Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
WINBOT
•
ติดตาม
15 มี.ค. 2023 เวลา 06:50 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Web 3.0 คืออะไร? การมาของอินเตอร์เน็ตไร้ตัวกลาง
เมื่อพูดถึง Web 3 หรือ Web 3.0 หรือ อินเทอร์เน็ตรุ่นที่ 3 นั้นถือ เป็นเทรนด์ที่เริ่มพูดถึง และได้ยินกันบ่อยเป็นวงกว้างมากขึ้นในโลกออนไลน์ในปัจจุบัน ซึ่ง Web 3.0 ถือเป็นการต่อยอด Blockchain อย่างหนึ่ง เพราะแนวคิดดังกล่าวว่าด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเว็บไซต์ ซึ่งผสมผสาน Blockchain เข้ากับ WWW (World Wide Web) โดยมุ่งแก้ไขจุดบกพร่องของ Web 1.0 และ Web 2.0 ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
ในบทความนี้ น้อง Winy จะพามาทำความรู้จัก กับ Web 3.0 มากขึ้นว่าบทบาท และการทำงาน ของ Web 3.0 คืออะไร ตลอดจนแผนการต่างๆ ที่เปลี่ยนการเชื่อมโยงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก
1
ก่อนจะรู้จักกับ Web 3.0 มีอินเตอร์เน็ตรุ่นแรกที่สร้างมาก่อน นั้นคือ Web 1.0 และ Web 2.0
เรามาทำความเข้าใจกับรากฐานของอินเทอร์เน็ตรุ่นแรกกันก่อน ในชื่อ Web 1.0
Web 1.0 เกิดขึ้นประมาณปี 2533-2548 ประกอบไปด้วยชุดของลิงก์และโฮมเพจ แต่ผู้ใช้งานจะยังไม่สามารถโต้ตอบอะไรกับเว็บไซต์ได้ ผู้ใช้งานจะทำได้เพียงอ่านและเผยแพร่เนื้อหาเหล่านั้นไปให้ผู้อื่น มันจึงกล่าวได้ว่า Web 1.0 นั้นเป็นอินเทอร์เน็ตเวอร์ชัน “อ่านได้อย่างเดียว”
Web 2.0 เป็นอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผู้คนไม่เพียงบริโภคแต่เนื้อหาเท่านั้น
แต่พวกเขายังสามารถสร้างเนื้อหาของตนเอง และเผยแพร่ในบล็อกต่าง ๆ เช่น Tumblr ซึ่งเป็น ฟอรัมอินเทอร์เน็ตที่โด่งดังในยุคนั้น หรือตลาดกลางอย่าง Craigslist ที่เชื่อมความต้องการของผู้คนไว้ด้วยกัน และทำให้เกิดการซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Web 2.0 คือการมาถึงของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Twitter และ Instagram ที่เข้ามาพลิกโฉมหน้าของการแบ่งปัน และการสร้างเนื้อหา
แต่บริษัทชั้นนำอย่าง Facebook ที่ทำการละเมิดกฏหมายความเป็นส่วนตัวด้านข้อมูลนับครั้งไม่ถ้วน และถูกปรับโดย Federal Trade Commission (FTC) กว่า 5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2562 ซึ่งเป็นบทลงโทษที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในลักษณะดังนี้
ด้วยเหตุการณ์นี้ ผู้คนมากมายจึงตระหนักได้ว่า แม้ Web 2.0 จะนำเสนอบริการที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายและเข้าถึงได้ง่ายอย่างน่าอัศจรรย์มาสู่โลก แต่ผู้คนจำนวนมากเริ่มเบื่อหน่ายกับ “สวนสาธารณะที่มีกำแพงสูงระฟ้าล้อมรอบและติดกล้องวงจรปิดมากมายไว้ทุกมุมของสวน” ที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ได้สร้างขึ้น และเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้คนมากมายที่อยู่ในสวนสาธารณะแห่งนี้
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ตเวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า Web 3.0
Web 3.0 คืออะไร
Web 3.0 คือ แนวคิดการใช้งานเว็บไซต์ที่เอื้อให้ผู้ใช้งานถือสิทธิความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ เดิมทีเรียกว่า Semantic Web เชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ทั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูล โครงสร้างฐานข้อมูล และกฎที่ใช้จัดการข้อมูล
โดย Web 3.0 ได้นำเสนอประสบการณ์ที่ผู้ใช้นั้นสามารถมีส่วนร่วมในการกำกับดูแล และการดำเนินงานของโปรโตคอล
ซึ่งหมายความว่าผู้คนสามารถมีส่วนร่วม และเป็นผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกค้า หรือผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ดั่งเช่น Web 2.0
