23 มี.ค. 2023 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Used car market makeover: มิติใหม่เต็นท์รถมือ 2 ในโลกหลังโควิด-19

“The used car industry has always been a key player in the automotive industry, but in recent years it has undergone a significant transformation. The rise of online marketplaces and digital technologies has given consumers more access to information, creating new opportunities for dealers and private sellers alike.” Allied Analytics LLP
ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดรถมือ 2 ทั่วโลกกลับมีความคึกคักสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม โดยได้รับอานิสงส์จาก
1) ปัญหา Global supply disruption ที่ทำให้อุปทานของรถมือ 1 ขาดตลาด
2) ผู้บริโภคหันมาใช้รถส่วนตัวทดแทนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ
3) กำลังซื้อที่ลดลงทำให้ความนิยมในรถมือ 2 มากขึ้น โดยแรงกระตุ้นจากฝั่งอุปสงค์ส่งผลให้ราคาขายรถมือ 2 ดีดตัวสูงขึ้นในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ที่ดัชนีราคาในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ขยายตัวเฉลี่ยถึง 26.4% และ 16.8% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วง Pre-Covid ในปี 2019
สำหรับในไทยตลาดรถมือ 2 มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 6.4% ของธุรกิจคาร์ดีลเลอร์ แต่มีผู้ประกอบการอยู่มากถึงกว่า 6.5 พันราย ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าธุรกิจขายรถมือ 1 ประมาณ 2.4 เท่าตัว1 ทั้งนี้การระบาดของโควิด-19 ก็ส่งผลดีต่อธุรกิจรถมือ 2 ในไทยเช่นเดียวกับตลาดโลก สะท้อนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์มือ 2 ระหว่างปี 2020 – 2022 ที่ลดลงเพียง -11.2% โดยหดตัวน้อยกว่ายอดจดทะเบียนรถป้ายแดงที่ -20.6% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2019
นอกจากนี้ ดัชนีราคาขายรถมือ 2 ยังขยายตัวได้สูงกว่าระดับ Pre-Covid เฉลี่ยที่ 1.8% (รูปที่ 1) อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ต่อรถมือ 2 คาดว่าจะทยอยแผ่วลงหลังสถานการณ์การระบาดคลี่คลายและปัญหา Global supply disruption มีแนวโน้มปรับดีขึ้น ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องมองหารูปแบบการดำเนินธุรกิจและกลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในโลกหลังวิกฤตโควิด-19
Used car market makeover: มิติใหม่เต็นท์รถมือ 2 ในโลกหลังโควิด-19
ลมหวนในตลาดรถมือ 2 หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19
ความคึกคักในตลาดรถมือ 2 ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสท่ามกลางวิกฤตที่ทำให้เกิดแรงกระตุ้นชั่วคราวและคาดว่าจะส่งผลดีต่อตลาดเพียงระยะสั้น ๆ เพราะเมื่อมองไปข้างหน้า เราเริ่มเห็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่
1. กระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า (EVs)
กระแสความนิยมรถยนต์ EVs ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในไทย ส่งผลให้ตลาดรถมือ 2 ต้องเผชิญความเสี่ยงจากความต้องการและราคาขายที่ลดลงอย่างรวดเร็ว2 โดยในปี 2022 ยอดจดทะเบียนรถ EVs ขยายตัวสูงถึง 98% และคาดว่าจะสามารถเติบโตสูงต่อเนื่องจากแรงหนุนของนโยบายภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการให้เงินอุดหนุน (Purchasing subsidies)
ด้วยเหตุนี้ การดำเนินธุรกิจเต็นท์รถมือ 2 จึงมีแนวโน้มยากลำบากขึ้น เพราะรถเก่าจะตกรุ่นและราคาลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากค่ายรถยนต์ทยอยเปิดตัวรถ EVs รุ่นใหม่ ๆ ที่มีความหลากหลาย ทั้งรูปแบบการใช้งาน รูปลักษณ์ และระดับราคา ประกอบกับเทรนด์การซื้อ-ขายรถ EVs มือ 2 ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะตัวเลือกในตลาดที่ค่อนข้างจำกัด
ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซต์ One2car ชี้ว่า รถ EVs ในตลาดมือ 2 ของไทย มีสัดส่วนเพียง 0.9% (รูปที่ 2) อีกทั้ง ต้นทุนค่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้นเร็ว โดยเฉพาะจากราคาแบตเตอรี่ ทำให้ราคาขายถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับรถ EVs มือ 1 ในรุ่นเดียวกัน
Used car market makeover: มิติใหม่เต็นท์รถมือ 2 ในโลกหลังโควิด-19
2. การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นระหว่างเต็นท์และค่ายรถยนต์
นอกจากตลาดรถมือ 2 จะต้องแข่งขันกับเหล่ารถ EVs รุ่นใหม่ ๆ แล้ว ผู้ประกอบการเต็นท์รถยังต้องแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกับค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ผันตัวมาเป็นนายหน้าขายรถมือ 2 มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งข้อได้เปรียบของฝั่งค่ายรถยนต์ คือ ความน่าเชื่อถือของคุณภาพรถที่ผ่านการคัดกรองและรับรองจากบริษัทผู้ผลิต รวมถึงความครอบคลุมของที่ตั้งและบริการที่ทั่วถึง อาทิ Honda มีบริการซื้อ-ขายรถมือ 2 ณ โชว์รูม 55 แห่งทั่วประเทศ
ขณะที่ Nissan และ BMW Thailand ได้เปิดขายรถมือ 2 บนเว็บไซต์ อย่างไรก็ดี ธุรกิจเต็นท์รถมีจุดแข็งคือ ราคาถูกและมีความหลากหลายของรถมากกว่า ดังนั้น การสร้างความน่าเชื่อถือและการให้บริการที่ครบวงจรจึงถือเป็นอาวุธสำคัญสำหรับผู้ประกอบการเต็นท์รถท่ามกลางการแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น
3. การเพิ่มขึ้นของอุปทานรถมือ 2 ในตลาด
คลิกเพื่ออ่านบทวิเคราะห์ฉบับออนไลน์
โฆษณา