Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
การเงินธนาคาร
•
ติดตาม
16 มี.ค. 2023 เวลา 09:51 • ธุรกิจ
THG เร่งเครื่องลงทุน 3 ปี 5 พันลบ. ขยาย รพ.ไทย-ตปท. จ่อศึกษา JV ทำ รพ.เวียดนาม
แม้ 3 ปีที่ผ่านมา จะมีปัจจัยลบจากคลื่นโควิด ทว่าอุตสาหกรรมที่ยังเป็นบวก และเติบโตได้ คือ ธุรกิจโรงพยาบาล สะท้อนได้จากตัวเลขรายได้ของกลุ่ม รพ.ธนบุรี ที่มีโรงพยาบาลในเครือทั้งไทย 10 แห่ง และต่างประเทศที่เมียนมา 1 แห่ง
●
ปี 2563 รายได้ 7,315 ล้านบาท กำไรสุทธิ 23 ล้านบาท
●
ปี 2564 รายได้ 10,847 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,357 ล้านบาท
●
ปี 2565 รายได้ 11,540 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,677 ล้านบาท
นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า ปี 2566 จะเป็นปีที่ รพ.ธนบุรี เร่งเครื่องการลงทุนมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริษัทให้แข็งแกร่ง พัฒนาส่วนต่าง ๆ เพื่อรองรับการเติบโตในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10%
จากปัจจัยบวกโควิดคลี่คลาย กลุ่มท่องเที่ยวทางการแพทย์กลับมาในระบบรวมแล้ว 70% เคสผ่าตัดใหญ่ที่เคยเลื่อนออกไปทยอยกลับมา ประกอบกับปัจจัยการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ ยังเป็น Centiment ที่ดีต่อการลงทุน ท็อปแรงก์กิ้งนโยบายหลักที่พรรคการเมืองต้องมีการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งจะส่งผลบวกต่อประชาชนและอุตสาหกรรมโรงพยาบาล
เบื้องต้น วางงบประมาณลงทุน 3 ปี เกือบ 5,000 ล้านบาท เพื่อขยายขีดศักยภาพโรงพยาบาลในเครือ แบ่งออกเป็น
●
ปี 2566 ลงทุน 1,500-2,000 ล้านบาท
●
ปี 2567 ลงทุน 1,300 ล้านบาท
●
ปี 2568 ลงทุน 1,400 ล้านบาท
โดยภายใน 3 ปีนี้ จะขยายเตียงในโรงพยาบาล 3 แห่ง คือ รพ.ธนบุรี 1, รพ.ธนบุรี 2 และ รพ.ราษฎร์ยินดี จ.สงขลา จำนวน 200 เตียง ส่งผลให้เครือ รพ.ธนบุรี จะมีจำนวนเตียงทั้งสิ้น 1,520 เตียง จากปัจจุบันมีอยู่ 1,460 เตียง
รวมถึงการดึงเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับบริหารโรงพยาบาลมากขึ้น โดยงบลงทุนส่วนหนึ่ง จำนวน 200 ล้านบาท จะใช้มาพัฒนาด้าน Digital Health Tech เช่น การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเป็นส่วนเสริมปฏิบัติการทางการแพทย์ให้แม่นยำ เชื่อมต่อฐานลูกค้า ซึ่ง THG ได้จัดตั้ง บริษัท เทเลเฮลท์ แคร์ จำกัด ขึ้นมารับผิดชอบด้านเทเลเมดิซีนและนวัตกรรมดิจิทัลโดยเฉพาะ
ด้านงบประมาณการร่วมทุน (JV) และการซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งไม่นับรวมกับงบลงทุน 3 ปีในข้างต้น ได้ร่างงบลงทุนในปี 2566 ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท สำหรับซื้อกิจการหรือร่วมทุนทำโรงพยาบาลทั้งในไทยและต่างประเทศ ประมาณ 2-3 แห่ง อยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจา
สำหรับต่างประเทศสนใจประเทศเวียดนาม ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง และมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ที่ 3,300 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อายุเฉลี่ยของคนในประเทศอยู่ที่ 29-34 ปี มีประชากรหนุ่มสาวจำนวนมาก
โฟกัสอุตสาหกรรมโรงพยาบาลเอกชนในเวียดนาม พบว่า มีจำนวนผู้เล่นในตลาดน้อย ส่วนใหญ่เป็น รพ.รัฐ ซึ่งจะมี Hospitality ต่างจากเอกชน โดยเฉพาะในไทยที่มีเอกลักษณ์ด้านงานบริการ และมีทีมแพทย์ก้าวหน้ากว่า เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาคเอเชียตั้งแต่ปี 2547 (ค.ศ. 2004)
เบื้องต้น THG อยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าไปลงทุน และการเดินหน้าหาพาร์ตเนอร์ท้องถิ่นในเวียดนาม เพื่อทำโรงพยาบาลเน้นรักษาด้านกระดูก ซึ่งจะเข้าไปในโมเดลคล้ายกับ รพ.อายุอินเตอร์เนชั่นแนล (ArYu International Hospital) ประเทศเมียนมา ที่บริษัทจะเข้าไปถือหุ้นราว 40% ที่เหลือจะเป็นพาร์ตเนอร์ และกลุ่มแพทย์พยาบาลท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี สำหรับกลุ่มทาร์เก็ตมองไว้ที่ 3 กลุ่ม ได้แก่
●
B2C นำดิจิทัลเฮลท์เทคมาเพิ่มความสะดวกในการตรวจรักษาและบริการ โดยเล็งเปิดตัวแอปพลิเคชั่นมารองรับ
●
B2B มองหาโอกาสจากหน่วยงานและองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเพิ่มสวัสดิการด้านการแพทย์ให้พนักงาน รวมถึงจับมือกลุ่มประกัน และเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพเทคโนโลยีที่ต้องการพาร์ตเนอร์
●
กลุ่ม B2G มองหาโอกาสร่วมมือกับภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำโครงการ PPP กับรัฐบาล โดยมีบริษัทย่อย บริษัท ธนบุรี เสริมรัฐ จำกัด รับผิดชอบ อาทิ การรับบริหาร รพ.อบจ.ภูเก็ต ในรูปแบบ TOR ต่อสัญญากันปีต่อปี
อ่านบทความเพิ่มเติมที่ :
https://moneyandbanking.co.th/2023/29433/
1 บันทึก
2
2
1
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย