#Opinion2023
ชอบหัวข้อดูแลทั้งชีวิตโดยเฉพาะการุณยฆาต คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่ควรเลือกวันตายได้เอง หากชีวิตที่เหลืออยู่ไม่ productive หรือ ร่างกายกลายเป็นแค่กรงขังจิตวิญญาณ
ถ้าฉันถึงคราวตาย, ฉันอยากเลือกวิธีที่สบายที่สุด ไม่เจ็บไม่ปวด เช่น นอนหลับแล้วสิ้นใจ มีบริษัทกำจัดร่างปล่อยพลังงานคืนสู่จักรวาลเพิ่ม entropy ตามกฎ thermodynamics ข้อที่สอง
ไม่ต้องจัดงานศพให้ยุ่งยาก ไม่ต้องจัดพิธีใด ๆ หลังตายเพราะปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานชั้นต้นหรือชั้นรองที่แสดงให้เห็นว่าชีวิตหลังความตายมีอยู่จริง
ฉันจะจัดงานศพก่อนตาย อันนี้เชิญเพื่อน ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่มาพูดคุย, มีถ่ายรูป pre-funeral ธีมการจัดการ anxiety และความไม่รู้ของคนที่กำลังออกเดินทางสู่สัมปรายภพและผู้อยู่ข้างหลังของวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น พันมัมมี่ กับ นั่งในโกศ, และที่อยากทำที่สุด คือ เชิญเพื่อน ๆ เดินกงเต๊กข้ามสะพานยายเมิ่งร่วมกัน โดยมีฉันเป็นคนเดินนำด้วยตัวเอง หรือไม่ก็จ้างดารานายแบบรับงานเอ็นเป็นตั่วซุง
III>II2
ทุกวันนี้วงการแพทย์มี (1) physician-assisted suicide (PAS) กับ (2) การุณยฆาต
นิยามของ PAS คือ บุคลากรที่ได้รับสาส์นตราตั้งทางกฎหมาย “ช่วย” คนไข้จบชีวิตตัวเอง เช่น ผป. เป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายที่ไม่มียารักษาและอีโรคนี้สร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส, ขอร้องให้หมอช่วยกระทำอัตวินิตบาตกรรมด้วยการจ่ายยาแก้ปวดรุนแรงแบบคนไข้บริหารเอง กรรมนี้คนไข้สามารถกดเพิ่มโดสจนอาสัญเพื่อ end his/her/their (สำหรับ non-binary)/our (royal และ พระสันตะปาปา) suffering
การุณยฆาต หรือ euthanasia, ในทางกลับกัน, มอบอำนาจทางกฎหมายอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยให้หมอส่งคนไข้สู่สวรรคาลัยได้เลยหากคนไข้หรือ legal guardian ขอร้อง เช่น ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมเพราะพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แต่ยังไม่มี suffering ทางกายแบบกรณีแรก เป็นต้น
*บอกก่อนว่าอันนี้เป็นนิยามที่เข้าใจเอง
PAS เหมือนเลี่ยงบาลี คือ ลดความ “กลัว” และ “burden” ของคนที่มีหน้าที่ทางกฎหมาย เพราะ, แน่นอน, การจบชีวิตคน, มันค้านกับวัฒนธรรมความเชื่อที่ถูกปลูกฝัง (acculturation) มาตั้งแต่เกิด
อนึ่ง, สังคม hunter-gatherer ในป่าแอมะซอนที่ไม่ได้ contact กับโลกหลังปฏิวัติวิทยาศาสตร์/technology/อุตสาหกรรม ยังมีวิธีการปล่อยให้ผู้เฒ่าประจำเผ่าที่ไม่สามารถเดินทางไปกับกลุ่ม, แห้งกรังตายอยู่ในป่า, เพื่อรักษาความอยู่รอดของคนที่เหลือ กิจกรรมนี้ยังมีบันทึกอยู่ประปรายแม้กระทั่งในสหัสวรรษนี้
การุณยฆาตยังคงเป็นที่ถกเถียงเพราะอาจมีคนใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายฆ่าคนโดยเจตนา เช่น เจ้าคุณปู่มีทรัพย์ศฤงคารมากมายมหาศาล สะใภ้เล็กจึงใช้พิษจากกู่แมงมุมทำให้เจ้าคุณปู่เซ็นพินัยกรรมมอบสมบัติทุกอย่างแก่นาง แล้วใช้คุณสมบัติพิษทำให้ท่านงุนงงจนเซ็นชื่อยอมรับการุณยฆาต เป็นต้น
