21 มี.ค. 2023 เวลา 09:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ

การหาจุดกลับตัว (reversal point)

การหาจุดกลับตัว (reversal point) หรือจุดเปลี่ยนแนวโน้ม (trend reversal point) เป็นเรื่องสำคัญในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนหรือกราฟเส้นในการซื้อขายหุ้นและตลาดทุกประเภท เพื่อช่วยให้นักลงทุนทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ดังนั้นมี indicator หลายอย่างที่ใช้ในการหาจุดกลับตัว เช่น
1.Moving Averages (MA) - สามารถใช้ MA เพื่อหาจุดกลับตัวได้ โดยเมื่อราคาข้างล่าง MA แสดงว่าอาจเป็นสัญญาณของการแกว่ง (reversal) หรือเปลี่ยนแนวโน้ม (trend reversal) แต่ไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน
2.Relative Strength Index (RSI) - เป็น indicator ที่นิยมใช้ในการหาจุดกลับตัว โดยเมื่อ RSI เกินค่าที่กำหนดแล้วกลับมาต่ำกว่าค่าที่กำหนด อาจเป็นสัญญาณของการแกว่งหรือเปลี่ยนแนวโน้ม
3.Bollinger Bands - สามารถใช้ Bollinger Bands เพื่อช่วยหาจุดกลับตัวได้ หากราคามีแนวโน้มที่เกินขอบเขตบนของ Bollinger Bands แล้วกลับมาต่ำกว่าเส้นเฉลี่ยของ Bollinger Bands อาจเป็นสัญญาณของการแกว่งหรือเปลี่ยนแนวโน้ม
4.Fibonacci Retracement - สามารถใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาจุดกลับตัวได้ โดยการหาระดับการเปลี่ยนแนวโน้มจากการเคลื่อนไหวในราคาของสินทรัพย์
การใช้ indicator เพื่อหาจุดกลับตัวเป็นเรื่องที่ต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากไม่มี indicator ใดที่สามารถให้ความแม่นยำเป็น 100% ในการพยากรณ์การแกว่งหรือการเปลี่ยนแนวโน้มของตลาดได้อย่างแม่นยำเสมอไป ดังนั้น การใช้ indicator ต้องพิจารณาอย่างละเอียดในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของตลาด และอย่างสำคัญควรใช้ indicator ร่วมกับการวิเคราะห์กราฟและการดูราคาเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อขาย
นอกจากนี้ ควรระมัดระวังเรื่องการใช้ indicator หลายตัวพร้อมกัน เนื่องจากอาจทำให้ผู้ใช้งานสับสนและทำให้ตัดสินใจไม่ได้ผลดีเสียอย่างมาก ดังนั้นควรเลือกใช้ indicator ที่เหมาะสมกับรูปแบบการซื้อขายของตนเอง และทดสอบ indicator ก่อนนำไปใช้จริง โดยใช้ข้อมูลที่เป็นประวัติการซื้อขายเก่าเพื่อทดสอบความแม่นยำของ indicator กับการแกว่งหรือการเปลี่ยนแนวโน้มในอดีต หาก indicator ใดไม่ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำตามที่คาดหวังให้ลองปรับแต่งการใช้งานของ indicator หรือเลือกใช้ indicator อื่นแทน
ตัวแรกคือ
Relative Strength Index (RSI)
Relative Strength Index (RSI) เป็น indicator ที่ใช้ในการวิเคราะห์เทรนด์ของราคาและหาจุดกลับตัวของตลาด โดยหลักการทำงานของ RSI คือการวัดความเร็วและความเข้มของการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถระบุเทรนด์ของตลาดได้ว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และสามารถระบุจุดซื้อขายที่เหมาะสมในแนวโน้มนั้น ๆ ได้
ขั้นตอนการใช้งาน RSI เพื่อหาจุดกลับตัวดังนี้
1.ตั้งค่า RSI: ค่าเริ่มต้นของ RSI คือ 14 แต่สามารถปรับเปลี่ยนค่าได้ตามต้องการ
2.ดูค่า RSI: ในการใช้งาน RSI จะต้องดูค่า RSI ในช่วงเวลาต่าง ๆ เพื่อระบุแนวโน้มของตลาดว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง
3.วิเคราะห์เทรนด์: หากค่า RSI อยู่ในช่วง 0-30 แสดงว่าตลาดอยู่ในสถานการณ์แฝงการขายเกินขาด และอาจมีโอกาสเกิดการกลับตัวขึ้น ในทางกลับกัน หากค่า RSI อยู่ในช่วง 70-100 แสดงว่าตลาดอยู่ในสถานการณ์แฝงการซื้อเกินขาด และอาจมีโอกาสเกิดการกลับตัวลง
4.ตรวจสอบสัญญาณ: สำหรับการใช้งาน RSI เพื่อหาจุดกลับตัว เราสามารถตรวจสอบสัญญาณจุดกลับตัวด้วย RSI ได้โดยใช้วิธีการดังนี้
4.1.Divergence: หากมีการเคลื่อนไหวของราคาที่แตกต่างจากค่า RSI ที่แสดงออกมา อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัว เช่น หากราคาขึ้นแต่ค่า RSI ลดลง หรือราคาลดลงแต่ค่า RSI ขึ้นขึ้น
4.2.Overbought/Oversold: หากค่า RSI เข้าสู่ช่วง overbought (70-100) หรือ oversold (0-30) และราคาเริ่มแสดงเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิด อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัว
4.3.RSI Trendline: สามารถวาดเส้น trendline บนค่า RSI เพื่อช่วยระบุแนวโน้มของตลาด หากเส้น trendline ตัดจุด oversold หรือ overbought อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัว
4.4.RSI Reversal Signal: บาง trader จะใช้การรวม RSI กับ indicator อื่น ๆ เพื่อหาสัญญาณของการกลับตัว เช่น การใช้ RSI ร่วมกับ Moving Average (MA) หากค่า RSI ข้างต้นตัดกับ MA อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัว
โฆษณา