14 มี.ค. 2023 เวลา 09:51 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

Many Differences between Liberals and Conservatives May Boil Down to One Belief

ความแตกต่างหลายอย่างระหว่างพวกเสรีนิยมและพวกอนุรักษ์นิยมอาจมาจากความเชื่อเดียว
พวกอนุรักษ์นิยมมักจะเชื่อว่าการแบ่งแยกชนชั้นอย่างเข้มงวดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พวกเสรีนิยมไม่ได้คิดเช่นนั้น
ความไม่ลงรอยกันทำให้การเมืองของเราเป็นอัมพาต และทำให้ความสามารถโดยรวมของเราในการทำสิ่งต่างๆ ให้ลุล่วงก็เป็นอัมพาตไปด้วย แล้วความขัดแย้งเหล่านี้เกิดมาจากไหน ความแตกต่างระหว่างแนวคิดแบบเสรีนิยมและแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม หลายคนอาจพูดว่า วิธีที่ผู้คนของทั้งสองกลุ่มมองโลก ยิ่งพบว่ามีความแตกต่างกันมาตั้งแต่ทางพื้นฐานแล้ว
ในทางการเมือง นักวิจัยมักให้คำจำกัดความของลัทธิอนุรักษ์นิยมว่า เป็นลัทธิที่มีแนวโน้มที่จะต่อต้านการเปลี่ยนแปลง และสามารถทนต่อความไม่เท่าเทียมทางสังคมได้ ส่วนลัทธิเสรีนิยม มีแนวโน้มที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง และไม่ชอบความไม่เท่าเทียมกันในสังคม พรรคการเมืองมีวิวัฒนาการไปตามกาลเวลา พรรคเดโมแครตเคยเป็นพรรคแนวอนุรักษ์นิยมเมื่อ 150 ปีที่แล้ว แต่โดยทั่วไปแล้ว การแบ่งแยกระหว่างเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยม เป็นสิ่งที่รับรู้ได้ในการเมืองของประเทศ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เกิดความร่วมมือทางการเมืองของทั้งสองฝ่าย
นักจิตวิทยาสงสัยมานานแล้วว่า ความแตกต่างพื้นฐานไม่กี่ประการในโลกทัศน์หรือมุมมองของการมองโลก อาจเป็นรากฐานของความเข้ากันไม่ได้ของฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายเสรีนิยม ผลจากการวิจัยกว่าสี่สิบปีพบว่า พวกอนุรักษ์นิยมจะมองว่าโลกเราเป็นสถานที่ที่อันตรายมากกว่าพวกเสรีนิยมมองโลก
ความเชื่อนี้ดูเหมือนจะช่วยอธิบายความไม่ลงรอยกันทางนโยบายหลายอย่าง เช่น การสนับสนุนการครอบครองปืนของฝ่ายอนุรักษ์นิยม การบังคับใช้กฏหมายในพื้นที่เขตชายแดน และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกับตำรวจและทหาร ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ เป็นแนวคิดของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ซึ่งทั้งหมดนี้ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมสามารถพูดแย้งได้ว่า มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องผู้คนจากภายนอกประเทศที่อพยพเข้ามาคุกคามคนในประเทศ
แต่งานวิจัยใหม่ของนักจิตวิทยา เคอรี Nick Kerry และตัวฉัน ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย University of Pennsylvania ได้ขัดแย้งกับทฤษฎีที่เคยมีมาอย่างยาวนาน เพราะผลที่ได้จากงานวิจัยนั้น เราพบว่า ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างฝ่ายเสรีนิยมและฝ่ายอนุรักษ์นิยมคือความเชื่อที่ว่า โลกเราอยู่กันเป็นลำดับของชนชั้น
งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่า พวกอนุรักษ์นิยมมีความเชื่อฝังหัวเรื่องการแบ่งชนชั้นมากกว่าพวกเสรีนิยม ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วมุมมองที่ว่าโลกเป็นสถานที่ ที่มีเส้นแบ่งระหว่างกลุ่มระหว่างพวก ถ้าเรามีความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของทั้งสองกลุ่มนี้ จะสามารถช่วยให้สังคม เชื่อมความแตกแยกในทางการเมืองได้ดีขึ้น
เราค้นพบสิ่งนี้โดยบังเอิญ ทีมวิจัยของฉันใช้ความพยายามอย่างมาก เพื่อสร้างแผนที่ของความเชื่อพื้นฐานทั้งหมด ที่ผู้คนมีเกี่ยวกับโลก เราจะเรียกหลักธรรมความคิดความเชื่อเหล่านี้ว่า "ความคิดความเชื่อของโลกยุคแรก" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "ไพรมอล" Primals
ซึ่งไพรมอลหรือจะเรียกว่า แนวคิดแนวความเชื่อที่ว่านี้ จะสะท้อนถึงสิ่งที่ผู้คนคิด เช่น คนคิดว่าสิ่งต่างๆ ส่วนใหญ่มีความสวยงาม หรือคนคิดว่าชีวิตมักมีความเจ็บปวดและมีความทุกข์ทรมาน เราจึงคิดว่าความคิดความเชื่อเหล่านี้ มีส่วนสำคัญต่อสุขภาพจิต และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนด้วย
ความพยายามของเราเริ่มต้นด้วยโครงการวิจัยจำนวน 10 โครงการ เพื่อหาและระบุตัวตนความเชื่อไพรมอลที่เป็นไปได้ เช่น การรวบรวมข้อมูลจากข้อความที่ทวีต มากกว่า 80,000 รายการ และจากงานเขียนที่มีอิทธิพล 385 ชิ้น รวมถึงพระคัมภีร์ไบเบิ้ล และคัมภีร์ภควัทคีตาของฮินดู หลังจากที่ได้วิเคราะห์ทางสถิติหลายรอบด้วยข้อมูลจากผู้คนมากกว่า 2,000 คน ทีมงานวิจัยเราสามารถระบุกลุ่มไพรมอลได้ 26 กลุ่ม
และพบว่า ความคิดเชื่อของคนส่วนใหญ่นั้น มีความคิดความเชื่อแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ออกได้เป็นสามกลุ่ม คือ 1. ฝ่ายที่มองว่าโลกของเราโดยทั่วไปมีอันตราย หรือฝ่ายมองว่าโลกของเราโดยทั่วไปมีความปลอดภัย 2. ฝ่ายที่มองว่าโลกของเราโดยทั่วไปน่าเบื่อ หรือฝ่ายที่มองว่าโลกของเราโดยทั่วไปน่าอยู่ 3. ฝ่ายที่มองว่าโลกของเราโดยทั่วไปมีชีวิตชีวา หรือฝ่ายที่มองว่าโลกของเราโดยทั่วไปไม่มีชีวิตเป็นเหมือนหุ่นยนต์หรือกลไก
เราได้สร้างแบบสำรวจออนไลน์ฟรีที่ผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์แล้ว ซึ่งคุณสามารถทำแบบสำรวจได้ หากต้องการเรียนรู้ว่าไพรมอลของคุณมีค่าเป็นเท่าไรเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ย
ในการวิจัยส่วนใหญ่ของเรา เรายังขอให้ผู้คนระบุความชอบพรรคการเมืองของพวกเขา และให้คะแนนว่าพวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นเสรีนิยม หรือเป็นอนุรักษ์นิยม ในการวิจัยช่วงแรกๆ ที่มุ่งเน้นไปที่ความเป็นอยู่ที่ดี ฉันสังเกตเห็นความสัมพันธ์ที่น่าประหลาดใจระหว่างความเชื่อของผู้คน กับวิธีที่พวกเขาตอบคำถามสองข้อนี้ โดยทางเราพบว่าความเชื่อที่ว่าโลกเป็นที่อันตราย ไม่ได้เชื่อมโยงกับพรรคหรืออุดมการณ์ ดังผลจากงานวิจัยในอดีต ซึ่งก็รวมถึงบางส่วนของผลจากงานวิจัยของเรา ที่ได้เคยกล่าวไว้