อีกเรื่องที่น่าสนใจ คือ “บาปบุญคุณโทษ”; เหมือนที่บอก แทบทุกวัฒนธรรม, สร้างโลกหลังความตาย หรือ นรก-สวรรค์ ขึ้นมาเพื่อหาคำอธิบายสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ แต่ผลข้างเคียง คือ เป็นไอเดียที่ฝังรากลึกจนไม่สามารถขจัดออกไป เอาง่าย ๆ อย่างทำแท้ง หากถามหมอสูติ หลาย ๆ คนก็ไม่อยากทำ สาเหตุสำคัญ คือ religious belief ทั้ง ๆ ที่มนุษย์เราแท้งลูกมากกว่าติดลูก ถ้านรกมีจริง แม่ ๆ แทบทุกคนคงตกนรกเพราะไอ้ประจำเดือนเคลื่อนแล้วอยู่ดี ๆ กลับมาอีกครั้ง ก็มี spontaneous abortion เป็นหนึ่งใน differential
แต่อันนี้ religious belief มีทางแก้เพราะบัญญัติเรื่อง intention เช่น อย่างบางศาสนาหากชี้นิ้วเอาปลาให้แม่ค้าฆ่า อันนี้ผิด แต่ถ้าเขาปรุงมาแล้ว อันนี้อะลุ้มอล่วย ไม่ตกสัญชีวะมหานรก
จากพารากราฟข้างบน, มีข้อสังเกตดังนี้: สิ่งหนึ่งที่แตกต่างระหว่างชุดเหตุผลทางวิทยาศาสตร์กับศาสนาความเชื่อ คือ อย่างหลังยูต้องสร้าง foundation ขึ้นมาเอง แต่อย่างแรกได้จากการสังเกตสังกาธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น ฉันไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง ไม่ใช่เพราะฉันไม่เคยเห็น เพราะฉันก็ไม่เคยเห็น subatomic particle แต่อี particle นี้มีหลักฐาน indirect ว่ามันดำรงอยู่จริง เป็นต้น
หรืออีกตัวอย่าง Arian แห่ง Alexadria เชื่อว่า จีซัสไม่ใช่พระเจ้า เพราะจีซัสไม่ได้เกิดพร้อมพระเจ้า พระเจ้าเกิดก่อนแล้ว “beget” คือ สร้างจีซัส ฉะนั้นพระแม่มารีจะเป็น theotokos หรืออุ้มสมพระเจ้าในครรโภทรไม่ได้ นางเป็นได้แค่ Christotokos คือมีลูกเป็นมนุษย์
แต่ bishop ทั่วทั้งอาณาจักรโรมันไม่ชอบความเชื่อของ Arian, จักรพรรดิ Constantine จึงจัดสังคายนา ณ เมืองไนเซียในปี 325 เพื่อหาข้อสรุป ซึ่งสรุปว่า Arianism (รีต Arian) ถูกประทับตรา heretic; ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา, Christ และพระบิดาจึงเป็นคนคนเดียวกัน มี substance เหมือนกัน
Arianism แผ่ขยายในชนเผ่า Germanic แต่สู้รบปรบมือกับคำสอนกระแสหลักไม่ได้ แม้แต่ Pepin the Short กับ Charlemange ยังต้องเลิกนับถือ Arianism แล้วหันมาสมาทานบทบัญญัติไนซีน หรือ Nicene Creed
ฉันเชื่อว่า การุณยฆาต หากมีการสกรีนที่รัดกุมจะเป็นทางเลือกให้แก่คนป่วยไข้เรื้อรังให้ตายอย่างสมศักดิ์ศรี
III>II2
อีกอันที่ชอบ คือ คิดดูแลผู้ป่วยติดเตียง ประเทศไทยยังขาดบุคลากรที่ช่วย ผป. และที่สำคัญมาก ๆ คือ ญาติ ๆ ผู้ดูแล ถ้ามีสวัสดิการด้านนี้ให้แก่ทุกคน มันจะช่วยปลดล็อกเศรษฐกิจครัวเรือนและ mentality มีคนช่วยรับความหนาหนักของ “กตัญญูกตเวทิตาคุณ”
ส่วน preventive medicine อย่างการตรวจคัดกรองมะเร็งและฉีดวัคซีนฟรี อันนี้ก็ดีมาก และนอกจากฟรีแล้ว, พนักงานที่เข้าเกณฑ์ตรวจควรได้ลางานแบบยังได้เงินในวันนั้นเพราะการขาดงานเพื่อไปตรวจร่างกายแล้วเสียรายได้เป็นสาเหตุหลักที่ขวางกั้นไม่ให้ไป
และที่อยากเห็นมากที่สุด คือ ผันเงินจากกองทัพและสถาบันทำอาหารเข้ามาอุดหนุนสวัสดิการประชาชน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
