16 มี.ค. 2023 เวลา 02:30 • ธุรกิจ

เรียนรู้ การสร้างธุรกิจ โรลม้วนผม ที่เรียบง่าย แต่สร้างยอดขาย 3,300 ล้าน ใน 3 ปี

หลายครั้งที่ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มักเกิดจากการแก้ปัญหาบางเรื่องให้บางคน
ซึ่งบางครั้งเราเอง ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องคิดหรือฝันไปไกล
เพียงแค่เริ่มต้นจาก “ปัญหา” ที่ตัวเองเจอมา
เช่นเดียวกับคุณ Tara Brown ผู้ก่อตั้ง “Sleep Styler”
ธุรกิจโรลม้วนผมแบบไม่ใช้ความร้อน ที่เธอหยิบปัญหาเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวันมาแก้ไข
จนกลายเป็นธุรกิจ ที่สร้างยอดขาย 3,300 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี
ปัญหาที่เธอเจอคืออะไร และทำไมถึงกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณ Tara Brown เป็นคุณแม่ลูกสอง ที่ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาเป่าผมให้แห้ง หรือทำผมให้ตัวเองเลยสักวัน
แต่อยู่มาวันหนึ่ง เธอก็สังเกตเห็นลอนเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นบนผม จากการที่ลูกสาวของเธอ ถักเปียทิ้งไว้ทั้งคืน
เรื่องนี้จึงทำให้เธอเกิดไอเดียว่า มันคงจะดี หากมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้หญิงตื่นขึ้นมา พร้อมกับลอนผมสวย ๆ และจุดประกายให้เธอประดิษฐ์โรลม้วนผมแบรนด์ Sleep Styler ขึ้น
ซึ่งความพิเศษของโรลม้วนผม Sleep Styler คือ การทำให้ผมแห้ง และม้วนเป็นลอน ขณะนอนหลับ
โดยตัวแกนโรลม้วนผม จะทำจากเมโมรีโฟมที่นุ่มเบา เหมือนมาร์ชแมลโลว์ จึงไม่หนักศีรษะ และสามารถนอนทับได้อย่างไม่มีปัญหา ตลอดทั้งคืน
ขณะที่ตัววัสดุที่ห่อหุ้มแกนม้วนผม ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ ที่มีคุณสมบัติดูดซับความชื้น
อีกทั้งมีรูปทรงกระบอกที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศในขณะม้วนผม และเมื่อตื่นนอน ก็จะได้ลอนผมสวย ๆ ทันที
ที่สำคัญคือ เส้นผมจะไม่เสียหายจากความร้อน เหมือนใช้เครื่องม้วนผมไฟฟ้าอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสินค้าจะดีขนาดไหน แต่ถ้าหากไม่เป็นที่ต้องการของผู้คน
มันก็คงไม่มีความหมาย.. ซึ่งตัวคุณ Brown ก็เข้าใจในจุดนี้ดี
ดังนั้น เธอจึงส่ง Sleep Styler เข้าประกวดในเวทีสุดยอดไอเดียสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เพื่อหวังให้ผู้คนได้รับรู้ว่า แบรนด์ของเธอมีตัวตน และผลิตภัณฑ์ของเธอมีดี
นอกจากนี้ ในการทำธุรกิจยังจำเป็นต้องใช้เงินลงทุน และต้องสำรวจว่าสินค้าที่คิดค้นขึ้นนั้น มีตลาดรองรับมากน้อยแค่ไหน
คุณ Brown จึงเริ่มใช้แพลตฟอร์มสำหรับระดมทุนอย่าง Kickstarter มาใช้วัดความต้องการของลูกค้า ไปพร้อมกับการหาแหล่งเงินทุน
ซึ่งผลตอบรับที่ได้ก็ดีเกินคาด เมื่อผู้คนต่างให้ความสนใจในสินค้าของเธอ
จนสามารถระดมทุนได้สูงถึง 1.6 ล้านบาท
ซึ่งจำนวนนี้มากกว่าเงินทุนที่เธอตั้งใจไว้เกือบ 5 เท่า
 