เราทำการวิจัยเพิ่มเติมอีก 9 ชิ้น โดยมีผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวนเกือบ 5,500 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน เพื่อให้แน่ใจว่าเราทำถูกต้อง ผลการวิจัยเหล่านี้ ได้ชี้ให้เห็นว่า ความแตกต่างหลักระหว่างฝ่ายเสรีนิยมและฝ่ายอนุรักษ์นิยมนั้นมาจากความเชื่อของโลกเราอาศัยอยู่เป็นอันตราย โดยฝ่ายอนุรักษ์นิยมมองว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้เต็มไปด้วยอันตราย ฝ่ายเสรีนิยมจะมองว่าโลกมีความสวยงามไม่ได้อันตราย
โดยผลการวิจัยของเราพบว่า ที่ทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกันนั้น ไม่ได้เกิดจากความเชื่อว่าโลกอันตรายหรือไม่อันตราย แต่ทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันเพราะ มาจากมีความคิดความเชื่อว่า โลกที่เราอาศัยอยู่มีลำดับชนชั้น ผลจากงานวิจัยพบว่า ความเชื่อว่าโลกที่เราอาศัยอยู่มีลำดับชนชั้นนั้น เกี่ยวข้องกับอุดมการณ์ทางการเมือง มากกว่าความเชื่อที่ว่าโลกเรามีอันตรายถึง 20 เท่า
ผู้คนที่มีความเชื่อแบบการมีลำดับชนชั้นจะมองว่า โลกของเราเต็มไปด้วยมีความแตกต่างที่ชัดเจน เพราะพวกเขามักจะสะท้อนบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ เป็นจริง และมีความสำคัญ ผู้คนที่มีความเชื่อดังกล่าว มักจะแยกสิ่งที่มีค่ามาก ออกไปจากสิ่งที่มีค่าน้อยกว่า
คุณเองก็อาจจะจินตนาการได้ว่า สำหรับผู้คนที่เขามีความเชื่อแบบการมีลำดับชนชั้นแล้ว โลกนี้สำหรับพวกเขา ดูเต็มไปด้วยเส้นสีดำขนาดใหญ่ ส่วนมุมมองที่ตรงกันข้าม ซึ่งคือคนที่มีความเชื่อเล็กน้อยในเรื่องการมีลำดับชนชั้น มักจะมองว่าการมีความแตกต่างหรือการมีลำดับชนชั้นนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องผิวเผิน และบางครั้งยังคิดไปว่าการมีลำดับชนชั้นหรือมีความแตกต่างนั้นเป็นสิ่งโง่เขลา สำหรับกลุ่มคนที่มีมุมมองเช่นนี้ โลกส่วนใหญ่ของเขาเป็นเส้นประหรือเป็นเฉดสีเทา
ประเภทของแนวคิดแบบการจัดแบ่งลำดับชนชั้นส่วนใหญ่ที่มีการวิจัย ดังเช่น การวางแนวทางในการครอบงำทางสังคม ความชอบเกี่ยวกับวิธีการจัดระบบของมนุษย์ แต่ความเชื่อของโลกแบบลำดับชั้น เกี่ยวข้องกับวิธีที่ผู้คนมองโลก ว่ามันมีอยู่จริง โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาต้องการจะเห็นอะไร นอกจากนี้ ไพรมอลนี้ไม่เพียงนำไปใช้กับกลุ่มมนุษย์เท่านั้น แต่ยังนำไปใช้กับทุกสิ่ง รวมถึงพืช สัตว์อื่นๆ และวัตถุที่ไม่มีชีวิต สำหรับคนที่มีความเชื่ออย่างสูงในเรื่องการมีลำดับชนชั้น โลกจึงเป็นสถานที่ ที่เส้นแบ่งมีความสำคัญมาก
เหตุผลหนึ่งที่การค้นพบของเราน่าตื่นเต้นคือ เพราะมันบอกใบ้ถึงวิธีการทำงานผ่านจุดตันทางการเมืองที่เจาะจงบางเรื่อง ตัวอย่างเช่น การโต้ในสภาเกี่ยวกับหัวข้อ แอลจีบีทีคิว LGBTQ+ พวกอนุรักษ์นิยมมองว่า เส้นแบ่งชายหญิงเป็นธรรมชาติและเป็นมาแต่กำเนิด ซึ่งเป็นเส้นที่ใหญ่และชัดเจน
