11 มี.ค. 2023 เวลา 01:01 • ปรัชญา

ฮีลใจตัวเอง ?

…ฮีลใจ คงเป็นอีกคำในยุคนี้ที่ได้ยินกันบ่อย เเละคงคุ้นหูหลายๆ คน ว่าเเต่ฮีล หมายถึง คนอื่นมาฮีลเราหรือป่าว เราจะเยียวยาตัวเองได้หรอ
…เมื่อเราได้รับเรื่องราว หรือสิ่งอื่นๆ ที่มากระทบความรู้สึกเรา ความอ่อนไหวของมนุษย์ย่อมทำให้เราตอบสนองต่อสิ่งนั้นๆ อาจจะเป็นความรู้สึก เศร้า เครียด กดดัน ความรู้สึกเเย่ๆ ที่เป็นเมฆหมอกคอยปกคลุมรอบเรา
…ความรู้สึกที่มากระทบเรามันเป็นสิ่งที่รับมือได้ยากมากๆ เราไม่รู้ต้องทำไง ความรู้สึกมันเคว้ง เคว้งเเบบที่เราไม่รู้ว่าเราจะไปยังต่อ ไม่รู้ว่าจะเดินออก หรือเเก้ไขยังไง หรืออาจจะถึงขั้นไม่อยากจะเลือกเดินอะไรเเล้ว รู้สึกว่างเปล่าสุดๆ
…ระยะเวลาช่วงนึง ผมเคยมีคนที่คอยมาอยู่ข้างๆ เเล้วฮีลผมมาตลอด เชื่อปะว่าทุกครั้งที่เราเจอเรื่องเเย่ๆ เราไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเคว้งนาน เพราะเราเเม่งมีเค้าอยู่ไง ผมก็กลายเป็นคนๆ นึงที่กลับไม่เชื่อว่า จะฮีลตัวเองได้ เเบบไม่เชื่อจริงๆ
…ฟิลเเย่ๆ ของผมหลังจากนั้น มันเป็นความรู้สึกเหมือนเราต้องมาอยู่ในจุดที่เราไม่คุ้น ฟิลลิ่งโคตรเเย่ ความรู้สึกโหว่งๆ ไม่รู้จะเริ่มจากอะไร มุมมองเเบบหมอกลงหนาจนเราไม่รู้จะเลือกเดินไปทางไหน พึ่งมารู้ว่าตัวเองอ่อนเเอมากๆ ตอนไม่มีใครข้างๆ
…ฮีลใจตัวเอง คงดูเป็นเรื่องยากในสายตาหลายๆ คน เหมือนกับเรามองในมุมมองเเคบๆ ของคนปกติ จำเป็นต้องสังเกตหลายๆ อย่างเพื่อจะหาปัญหาที่เราต้องเเก้
…เเต่ถ้าในทางกลับกัน ถ้าเป็นการฮีลใจคนอื่น เราก็เหมือนมองมาจากมุมไกลๆ ที่มองเห็นได้รอบ ทุกๆ มุมของคนที่เจอปัญหา ไม่ต้องหันไปมาเพื่อมองสิ่งรอบๆ ตัว
  • การฮีลใจก็เหมือนการเยียวยาบาดเเผล เเต่สิ่งที่ใครหลายๆ คนคิดว่ามันเป็นสิ่งที่มาคู่กัน คือ Social Support มันจริง เเละจำเป็นขนาดนั้น ?
.อย่างที่อ่านกันไปข้างต้น การมองจากมุมมองคนอื่น จะเป็นการให้คำเเนะนำในอีกมุมมอง ซึ่งทำให้เรามองปัญหาในอีกมุมเพื่อเเก้ เเละมูฟจากมัน
.อีกอย่างที่ทำให้เราใจฟู คือ การมีคนมาคอยสนใจ เเละดูเเลเราในตอนที่เรารู้สึกเเย่ๆ มันโคตรจะฟูลฟิลสำหรับผม เเละใครหลายๆ คนที่เห็นตรงกับผม
.ถ้าเราขาด social sup. ไม่ได้จริงๆ ต้องการหาใครซักคนที่เข้าใจเรา เเละพร้อมคอยอยู่เป็นเพื่อน จากบริบทใครๆ ก็ต้องคิดไปไกลว่า ใครคนนั้นต้องเป็นความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อน คงเป็นหวานใจที่จะคอยอยู่ข้างๆ
.เเต่ก็ไม่ได้เสมอไป social sup. ที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นความสัมพันธ์ที่ดูยุ่งยากขนาดนั้น การเปิดรับ เเละมองในมุมกว้างๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นกว่าการไปเเอ๊วคนอื่นน้าา
.หยอกๆ นะ เอาเป็นว่าความเป็นจริง ใครคนนั้นอาจจะอยู่ใกล้ๆ เรา เช่น เพื่อน ป๊า ม้า อาม่า ใครที่เราคุยด้วยเเล้วรู้สึกดี อบอุ่นใจเวลาอยู่เเละพูดคุยกับคนเหล่านี้ คุยกับเบ๊บเเม่งไม่สำคัญขนาดนั้นหรอก (หยอกกกก)
  • ฮาวทูฮีลตัวเอง ทำไงเเล้วยากมัั้ย ?