ใน Web 3.0 แพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ จะมีการสร้างโทเค็นหรือสกุลเงินดิจิทัลขึ้นมา โทเค็นหรือสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ จะทำงานอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชนที่โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ โดยผู้ที่ใช้งานนั้นจะต้องถือโทเค็นของ
แพลตฟอร์มเพื่อที่จะลงคะแนนหรือโหวตในข้อเสนอต่าง ๆ สำหรับแนวทางการพัฒนาและอนาคตของโปรโตคอล
Web 3.0 จึงเป็นอินเทอร์เน็ตเวอร์ชันที่คืนความเป็นเข้าของ และการมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้ งานได้อย่างแท้จริง
Web 3.0 จะส่งผลต่อเราอย่างไร
อินเทอร์เน็ตเวอร์ชันใหม่นี้จะมอบประสบการณ์การท่องเว็บที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้งานยังได้รับประโยชน์จากการกระจายอำนาจที่มุ่งเน้นในการสร้างเว็บที่ยุติธรรมให้กับผู้ใช้ งานทุกคนอีกด้วย
ข้อดีของ Web 3.0
●
ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องขออนุญาต (Permissionless) ในการเข้าถึงบริการบนเครือข่าย ซึ่งหมายถึงบุคคลอื่นไม่สามารถปฏิเสธ หรือปิดกั้นการเข้าถึงบริการของผู้ใช้งานได้
●
ข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่ถูกนำไปใช้ในเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการตลาด
●
การทำงานบนเครือข่ายแบบ Decentralized จะทำให้ปัญหาในเรื่องเซิร์ฟเวอร์ล่มลดลงเพราะระบบทำงานบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่
●
การเซนเซอร์ (Censor) เนื้อหา หรือข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตโดยผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้สร้างสรรค์ ผลงานจะทำได้ยากขึ้น
ข้อจำกัดของ Web 3.0
●
Web 3.0 ยังมีข้อจำกัดด้านความสามารถในการขยาย (Scalability) อยู่ เป็นเหตุให้การดำเนินธุรกรรมช้ากว่าเว็บไซต์แบบ Centralized เนื่องจากความเป็น Decentralized ย่อมหมายถึงทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมเพื่อชำระค่าสินค้า และบริการนั้นจะต้องรอการดำเนินการของ Validator หรือ Node จากทั่วทั้งเครือข่ายด้วย
●
ผู้ใช้งานเข้าถึงการใช้งาน Web 3.0 ได้ยาก เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้งาน Web Browser ในปัจจุบัน ยังคงยึดติด และเชื่อถือการใช้บริการจากแพลตฟอร์ม Web 2.0 มากกว่า
●
เทคโนโยลีที่สามารถทำงานร่วมกับ Web 3.0 ยังมีไม่มากนัก
การก้าวเข้าสู่ยุค Web 3.0
ยังเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก หากจะบอกว่าตอนนี้โลกของเราก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะคนได้หันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Cutting-Edge Technology) กันอย่างต่อเนื่อง
มีบางองค์กรที่ตอนนี้เราสามารถบอกได้แล้วว่า พวกเขากำลังพัฒนานวัตกรรมที่ต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตแบบ Web 3.0 ตัวอย่างที่จะเห็นในบทความนี้ เป็นนวัตกรรมจากเทคยักษ์ใหญ่ที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก อย่าง Apple, Amazon, และ Google
.
ข้อมูลจาก :
https://zipmex.com/th/learn/what-is-web-3-0/
https://techsauce.co/tech-and-biz/what-is-web-three-point-zero
https://www.moneybuffalo.in.th/cryptocurrency/what-is-web-3
ช่องทางการติดต่อ
Website:
https://www.winbot.tech/
Fanpage:
https://www.facebook.com/profile.php?id=100090146693381
Line OA:
https://bit.ly/3MiF3wW
Youtube:
https://bit.ly/3youzGL
Twitter:
https://bit.ly/3Vd4DYl
Line Community :
https://bit.ly/3A7l7Zu
FB Community :
https://bit.ly/3rGeV5K
.
#WINBOT #Cryptocurrency #ลงทุน #bitcoin #BOT #เศรษฐกิจ #NFTs #smartcontract
#binance
ข่าวรอบโลก
การลงทุน
คริปโต
1 บันทึก
3
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย