สหรัฐ ร่อแร่อีก! ประกาศจะมายืนเคียงข้างธนาคารเสมอให้กู้เงินไปเลย
....ภายหลังสหรัฐ คว่ำบาตรรัสเซีย ตกหล่มสงครามในยูเครน มา 1 ปี และซ้ำเติมด้วยกีดกันจีน ส่งผลให้หนี้สาธารณะของรัฐบาลท่วมล้นเกินเพดาน 31.4 ไปเป็น 31.6 ล้านล้านดอลลาร์ ก็เกิดอัตราเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยรัวถี่ยิบจนเกิน 5% เกิดภาวะ "ฟองสบู่แตก" ทางเศรษฐกิจการเงิน แค่ 4 วันเท่านั้นธนาคารและสถาบันการเงิน 3 แห่ง คือ Silicon Valley Bank (SVB) , Silvergate Bank , และ Signature Bank ประกาศล้มละลาย ถูกรัฐยึดกิจการ
ต่อมาทางการอังกฤษประกาศให้ธนาคารสาขาคือ Silicon Valley Bank UK ล้มละลายตามไป และยึดกิจการ ธนาคารของสหรัฐ ที่น่าช็อคคือ กระทรวงการคลังอังกฤษรีบประกาศขายกิจการธนาคาร SVB UK ของสหรัฐ
ให้กับธนาคาร HSBC ที่เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและบริการทางการเงินใหญ่ที่สุดในโลก โดยขายกิจการในราคาแค่ 1 ปอนด์เท่านั้น น่าจะเป็นการซื้อกิจการธนาคารที่ราคาถูกที่สุดในโลก โดย HSBC จะรับมาบริหารเงินฝากต่อไป
ความวุ่นวายวงการธนาคารสหรัฐ ยังส่อเค้าลามทั่วโลก เนื่องจากธนาคาร SVB มีสาขาอยู่ในจีน เดนมาร์ก เยอรมนี อินเดีย อิสราเอล สวีเดน สิงคโปร์ ด้วย โดยอาจทำลายบริษัทสตาร์ตอัปทั่วโลก
แต่ที่จีนนั้นไม่มีปัญหา เพราะธนาคารสาขา SSVB เป็นบริษัทร่วมทุนกับธนาคารเพื่อการพัฒนาเซี่ยงไฮ้ผู่ตงของจีนที่ร่ำรวยกว่าธนาคารสหรัฐมาก มีโครงสร้างทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีงบดุลบัญชีสำหรับการดำเนินงานที่แยกเป็นอิสระ
บรรดาผู้นำเทคโนโลยีของเอเชียต่างเร่งประเมินผลกระทบจากวิกฤตธนาคารสหรัฐ ล้มละลายประชุมกันที่สิงคโปร์ และอินเดีย เนื่อง ธุรกิจสตาร์ตอัปเทคโนโลยี ต้องการเงินฝากธนาคารจำนวนมาก เพื่อนำมาใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ เช่น การวิจัยและการพัฒนา ตลอดจนถึงเงินเดือนพนักงาน
ต่อมากระทรวงการคลังสหรัฐ พร้อมด้วยธนาคารกลาง (FED) และบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) กลัวว่าธนาคารจะล้มตามกันเป็นทอดๆ ร้อนตัวออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าจะสร้างความเชื่อมั่นในระบบการธนาคารคุ้มครองเงินฝาก
วิธีการสุดพิลึก คือ ให้ธนาคารที่ส่อจะล้มละลายอีกราว 5 แห่งนำ "พันธบัตรรัฐบาล" ที่สมมุติค่าขึ้นมาจากความเชื่อใจ นำไปขอกู้เงินกับรัฐบาลเอา "เงินดอลลาร์" มาหมุนโดยใช้พันธบัตรรัฐบาลค้ำประกัน
โดยรัฐบาลสหรัฐ รับประกันว่า กู้ไปเลยไม่ต้องกลัวจะมายืนเคียงข้างพิมพ์เงินให้เสมอ ประมาณเปรียบเทียบว่าเอากระดาษเปื้อนหมึกแผ่นเดียวที่ชื่อว่า "พันธบัตร" ไปแลกกระดาษเปื้อนหมึกหลายแสน หลายล้านแผ่นที่ชื่อว่า "ดอลลาร์"