ในขณะที่พวกเสรีนิยมอาจมองว่าเส้นแบ่งนั้นเป็นเพียงผิวเผินและมีรากฐานมาจากวัฒนธรรม ซึ่งเป็นพื้นที่สีเทา การจ่ายสวัสดิการและนโยบายก็อาจถูกมองผ่านมุมมองแบบลำดับชนชั้น โดยบางคนสันนิษฐานว่า เส้นแบ่งระหว่างคนรวยกับคนจน มักจะสะท้อนถึงความแตกต่างเช่น ในจรรยาบรรณในการทำงาน พรสวรรค์ ศีลธรรม หรือการมีคุณค่าต่อสังคมของผู้คน
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการถกเถียงเรื่องการทำแท้งอาจเป็นเรื่องการตั้งครรภ์ พวกอนุรักษ์นิยมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตมนุษย์และมีความสำคัญมาก ถ้าเป็นในมุมมองที่ไม่มีการมีชนชั้นของพวกเสรีนิยมคือ ชีวิตจะโผล่ออกมาเรื่อยๆ ทีละน้อยจากในหลายๆ จุดเริ่มต้น
การถกเถียงเรื่องผู้อพยพเข้าประเทศ มักเกี่ยวข้องกับเส้นแบ่ง เช่น พรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก หากความเชื่อของโลกแบบไม่มีลำดับชั้นหรือความคิดแบบเสรีนิยม ก็คงไม่มีใครแปลกใจ ที่พวกเสรีนิยมลดความสำคัญในการบังคับใช้พรมแดนเหล่านั้น
การรู้เกี่ยวกับการแยกซ้ายขวาตามความเชื่อของโลกแบบการมีลำดับชั้นอาจมีประโยชน์ในทางปฏิบัติ เชสเตอร์ตัน G. K. Chesterton นักเขียนชาวอังกฤษเคยเขียนไว้ว่า “สิ่งที่เป็นประโยชน์และสำคัญที่สุดเกี่ยวกับมนุษย์ก็คือมุมมองของเขาที่มีต่อโลก” แม้ว่าฉันจะไปได้ไม่ไกล แต่เชสเตอร์ตันก็มีมุมมอง ไม่ว่าคุณจะต้องการเห็นอกเห็นใจอีกฝ่ายหนึ่ง เอาชนะพวกเขาในการเลือกตั้ง หรือโน้มน้าวพวกเขาถึงนโยบาย การเข้าใจหลักการความคิดของผู้อื่นก็มีประโยชน์
และอีกครั้ง ความคิดความเชื่อเหล่านั้น ได้ทำให้เกิดแนวโน้มของโลกขึ้นมา ดังนั้น ความแตกต่างทางความเชื่อความคิดของทั้งสองฝ่ายนั้น ทำให้การอภิปรายในสภามีผลลัพธ์ที่ดีออกมา และเป็นผลดีกับประชาชน
ตัวอย่างเช่น ลองนึกภาพว่า มีการพยายามโน้มน้าวให้กลุ่มอนุรักษ์นิยมยอมรับนโยบายเสรีมากขึ้น เกี่ยวกับสิทธิของคนข้ามเพศ หากคุณเชื่อว่าพวกอนุรักษ์นิยมกลัวต่ออันตราย คุณอาจสังเกตว่าคนข้ามเพศมีแนวโน้มที่จะถูกทำร้ายมากกว่าที่จะทำร้ายตัวเอง ซึ่งเป็นกลวิธีในการบรรเทาความกลัวของพวกอนุรักษ์นิยม
แต่อีกวิธีหนึ่งคือการทำให้เส้นไม่ชัดเจน ซึ่งเราอาจจะสังเกตว่า มีทารกจำนวนน้อยแต่มีสม่ำเสมอที่ทารกเหล่านั้นเกิดมาพร้อมกับอวัยวะเพศที่ไม่ชัดเจน และก็ไปกำหนดเพศเด็กโดยพลการตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งบ่งชี้ว่า เส้นแบ่งระหว่างเพศชายกับเพศหญิงนั้นไม่ชัดเจนเสมอไป
เพื่อไปสู่จุดแห่งความร่วมมือ แม้ท่ามกลางความไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรงของทั้งสองฝ่าย ผู้คนมักต้องเข้าใจมุมมองอื่น งานของเราแสดงให้เห็นว่า พวกอนุรักษ์นิยมและพวกเสรีนิยม ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับความหมายจากการวิจัยที่พบว่าทั้งสองกลุ่มแตกต่างกัน เพราะเนื่องจากการการมองว่าโลกเรามีลำดับชนชั้น มากกว่าแตกต่างกันเพราะมองว่าโลกเป็นที่อันตราย
ข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาจากการวิจัยนั้นอาจจะดูเรียบง่าย แต่เป็นก้าวสำคัญในทิศทางการเดินที่ถูกต้องแล้ว
ผู้เขียน: Jer Clifton
แปลไทยโดย: Wichai Purisa (senior scientist)
โฆษณา