14 มี.ค. 2023 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

3 ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ที่นักลงทุนต้องรู้

🍔 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีอยู่ 2 ตลาดหลัก ๆ ที่สำคัญ คือ ตลาดหุ้น NYSE (New York Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq (Nasdaq Stock Market) โดยมี “ดัชนีหุ้น” เป็นตัวเลขที่สะท้อนภาพรวมของตลาดหุ้นในวันนั้น ๆ ทำให้เรามองเห็นการเคลื่อนไหวของตลาด ไปจนถึงทิศทางของธุรกิจ ณ ขณะนั้น และเพื่อให้เห็นภาพกว้างในระดับอุตสาหกรรม หรือระดับประเทศ นักลงทุนหลายรายจึงต้องติดตามดัชนีหุ้นหลายดัชนีไปพร้อม ๆ กัน
4
***รู้จักดัชนีหุ้นให้มากขึ้น ต้องลองลงทุนด้วยตัวเอง เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Dime! จาก App Store หรือ Play Store ที่ 👉https://dimekkp.onelink.me/sq7H/jl21u7ri
👀 วันนี้เราจึงมาแชร์ 3 ดัชนี้หุ้นยอดนิยมของสหรัฐฯ ที่เพื่อน ๆ ต้องรู้ก่อนลงทุนหุ้นนอก ไปทำเข้าใจความหมายของแต่ละดัชนี้กันเลย
1. ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones (Dow Jones Industrial Average : DJIA)
1
เป็นดัชนีที่คำนวณจากหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 30 บริษัท ที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้น NYSE และ Nasdaq
วิธีคำนวณของดัชนี้นี้ จะเอาราคาของหุ้นทั้ง 30 ตัวมาบวกกันแล้วหารด้วยค่าคงที่ค่าหนึ่งที่เรียกว่า Dow Divisor ซึ่งวิธีคำนวณแบบนี้บริษัทที่มีหุ้นราคาสูง จะมีผลต่อดัชนีมากกว่าบริษัทที่มีหุ้นราคาต่ำครับ
ดังนั้น หุ้นที่อยู่ในดัชนีนี้จะเป็นหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม นักลงทุนจึงนิยมติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นบลูชิพ (Blue Chip Stock) ผ่านดัชนีนี้
📌 แต่หลายคนก็มองว่า DJIA สะท้อนภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ไม่ดีเท่าดัชนี S&P 500 เพราะ DJIA ได้มาจากการคำนวณหุ้นอยู่แค่ 30 บริษัทต่างจากดัชนี S&P 500 ที่มีจำนวนบริษัทมากกว่า
2. ดัชนี S&P 500 (Standard & Poor's 500 Index)
คำนวณจากหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 500 บริษัทที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้น NYSE และ Nasdaq ด้วยวิธีถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดที่ปรับด้วย Free Float (การกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย) ทำให้หุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงจะมีผลต่อดัชนีมากกว่าหุ้นที่มีมูลค่าตลาดต่ำ นอกจากนี้ ในการคำนวณดัชนียังมีการปรับด้วยปริมาณการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free-Float Adjusted) อีกด้วย
📌 มูลค่าของบริษัทที่อยู่ในดัชนีนี้คิดเป็น 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งหมด โดยนักลงทุนมักใช้ดัชนีนี้เพื่อดูภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
3. ดัชนี Nasdaq (Nasdaq Composite Index)
คำนวณจากหุ้นทั้งหมดที่อยู่ในตลาดหุ้น Nasdaq หุ้นที่อยู่ในดัชนีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นักลงทุนส่วนใหญ่จึงมักใช้ดูความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีผ่านดัชนีนี้
📌 ส่วน “ดัชนี Nasdaq” กับ “ดัชนี Nasdaq-100” จะเหมือนกันตรงที่คำนวณจากหุ้นในตลาดหุ้น Nasdaq แต่จะต่างกันที่ดัชนี Nasdaq จะคำนวณจากหุ้นทั้งหมด ส่วนดัชนี Nasdaq-100 จะคำนวณโดยใช้หุ้นของ 100 บริษัทและไม่มีหุ้นกลุ่มธุรกิจการเงิน
ปัจจุบันมีนักลงทุนจำนวนมากที่นิยมลงทุนในดัชนี้หุ้นดังกล่าว เนื่องจากต้องการกระจายความเสี่ยงในหุ้นหลักสิบไปจนถึงหลักร้อยตัว แทนการโฟกัสการลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ที่มีความเสี่ยงมากกว่านั่นเอง
ลงทุนหุ้นสหรัฐฯ เริ่มต้นเพียง 50 บาท และรับรางวัล Dime! Lucky สูงสุดอีก 1,000 บาท* เพียงชวนเพื่อนเปิดบัญชีกับ Dime! ยิ่งชวนมาก ยิ่งได้มากนะครับ
อ่านกติกาเพิ่มเติม https://dime.co.th/th/articles/spread-the-dime-love
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
════════════════════            
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน            
════════════════════
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่            
Facebook - https://www.facebook.com/dimeinvest            
Instagram - https://www.instagram.com/dime.finance      
Twitter - https://twitter.com/dimefinance       
TikTok - https://www.tiktok.com/@dime.finance            
LINE -  https://lin.ee/4W7j4nG                  
-----
อ้างอิง
โฆษณา