ส่งผลให้ในปี​ 2016 เธอจึงตัดสินใจเปิดตัวแบรนด์ Sleep Styler อย่างเป็นทางการ
ในช่วงแรก Sleep Styler จะเน้นไปที่การขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะสามารถวางขายสินค้าได้ทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องทำเล และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่หรือตกแต่งร้านไปในตัว
ซึ่งหลังจากวางขายได้เพียง 3 สัปดาห์ Sleep Styler ก็ทำยอดขายได้ถึง 200,800 บาท
พอธุรกิจเริ่มขยายตัว คุณ Brown ก็เริ่มมองหานักลงทุนมาช่วย เพราะตัวเธอเองไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมากนัก แถมยังต้องทำงานประจำไปด้วย
เธอจึงตัดสินใจไปออกรายการ Shark Tank ของสหรัฐฯ เพื่อโน้มน้าวคณะกรรมการให้มาร่วมลงทุนในธุรกิจ และมาช่วยให้คำแนะนำ เพื่อทำให้ธุรกิจของเธอเติบโตมากขึ้น
โดย Sleep Styler ก็ได้ไปเข้าตาคุณ Lori Greiner หนึ่งในคณะกรรมการ ซึ่งตัดสินใจร่วมลงทุนด้วยเงินกว่า 2.5 ล้านบาท แลกกับหุ้น 25%
ต่อมา หลังจากที่รายการออกอากาศไปเพียง 8 เดือน
Sleep Styler ก็สามารถทำยอดขายรวมสูงถึง 2,500 ล้านบาท
กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดในรายการ Shark Tank
นอกจากนี้ คุณ Greiner ยังช่วยขยายช่องทางการขายให้กับ Sleep Styler ด้วยการเปิดตัวบน QVC หรือรายการถ่ายทอดสดขายสินค้าผ่านโทรทัศน์ ส่งผลให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าไปอีกขั้น
และสุดท้าย Sleep Styler ก็ถูกนำไปวางขายที่ร้านค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Walmart และ Bed Bath & Beyond ทั่วทั้งสหรัฐฯ
ถ้าถามว่า มาถึงตอนนี้ Sleep Styler ประสบความสำเร็จมากขนาดไหน ?
คำตอบนี้คงดูได้จากยอดขายตลอด 3 ปี ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ (ปี 2016 - 2019)
โดย Sleep Styler สามารถกวาดยอดขายไปมากกว่า 3,300 ล้านบาท เลยทีเดียว
กรณีของ Sleep Styler กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่พิสูจน์ให้เราเห็นว่า
ตราบใดที่โลกนี้ยังคงเต็มไปด้วย “ปัญหา” ธุรกิจใหม่ ๆ ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ
ขึ้นอยู่กับว่า เราเจอปัญหาแล้วเลือกที่จะหยิบมาแก้ไข หรือเลือกที่จะอดทนต่อไปเรื่อย ๆ
ขณะที่คุณ Brown ที่เลือกจะเปลี่ยน Pain Point ของตัวเอง ให้กลายเป็น Gain Point ทางธุรกิจ
จนวันนี้แบรนด์ Sleep Styler ที่เธอปั้นมากับมือ ก็ได้กลายเป็นธุรกิจ ที่มียอดขายหลักพันล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย..
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป (TANACHIRA) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศได้แก่ Pandora (แพนดอร่า), Marimekko (มารีเมกโกะ), Cath Kidston (แคท คิดสตัน) และเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวพรรณ สปาแบบองค์รวมรายแรกในไทยภายใต้แบรนด์ HARNN (หาญ), VUUDH (วุฒิ), HARNN Heritage Spa (หาญ เฮอริเทจสปา) และ SCape by HARNN (เอสเคป บาย หาญ) มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและในภูมิภาคกว่า 165 สาขา ภายใต้แนวคิด “Bring the Best of the Brand to the Best of Thailand”
โฆษณา