12 มี.ค. 2023 เวลา 02:14 • สุขภาพ

สารให้ความหวานบางชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

(เรียบเรียงโดย ณัฐนันท์ รัตนชื่อสกุล)
อิริทริทอล(Erythritol) เป็นสารให้ความหวานที่มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายน้ำตาล มันยังคงให้พลังงาน แต่ให้ในปริมาณที่ค่อนข้างต่ำ เช่น เดียวกับซอร์บิทอล (Sorbitol) ไซลิทอล (Xylitol) และแมนนิทอล (Mannitol) อิริทริทอลพบในผลไม้ตามธรรมชาติในปริมาณน้อย แต่มีอยู่มากในอาหารแปรรูปต่างๆ เช่น แป้งขนมปัง และ ไอศครีม เป็นต้น โดยให้ความหวานประมาณ 2 ใน 3 เท่าของน้ำตาลทราย ถูกใช้มานานหลายสิบปี
2
อิริทริทอล(Erythritol) ที่มา : Wikipedia
ล่าสุด งานวิจัยในสหรัฐอเมริกาได้ทำการเจาะเลือดของผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงของโรคหัวใจมาวิเคราะห์และเฝ้าติดตามเป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อหาสารเคมีในเลือดที่เป็นสัญญาณบ่งชี้การเกิดสโตรคหรือโรคหัวใจขึ้น โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ แม้ว่าจะควบคุมปัจจัยเสี่ยงสำคัญเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นความดันโลหิต เบาหวาน และ คอเลสเตอรอล แต่อาการของโรคหัวใจก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี จึงมีการศึกษาปัจจัยอื่นๆที่เป็นไปได้เพิ่มเติม
ผลการศึกษาพบว่า คนที่มีระดับของอิริทริทอลสูงในกระแสเลือดนั้นมีความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่มคน 25% แรกที่มีระดับอิริทริทอลสูงสุดในกระแสเลือดนั้นมีความเสี่ยงของการเกิดสโตรค หัวใจวาย และเสียชีวิตมากกว่า กลุ่มที่มีระดับอิริทริทอลต่ำที่สุด ถึง 2 เท่า
1
ที่มา : https://www.health.harvard.edu/heart-health/a-closer-look-at-heart-disease-risk
กล่าวได้ว่าการมีระดับอิริทริทอลสูงในกระแสเลือดนั้นอาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดพอๆกับการเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้งานวิจัยยังพบว่า อิริทริทอลทำให้เกล็ดเลือดเกิดการจับตัวเป็นก้อนในหลอดทดลอง และเกิดลิ่มเลือดขึ้นในหนูทดลองอีกด้วย
2
จากนั้นนักวิจัยยังให้อาสาสมัครที่สุขภาพแข็งแรงดี 8 คนบริโภคเครื่องดื่มที่มีอิริทริทอลผสมอยู่ในปริมาณเท่ากับน้ำตาลเทียมที่คนทั่วไปได้รับจากเครื่องดื่ม 1 กระป๋อง หลังจากรับประทานพบว่าระดับอิริทริทอลในกระแสเลือดนั้นสูงขึ้นหลักพันเท่าเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดนานกว่า 2 วัน
ทางผู้วิจัยได้เน้นย้ำให้ผู้ป่วย หรือผู้มีภาวะเสี่ยงของโรคหัวใจให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีการเติมอิริทริทอล เนื่องจากกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะรับประทานเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเทียมหรือไอศครีมคีโตมักจะเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจอยู่ก่อนแล้ว เช่น ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน และโรคเบาหวานเป็นต้น
2
ที่มา : Wikipedia
อย่างไรก็ตาม การค้นพบในครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงสังเกต อาจจะมีปัจจัยอื่นๆที่รบกวนได้ เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ อย่างอาหารที่มีแป้งและไขมันสูง ร่วมกับการบริโภคอิริทริทอล เป็นต้น ในตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้มีการศึกษาทดลองเพิ่มเติมเพื่อควบคุมตัวแปรต่างๆให้ดียิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยในขณะนี้ และหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority : EFSA) กำลังประเมินความเป็นอันตรายของสารให้ความหวานทั้งหมด 15 ชนิดใหม่อีกครั้ง
โฆษณา