16 มี.ค. 2023 เวลา 03:17 • หนังสือ

โลกของหนังสือ

ตอนที่ผมเป็นเด็กวัด เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งบริเวณตลาดท่าพระจันทร์มีร้านหนังสือแบบทันสมัยมาเปิดดำเนินการจำได้ว่าพอออกจากประตูวัดฝั่งท่าพระจันทร์มองมาฝั่งตรงข้าม มีร้านเอเชียบุ๊คมาเปิดดำเนินการ ในร้าน70ถึง80เปอร์เซ็นต์เป็นหนังสือต่างประเทศยังไม่มีหนังสือแปล 20เปอร์เซ็นต์เป็นวารสาร,นิตยสาร ทั้งของไทยและต่างประเทศ ร้านนี้ผมแทบไม่กล้าเข้าร้านเค้าเพราะอ่านไม่ออก และร้านเค้าติดตั้งแอร์หรูหราที่สุดในตอนนั้น น้อยมากที่ร้านค้าจะติดตั้งแอร์ แต่หลวงปู่ใช้ไปซื้อหนังสือพิมพ์ ชื่อว่าบางกอกโพสท์
จึงมีโอกาสเข้าร้าน
พนักงานของร้าน แต่งตัวดีมาก มีชุดยูนิฟร์อมของร้าน พนักงานทุกคนสื่อสารภาษาต่างประเทศได้ มีโต๊ะแคชเชียร์ มีเครื่องคิดเงินสมัยใหม่นับว่าทันสมัยมาก ด้วยความหรูหราทันสมัยตกแต่งภายในด้วยโทนสีน้ำตาล ชั้นวางหนังสือเป็นไม้ ดูเข้มขรึม มีระดับ ลูกค้าส่วนใหญ่จึงดูดีมีฐานะ น่าจะเป็นระดับผู้บริหารหรือครู อาจารย์ที่แวะเวียนมาเลือกซื้อ
ร้านหนังสือที่มาเปิดดำเนินการร้านที่2 ร้านค้าอยู่ติดกันเลย คือร้านหนังสือ ดอกหญ้า เป็นร้านหนังสือสมัยใหม่ มีการจัดเรียงหนังสือแยกเป็นหมวดหมู่ มีตั้งแต่หนังสืออ่านเล่น วิชาการ การตลาด นวนิยาย จิตวิทยา ธรรมะและศาสนา สมุดวาดเขียน อุปกรณ์เครื่องเขียน และมีขนมเด็กๆลูกอมก็ขายด้วย ร้านนี้เค้าเขียนคำเชิญชวนไว้ว่ายินดีต้อนรับ เพียงคุณแวะมาอ่านเราก็ชื่นชมในการดำเนินการแรกๆร้านนี้ใช้พัดลมเพดาน มาติดแอร์หลังดำเนินการได้ไม่นานพนักงาน มีพูดภาษาต่างประเทศได้บางท่านมีนักศึกษามาฝึกงานด้วย
ใน ส่วนพนักงานหลัก การแต่งกายจะชุดเครื่องแบบที่บริษัทฯจัดหาให้ ร้านนี้มีลูกค้าหลากหลายระดับ มียืนอ่านบ้างนั่งบ้าง ทางร้านสามารถให้อ่านได้ ผมเลยมีโอกาสแอบไปอ่านหนังสือร้านเค้าบ่อยๆ
ร้านที่3 เป็นร้านหนังสือที่เป็นของทางวัดชื่อร้านตอนนั้น ชื่อว่า โชติกะบรรณาลัย (กราบขออภัยหากเขียนสะกดผิดพลาดไปเนื่องจากระยะเวลาผ่านมานานมาก)อยู่ติดกับโรงเรียนประถมฝั่งประตูเล็กตรงข้ามกำแพงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร้านนี้ทางวัดดำเนินการ ขายหนังสือแบบเรียน บาลีหนังสือเรียนนักธรรมตรี,โท,เอกสายวิชาการทางธรรมะทั้งหมด มีหนังสือพระอาจารย์สายปฏิบัติ คำสอนทางศาสนา เครื่องเขียน ร้านนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา และผู้ที่ชื่นชอบ,นักปฏิบัติธรรม จัดร้านคล้ายๆกับร้านศึกษาภัณฑ์
แยกหมวดหมู่หนังสือชัดเจน เจ้าหน้าที่ทางร้าน มีพระสงฆ์เป็นผู้บิหาร แม่ชีที่มีความรู้ในการจัดการเรื่องหนังสือ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเป็นของทางวัด มีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญ
ร้านที่4 ห่างกันไม่นานมากนัก มีร้านหนังสือมาเปิดเพิ่ม คือร้านซีเอ็ดบุ๊ค เป็นร้านหนังสือทีครบทุกหมวดหมู่อีกร้านนึ่ง ร้านนี้แตกต่างจากร้านอื่นตรงที่มีอุปกรณ์เพิ่มเช่นขายที่ขั้นหนังสือชั้นวางหนังสือ ห่อปกพลาสติกฟรี ขายโต๊ะ,เก้าอี้,โคมไฟอ่านหนังสือ หูฟัง,เครื่องแปลภาษา (อุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือมาภายหลัง)เครื่องคิดเลข ทั้งหมดนี้ร้านอื่นๆในตอนนั้นยังไม่มีใครทำ ในส่วนของพนักงานจะดูเป็นเด็กๆกว่าร้านอื่นๆ มีชุดพนักงาน
ร้านสุดท้ายเป็น ร้านหนังสือที่คลาสสิค ที่สุดเก่าที่สุดในตอนนั้น คงไม่พ้นไปจากร้านหนังสือย่านหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม หน้าศาลยุติธรรมสนามหลวง เวิ้งนั้นไม่ใหญ่มากแต่ร้านหนังสือเยอะมาก มีหนังสือทุกชนิด ทั้งไทยต่างประเทศ รวมถึงหนังสือเก่า มีทั้งมือหนึ่งและมือสอง ที่ดังที่สุดคือหนังสือปกขาวคนรุ่นผมน่าจะรู้จักดี ต้องแอบซื้อคนขายจะมากระซิบเบาๆ ปกขาวไม่น้อง,ปกขาวไหมพี่เรื่องพวกนี้คนรุ่นผมเป็นเรื่องน่าอายให้เพื่อนรู้ไม่ได้โดนเผาแน่ ตำรวจเห็นโดนจับ แต่ขายดีที่สุดครับ เวิ้งนี้มีร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มขาย
โฆษณา