บางทีเจ้าอาวาสจำวัดแล้ว ผมก็ไปปลุกท่านว่าผมขอเปิดประตูโบสถ์หน่อย
คุณตุ๊กติ๊กว่า...ถ้าไม่ได้ไปวัดบ้างหัวไม่โปร่ง เพราะทำงานดึกๆทุกวัน ลงรูปตามเพจมีแต่รูปไปวัด คนนึกว่าเป็นคนไม่ทำงานทำการอะไร
คุณเปิ้ลว่า...ทีนีก็มีเรื่องลงแล้วว่า ไปวัดครั้งนี้ได้คุยเรื่องเพลง
คุณตุ๊กติ๊กว่า...อยากถามแนวเพลงที่พ่อท่านอยากให้ทำค่ะ...
พ่อครูว่า...ให้อิสระเลย เรื่องนี้ต้องให้อิสระ อาจจะบอกว่าอย่างนี้ได้ไหมๆ ก็อาจจะแนะนิดหน่อย
คุณตุ๊กติ๊กว่า...แสดงว่าพ่อท่านมีความทันสมัยนะคะ
คุณเปิ้ลเล่าว่า... สมัยที่พี่เข้ามารู้จักอโศกตอนนั้น พี่ออดลูกครูสมาน กาญจนผะลิน ได้บอกให้ผมมาช่วยร้องเพลงให้อโศกหน่อย เพราะศิลปินที่เชิญมาเขาไม่ยอมมาร้องเลย เพราะตอนนั้น ที่วัดกำลังถูกโจมตีหนักเยอะแยะมากมาย ผมก็มาดูก่อน พอมาเจอสัมผัสญาติธรรมกับพ่อท่าน ผมก็ตกลง บอกว่าเป็นไงเป็นกัน ก็มาร้องให้เลย ตอนนั้นผมร้องไปตั้ง 6-7 เพลงแน่ะ แล้วผมสัมผัสทุกๆอย่างแล้ว มันไม่ใช่อย่างที่สังคมโจมตีกัน
ขณะนั้นเป็นประวัติศาสตร์ส่วนตัว เขากำลังจะเผยแพร่อัลบัม “คนหยามฟ้าไม่หยาม” กำลังสู้คดีกันเลย ก็มีการประชุมปรึกษาหารือกัน ผมก็เลยเสนอ ในเมื่อเขามาตีเรา เราก็ทำให้เห็นเลย จะออกอัลบัมคนหยามฟ้าไม่หยาม เมื่อทุกอย่างพร้อมเผยแพร่ แต่พ่อท่านก็บอกว่าให้เปลี่ยนเป็น “อภัย” ทุกอย่างก็เลยต้องรื้อใหม่หมดเลยครับ เป็นอัลบัม “อภัย” หินชนวนแต่ง แล้วพ่อท่านเอามาเกลาอีกที แล้วเพลงอภัยนี่นะครับ เนื้อร้องกินใจมาก
ตอนนี้พ่อท่านอายุ 88 ปี 8 เดือน 25 วัน เราน่าจะจะฉลองตอนพ่อครูอายุ 90 ปี เท่ากับเรามีเวลาอีก 1 ปี 4 เดือน 25 วัน เรามีเวลาในการทำงานอีก ซึ่งต้องได้ทั้งสถานที่ เรื่องเวลาของหนึ่งเขาก็มีจำกัด คิวเขาก็แน่น
คุณหนึ่งว่า...เราควรทำก่อน 90 ปี คือเราทำเสร็จก่อนได้ แล้วบอกไว้ว่า นี่สำหรับ 90 ปีแล้ว แต่จริงๆยังไม่ถึง ส่วนใหญ่ที่เขาทำกันจะเป็นอย่างนี้หมด
พ่อครูว่า... 5 มิถุนายนปีนี้ก็จะครบ 89 ปีแล้วก็จะขึ้นปีที่ 90 ในวันที่ 5 มิถุนายน 2567
