22 มี.ค. 2023 เวลา 01:22 • ท่องเที่ยว

บันทึกการเดินทางตามหาเสือดาวหิมะ แห่งเทือกเขาหิมาลัย (ตอนที่6)

เช้าวันที่ 5 เราตื่นเช้าเหมือนทุกวัน ระหว่างที่นั่งดื่มน้ำและกำลังคิดจะหาขนมกิน ลาร่าที่เพิ่งโดนเราปลุกมาได้ไม่นานก็ชี้มาที่เราบอกให้ดื่มน้ำให้เสร็จ แล้วออกเดินทาง ก็คิดว่าหมายถึงไปทุกคน ที่ไหนได้ ไม่ใช่! ให้เราเดินไปกับโซนัมสองคน! คราวนี้ไม่ใช่โซนัมเล็ก แต่เป็นโซนัมเจ้าของบ้านโฮมสเตย์ที่เราอยู่ เป็นคนหนุ่มที่สูงกว่าโซนัมหนุ่มน้อย หน้าตาจะคมเข้มกว่าอยู่สักหน่อย
โซนัมพาเราเดินออกจากหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ชี้นู่นนี่ให้ดูบอกเนี่ยแถวนี้จะมีนกเยอะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ หน้าร้อนน่ะ … บอกให้มาอีกทีหน้าร้อน อืม จ๊ะ เอาตอนนี้ให้รอดก่อนนะ
หลักจากชี้นู้นชี้นี่ไปสักพัก โซนัมก็หยุดยืนริมถนนแล้วใช้กล้องส่องทางไกลที่ติดตัวมา คงมองหาอะไรซักอย่างให้เราถ่ายแหละ สุดท้ายหันมายิ้มแล้วบอกว่าจะพาไปถ่ายแพะภูเขาก่อน แล้วค่อยไปรังอินทรีย์ทองกันนะ เราก็เออออหมด
เราเดินเท้าจากตำแหน่งที่โซนัมเห็นจากกล้องส่องทางไกล มาอีกเกือบครึ่งชั่วโมง ฝูงแพะฝูงนี้ใกล้กว่าฝูงเดิมมาก ใกล้จนบรรดาแก๊งผู้ใหญ่ฝูงแพะ หันมามองเรากันใหญ่ พอเห็นเรานั่งนิ่งๆถึงยอมกลับไปเดินกินหญ้าต่อไป
ฝูง ibex
Ibex ตัวเมีย
เรานั่งถ่ายฝูงนี้อยู่สักพัก ขณะที่หันไปคุยกับโซนัมว่าจะไปต่อที่อื่น โทรศัพท์โซนัมก็ดังขึ้น ได้รับสายจากลาร่าถามว่าอยู่ไหน แล้วบอกให้พวกเรารออยู่ตรงนั้น เพื่อนอีกคนกำลังเดินมา โซนัมบอกเราว่า เราต้องรอที่นี่ก่อน เพราะเพื่อนคุณกำลังมา ก็สบายๆ โอเคค่ะ รอก็รอ
ตอนที่เห็นโยเกซหนึ่งในเพื่อนร่วมทริปของเราเดินลงเขามาหาเราด้วยตัวคนเดียวนั่นแหละถึงได้ตกใจ!
ทำไมมาคนเดียวละ!
คำตอบของโยเกซได้สะท้อนความเป็นลาร่าออกมาเลย “ผมตื่นมา ลาร่าก็บอกให้แต่งตัวแล้วออกมา ชี้ถนนมาบอกให้ไปทางนี้!”
“…..” พวกเรากำลังโดนลาร่ากลั่นแกล้งรึเปล่านะ เดินไกลอยู่นะ ถึงแม้ทางเดินจะไม่ยากก็เถอะ หรือว่าลาร่าจะประเมินด้วยสายตาอันเฉียบคมแล้วว่าใครสามารถทำอะไรได้บ้างกันนะ นี่มาเข้าค่ายฝึกเป็นแพะภูเขาแน่ๆ
สมาชิกอีกสองคน ตามมาด้วยรถยนต์กับคนขับรถคนเดิม สุดท้ายแล้วเช้านี้ก็ได้ถ่ายแพะภูเขาใกล้ชิดสวยงามอย่างที่คาดหวัง เราทุกคนกลับไปกินอาหารเช้าที่บ้านพัก แน่นอนว่าไม่เดินแล้ว นั่งรถกลับดีกว่า
ขณะกำลังเพลิดเพลินกับการทำชีสโทสกินกันอยู่นั้น ลาร่าก็รับโทรศัพท์แล้วตะโกนขึ้นมา pack up!