จากนั้นเอาเงินไปคืนให้ผู้ฝาก เป็นการแก้ปัญหาที่กำปั้นทุบดินมาก เพราะทั้งพันธบัตร และดอลลาร์ ต่างเป็นแค่กระดาษเปื้อนหมึกแห่ง "ความเชื่อใจ" ไม่ได้มีทองคำ หรือน้ำมัน ค้ำประกันมานานแล้ว
ต่อมาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ออกมาปราศรัยโน้มน้าวชาวอเมริกันให้มั่นใจในความปลอดภัยของระบบธนาคารของชาติ ว่า "หากจำเป็น" จะได้รับเงินฝากคืนทั้งหมด
เขาย้ำว่า "ประชาชนชาวอเมริกัน และธุรกิจอเมริกันเชื่อมั่นได้เลยว่า เงินฝากของตนจะยังคงอยู่ในธนาคารในเวลาที่คุณต้องการใช้ และผู้บริหารของธนาคารที่ล้มละลายจะถูกไล่ออก"
ภายหลังคำปราศรัยของไบเดน หุ้นของธนาคารในภูมิภาคของอเมริกา ร่วงลงเฉลี่ยราว -50% ด้อยค่าหนักยิ่งกว่าเดิม
วิเคราะห์ว่า..ธนาคารใหญ่ระดับชาติวางแผนปล้นธนาคารท้องถิ่นโดยใช้กลยุทธ์ "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก" ทุบกิจการธนาคารในระดับภูมิภาคและท้องถิ่นให้ล้มละลายเสียก่อน จนถูกรัฐบาลกลางยึดกิจการ
แน่นอนว่ามูลค่าสินทรัพย์ธนาคารเหล่านั้นย่อมขาดทุนติดลบเล็กน้อย ขั้นต่อไปกระทรวงการคลังสหรัฐ จะอุ้มเงินฝากที่ธนาคารที่ล้ม จากนั้นรีบกุลีกุจอขายทอดตลาดกิจการธนาคารท้องถิ่นเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
โดยมีผู้ซื้อคือ ธนาคารยักษ์ใหญ่จากส่วนกลาง หรือมหาเศรษฐีร่ำรวย ที่จะใช้แค่พันธบัตรที่ตนมีบางส่วน เข้าช้อนซื้อกิจการธนาคารสินทรัพย์ราคาถูกเลหลังเหล่านั้น หลักการเดียวกับทุบเศรษฐกิจไทยปี 2540 ให้เกิดวิกฤติต้มย้ำกุ้ง แล้ว IMF บังคับช้อนซื้อกิจการไทยดีๆ ในราคาถูก
ทำแบบที่กระทรวงการคลังอังกฤษ รีบยึดและขายทอดกิจการธนาคาร SVB UK ของสหรัฐ ให้กับธนาคาร HSBC อังกฤษในราคา 1 ปอนด์
เมื่อก่อนนี้เราอาจเคยเห็นข่าวโจรบุกปล้นธนาคารเอาเงินฝากไป แต่สมัยนี้เขาทุบให้ธนาคารเล็กล้มละลายเสียก่อน
แล้วธนาคารใหญ่รีบเข้ามาซื้อฮุบกิจการไป ลงทุนนิดหน่อย ปล้นเงินฝากกันง่ายๆ แบบนี้เลย จึงคาดว่าธนาคารเล็กในสหรัฐ จะถูกทุบให้ล้มเพิ่มอีกราว 5 แห่ง
ส่วนรัฐบาล และธนาคารกลาง จะมีข้ออ้างเท่ๆ ว่า เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบธนาคาร สภาคองเครสต้องรีบโหวตเห็นชอบให้ขยายเพดานหนี้สาธารณะสหรัฐ ให้เกินเพดาน 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน มิ.ย.2566
จากนั้นพวกเขาจะใช้กระดาษ และหมึกสี พิมพ์เงินดอลล่าร์ที่ไม่มีหลักประกันมากขึ้นไปอีก ทีนี้ก็จะอ้างได้ว่า "ดอลลาร์เป็นกระดาษที่น่าเชื่อถือ"
เชื่อใจได้รัฐบาลค้ำประกัน แล้วก็นำไปใช้หนี้ต่างชาติ และซื้ออาวุธไปทำสงครามต่อไปแน่นอน 😁🤭😂
⏩🤗 ชอบข่าวนี้กดรูปหัวใจด้านล่าง ⤵️
World News
14/ม.ค./2566
👇👇ชอบข่าวนี้กดรูปหัวใจหรือแชร์ ⤵️⤵️
- 35
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