Step ต่อจากนี้อาจจะได้ผล หรือไม่ เป็นสิ่งที่ผู้อ่านต้องนำไปประยุกต์ โดยนำใจความไปปรับปรุงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองนะครับ
สิ่งที่เราต้องตกลงกันก่อนคือ keyword ของเเต่ละสเตปต่อจากนี้
• เเก้ (หมายถึง เเก้เพื่อให้ปํญหานั้นๆ หายไป)
• เติมเต็ม (การเติมความสุขเล็กๆ เป็นของขวัญที่ดี)
.Step เเรก คือ การเเก้ปัญหา จากต้นตอสาเหตุของความรู้สึกเเย่ๆ เคยมีคำพูดของคนๆ นึงที่ปลอบผมว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เดี๋ยวเวลาก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ก็ยอมรับนะครับ ว่าผมรู้สึกดีมากๆ ที่รู้สึกมากขนาดนั้นก็เพราะว่า มีคนๆ นึงที่มาพูดกับเราเเบบนี้ในช่วงเวลาที่เราดาวน์มากๆ
.เเต่พอ ผมกลับไปคิด เเละพึ่งรู้สึกตัวตอนที่ผมเป็นฝ่ายปลอบใจเขา ไม่ว่าจะครั้งไหน ผมไม่เคยคืดจะพูดประโยคเหล่านี้เลย เเต่ผมกลับเลือกที่จะปลอบในอีกเเบบ ที่ผมรู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยความจริงใจ อบอุ่น ให้เขารู้สึกว่ามีเราอยู่ตรงนี้ เเละเลือกที่จะก็ให้คำเเนะนำในการ “เเก้ปัญหา”
.เเทนการปลอบใจโดยไม่ให้เขา take action ผมกลับรู้สึกดีกว่าถ้าผมได้เป็นส่วนนึงที่ทำให้เขาได้ลงมือเเก้มันด้วยตัวเอง เเละทำให้ความรู้สึกจากปัญหานี้หายไปจริงๆ ด้วยการเเก้ปัญหาโดยตัวเขาเอง โดยมีเราเเอบภูมิใจถ้าเขาทำมันสำเร็จ
.ประโยคที่บอกว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ตอนนี้ในความคิดผม คงเป็นประโยคปลอบประโลมที่ดี อีกหนึ่งประโยค เเต่ผมไม่เคยที่จะคิดว่ามันเป็นเเบบนั้นได้จริง
.ก็เหมือนกับเวลาคุณค้างคาอะไรกับคนคุยเก่าเเล้วไม่ได้พูดให้ทุกอย่างเคลียร์ ถึงจะพยายามลืม เเล้วใช้ประโยคที่ว่า เดี๋ยวก็จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น พอคุณได้เจออะไรเกี่ยวกับเขา มันจะรู้สึกยังไงครับ ความรู้สึกเดิมๆ มันกลับมาไงครับ เพราะงั้น เลิกโง่ที่จะเชื่อประโยคที่คนๆ นึงบอกผม เเล้วลงมือเเก้ปัญหานั้นอย่างฉลาดนะครับคนเก่ง 🤍✨
.step 2 หาอะไรที่ ฟิลกู้ด สำหรับคุณ กรอกมันลงปาก เเละโอบกอดมันไว้ หาสิ่งที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเล็กเเค่ไหน ทำมันครับ ถ้ามันไม่เกิดผลเสีย เช่น กดสิวอักเสบบนหน้า ตู้มม eww (อย่า ทำ นะครับบ! หลุมสิวรักษายากกว่าสิวล้านสามเเสนเท่า)
คนที่เเก้ปัญหาได้จริงๆ ก็คือคุณ คุณคือกุญเเจที่จะปลดล็อกเรื่องเเย่ๆ เพื่อให้เรื่องราวทุกอย่างมันดีขึ้นในเเบบที่คุณต้องการ
คุณคือกุญเเจที่จะปลดล็อกเรื่องเเย่ๆในชีวิต
การฮีลใจตัวเอง น่าจะเป็นซอฟสกิลที่ทุกคนควรมีเพื่อจะเป็นเกราะป้องกันจากความเครียดเนื่องจากเรื่องราวต่างๆ ที่คุณต้องผมเจอระหว่างการดำเนินชีวิต อย่ารอที่จะหวังให้ใครฮีลใจเรา ถ้าเราไม่เริ่มฮีลใจตัวเอง (เเก้ปํญหาด้วยนะ!) เเล้วคุณก็จะเป็นคนที่เก่งกว่าคุณคนเมื่อวาน
บทส่งท้ายจากผมเองง
ผมไม่เชื่อในโอกาสที่โลกจะเหวี่ยงใครซักคน ที่จะมาอยู่ข้างๆ ฟังดูโคตรเเหวะ เเต่ผมเชื่อว่าตัวเองจะเก่งพอ พอที่เราจะเป็นคนที่ดีที่สุดเพื่อมาอยู่ข้างๆ ตัวเองในตอนเราไม่มีใคร ไม่เห็นต้องรอเเบบโง่ๆ รอใครซักคนมาซัพ อย่าโง่ที่จะต้องรอนะครับ ลองถามตัวเองว่า เราจะเป็นในสิ่งที่เราขาดหายได้รึป่าว
ไม่ได้เเปกที่เราจะมีชีวิตฟูลฟิลทั้งๆ ที่เราอยู่คนเดียว ผมว่ามันเป็นสกิลที่ดีสุดๆ 🐰
Have a nice day ง้าบบบ 🔮💜
โฆษณา