คุณเปิ้ลว่า...ที่จะทำก่อน คือทำเพลงได้ก่อน คือที่คุยอยากให้หนึ่งเขาทำเพลงพ่อท่านก่อนแล้วเลือกนักร้อง ที่พ่อเคยใช้ๆอยู่ให้เอามาร้องก่อน พอคนรู้ว่าจะทำเพลงพ่อท่านนะ คนก็อยากจะมาๆกัน
คุณหนึ่งว่า...สมมุติว่าเราทำเพลงไปสัก 10-12 เพลง แล้วก็เอาอันนี้ไปโปรโมทก่อน คิดไปไกลหน่อยนะครับ
คุณเปิ้ลว่า...เอาประสพการณ์ปัจจุบันของเขามาแอพพลายได้ รวมกับประสพการณ์คนเก่า
คุณหนึ่งว่า...ทำใส่แฟลชไดรฟ์ ใส่กล่องไม้สวยๆ ทำสัก 10-12 เพลง แล้วเอาไปเล่นในคอนเสิร์ต
คุณเปิ้ลว่า... คอนเซ็ปต์เราจะเป็นฟรีคอนเสิร์ต เช่น อาหารฟรีหน้างาน เราจะหาสปอนเซอร์มาสนับสนุน ส่วนหนึ่งผมขอรับผิดชอบ แต่สำคัญที่สุดหัวใจอยู่ที่คุณหนึ่ง บังเอิญใจของหนึ่งเขามาทางนี้ด้วยครับพ่อ
คุณหนึ่งว่า... เดี๋ยวเราก็ทำเป็นแบบประมูล สมมุติมีกล่องแฟลชไดรฟ์ 3 ชิ้น ภายใน 3 ชิ้นนั้นอาจมีแผ่นซีดีแบบทอง แล้วพ่อท่านเซ็นชื่อไว้
พ่อครูว่า... เซ็นแบบลายเซ็นต์ รัก รักพงษ์ เพราะทุกวันนี้เซ็นแต่ สมณะโพธิรักษ์ จะลืมวิธีเซ็นหรือเปล่านะ ต้องไปฝึก
คุณเปิ้ลว่า...ตอนนี้ถ้าถามว่า งานจัดได้จริงไหม วันนี้เอาว่า หัวใจงานอยู่ที่หนึ่ง หนึ่งก็รับปากว่าจะมาทำจะมาด้วย (มีคนแซวว่า ห้ามเจ็บ ห้ามตาย)
คุณหนึ่งว่า...ยังไม่ตายครับ ผมตายยาก
คุณตุ๊กติ๊กว่า...พ่อท่านคะ รัก นี่มาจาก อนุรักษ์หรือไม่คะ
พ่อครูว่า... เปล่า รัก ร.เรือ ไม้หันอากาศ ก.ไก่
ก็คือ ความรัก รวมหมดเลย อาตมาเขียนหนังสือ ความรัก 10 มิติ
คุณหนึ่ง...เอาหนังสือเพลงครูรัก มาให้พ่อครูเซ็นลายเซ็นทันทีเลย ณ ตรงนั้น บอกว่า เอาปากกาดีๆมาหน่อย...
คุณอิงไอดินว่า... พ่อท่านคะ น้องตุ๊กติ๊กถามว่าพ่อท่านมีโลโก้อะไรส่วนตัวไหมคะ เพื่อเอาไปออกแบบโลโก้ของงาน
พ่อครูว่า... อาตมามีโลโก้ส่วนตัวรูปหัวใจ อาตมาตั้งแต่เรียนหนังสือนี่ เวลาภาพแล้วเสร็จต้องเขียนรูปหัวใจแทนลายเซ็น แล้วอาจารย์ก็จะรู้
พ่อครูจึงได้เซ็นลายเซ็นต์ รัก รักพงษ์ ให้ไว้...... ก่อนจบการสนทนาวันนี้
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
