21 มี.ค. 2023 เวลา 03:50 • ธุรกิจ

New Balance มีมาแล้ว 100 กว่าปี เพิ่งมาฮิต 50 ปีหลัง

รู้ไหมว่า แบรนด์ New Balance ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ มีอายุมากกว่า 117 ปี แล้ว
ซึ่งมากกว่าแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันอย่าง Nike ที่มีอายุ 59 ปี และ Adidas ที่มีอายุ 98 ปี เสียอีก
1
อย่างไรก็ดี New Balance ก็เพิ่งจะมาเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมระดับโลก ในช่วงการบริหารของชายที่ชื่อว่าคุณ Jim Davis ในช่วง 50 กว่าปีที่ผ่านมานี้เอง
ความน่าสนใจของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง
ก่อนอื่นต้องบอกถึงประวัติคร่าว ๆ ของ New Balance สักนิด
New Balance ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ William J. Riley ในปี 1906 ที่เมืองบอสตัน
ซึ่งในตอนนั้น บริษัทเริ่มต้นจากการทำธุรกิจผลิตแผ่นรองในรองเท้า ที่ช่วยให้สวมใส่รองเท้าได้สบายขึ้น
โดยมีจุดประสงค์หลักคือ การสร้างสมดุลใหม่ ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของชื่อบริษัท “New Balance” นั่นเอง
จนกระทั่งในปี 1938 ทาง New Balance ได้เริ่มผลิตรองเท้าขึ้นครั้งแรก แต่เป็นรองเท้าที่ใช้ในคลับกีฬาท้องถิ่นในเมืองบอสตันเท่านั้น
โดยหลังจากนั้น กิจการ New Balance ก็มีการเปลี่ยนเจ้าของมาเป็นคุณ Eleanor และคุณ Paul Kidd แต่พวกเขาก็ยังคงเน้นทำรองเท้าวิ่งเฉพาะกลุ่มเป็นหลัก นั่นก็ทำให้ในช่วง 60 ปีแรก New Balance ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักเท่าไรนัก
1
ซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของ New Balance คือตอนที่คุณ Jim Davis เข้ามาซื้อกิจการต่อในปี 1972
แล้วคุณ Jim Davis คือใคร ?
คุณ Jim Davis เป็นชายเชื้อสายกรีก ที่มาอยู่ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เด็ก
ซึ่งเขาเรียนจบด้านชีววิทยาและเคมี และได้ประกอบอาชีพเป็นคนขายอุปกรณ์เกี่ยวกับด้านวิทยาศาสตร์
แต่คำถามคือคุณ Jim Davis มองเห็นอะไรให้ธุรกิจ New Balance ?
1
ย้อนกลับไปในปี 1972 ตอนนั้นคุณ Jim Davis มีอายุ 29 ปี
เขาตัดสินใจว่าอยากออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ในตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำธุรกิจอะไร
จนเขาได้มาเห็น New Balance ซึ่งตัวเขาก็มีความสนใจในแบรนด์นี้เป็นอย่างมาก
แต่ก็ยังติดตรงที่ เขายังไม่มีความรู้ทางด้านรองเท้าเลย จึงยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อกิจการในตอนนั้น
แต่สุดท้ายในอีก 1 ปีต่อมา เมื่อโอกาสและความพร้อมมาถึง..
เขาก็ได้ตัดสินใจกลับมาซื้อกิจการ New Balance ในที่สุด
ที่น่าสนใจคือ เขาซื้อกิจการ New Balance ด้วยเงินเก็บ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 350,000 บาท
ซึ่งในตอนนั้น ที่ร้านมีพนักงานอยู่เพียง 6 คนเท่านั้น
แล้วอะไรคือเคล็ดลับของคุณ Jim Davis ที่ทำให้ New Balance เติบโต จนสร้างยอดขายได้กว่า 150,000 ล้านบาท ในปัจจุบัน ?
1
เคล็ดลับที่ 1 คือ การพัฒนารองเท้าวิ่ง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ
1
เช่น รองเท้าวิ่งรุ่น 320 ที่สามารถคว้าเบอร์ 1 ในตลาดสหรัฐอเมริกา
จนทำให้แบรนด์ New Balance กลายมาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
2
เคล็ดลับที่ 2 คือ ทำให้รองเท้าเป็นที่จดจำให้ได้
โดยเริ่มใส่ตัวอักษร N ที่เป็นเอกลักษณ์เข้าไปบนรองเท้าเป็นครั้งแรก
ซึ่งตัวอักษรนี้ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัท
เพราะตอนนี้ถ้าเรานึกถึงรองเท้าที่มีตัวอักษร N เป็นสัญลักษณ์ หลายคนคงนึกถึง New Balance
 
เคล็ดลับที่ 3 คือ เน้นความเป็นอเมริกัน
ในเมื่อแบรนด์เริ่มต้นและผลิตในเมืองบอสตัน คุณ Jim Davis จึงอยากให้มันเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของแบรนด์ ด้วยการสื่อสารถึงผู้บริโภคว่า รองเท้าของ New Balance นั้น “Made in USA”
1
และถึงแม้ว่าในปัจจุบัน จะมีการผลิตในประเทศอื่น ๆ แล้ว แต่ New Balance ก็ยังคงมีรุ่นที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาขายออกมาบ้างเช่นกัน
เคล็ดลับที่ 4 คือ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ ร้านค้าปลีก
คุณ Jim Davis กล่าวว่า การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับร้านค้าปลีก จะทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น ความชอบ ไลฟ์สไตล์ หรือพฤติกรรม
ทำให้ New Balance เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างชัดเจน..
ดังนั้น สิ่งที่ New Balance พยายามทำคือ การอำนวยความสะดวกในทุก ๆ ด้านให้แก่ร้านค้าปลีก พร้อมให้ความช่วยเหลือ เพื่อสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
1
แน่นอนว่า ความพยายามเหล่านี้ ทำให้ New Balance ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแบรนด์ที่ทำงานด้วยง่ายที่สุด ในหมู่ของร้านค้าปลีกด้านกีฬาในสหรัฐอเมริกา เลยทีเดียว
คงต้องติดตามกันต่อไปว่า New Balance จะสามารถเติบโตได้แค่ไหน ในอนาคต
แต่ที่แน่ ๆ คือ ปัจจุบันคุณ Jim Davis ได้พิสูจน์แล้วว่า ความเข้าใจ และการมี Passion ต่อสิ่งที่เราทำอยู่
คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ นั่นเอง
1
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ ..
นับตั้งแต่วันที่ซื้อกิจการมาจนถึงวันนี้ New Balance ก็ยังถือเป็นธุรกิจส่วนตัวของคุณ Jim Davis และไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เขาและครอบครัวมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 170,000 ล้านบาท
ส่วนรายได้ปี 2022 ของบริษัท New Balance อยู่ที่ 150,000 ล้านบาท
โฆษณา