เอาละ วันนี้ไม่มีความสงบสุขแล้ว รีบอีก เสือดาวหิมะมาแล้ว!
ทุกคนรีบเก็บของวิ่งลงจากบ้านไปที่รถทันที เสือดาวหิมะเดี่ยวตัวนี้จะหน้าตาเป็นยังไงไม่รู้ รู้แต่ต้องรีบไปให้ไวที่สุด
ใช้คำว่าวิ่งลงจากบ้านได้จริงๆเนื่องจากบ้านอยู่บนเนินเขานะ ต้องขึ้นลงเนินนี้ทุกวัน
ทางขึ้นลงจากบ้านพัก ถ่ายระหว่างกำลังลง
ที่ที่พบเสือดาวหิมะวันนี้อยู่ไกลออกไปจากที่พักค่อนข้างมาก แต่เสือดาวอยู่ใกล้กับถนนมาก ลักษณะพื้นที่คิดง่ายๆคือถนนเลียบภูเขาที่ข้างทางลงไปคือเขาลาดชันจนยื่นไปเหว นั่นแหละ เสือดาวหิมะอยู่บริเวณผาหิน เราสามารถจอดรถและตั้งกล้องข้างถนนเพื่อถ่ายเสือดาวได้ ถือว่าอยู่ใกล้มากๆ พวกเราต้องเงียบมากเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเสือดาวมากเกินไป
เสือดาวหิมะสาวสวย กำลังหลับอยู่นะอย่ารบกวน
แต่ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ การรบกวนแม้ไม่ได้มาจากพวกเรา แต่พื้นที่ที่ใกล้ถนนเช่นนี้ไทยมุง(อินเดียมุง/ฝรั่งมุง) ก็ย่อมเกิดขึ้นได้ เราเจอเข้ากับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ตะโกนเสียงดัง จนสุดท้ายน้องเสือดาวคงรำคาญ ทำให้เธอลุกหนีไปจากจุดนี้ แม้จะย้ายไปไม่ไกล แต่ไม่สามารถเห็นได้ใกล้ๆแบบนี้แล้ว เพราะมีหินบัง พวกเราต้องแบกอุปกรณ์วิ่งขึ้นลงตามถนนเพื่อหาจุดถ่ายรูปใหม่
สุดท้ายได้ไปปักหลักที่ขอบถนนอีกฝั่ง เป็นขอบเหวไปเลย!
บรรยากาศการถ่ายเสือดาวหิมะ ถัดจากหิมะไปทางขวาของภาพก็เป็นเหวแล้ว (cr. ภาพจากคุณทัวร์ ทริปลีดของเราค่ะ)
เป็นวันที่แดดแรง ลมแรง อากาศเย็น เลือกไม่ถูกเลยว่าจะรู้สึกหนาวหรือร้อน หรือยังไงดี เราเฝ้าเสือดาวหลับกันอยู่หลายชั่วโมง ครั้งนี้เสือดาวลุกอีกครั้ง และยังมองหาที่ที่น้องย้ายไปไม่เจอ ลาร่าบังคับทุกคนอีกครั้ง(อีกแล้ว) ให้ไปกินอาหารเที่ยงที่เมืองข้างๆ
และเป็นอีกครั้ง เพิ่งรับจานอาหารมาถึงมือ ก็เจอคนมาเร่งบอกให้รีบกิน เพราะเจอจุดที่เสือดาวอยู่แล้ว!
“……” โอเค วันนี้ทั้งวันอย่ากินข้าวดีๆเลย รีบไปอีกแล้ว เหมือนน้องเสือไม่อยากให้เราได้กินข้าว ไดเอทเสียหน่อยนะ อะไรแบบนั้น
กลับมาที่เดิม เปลี่ยนมุมกันเล็กน้อย นั่งเฝ้ากันต่อ คุณน้องเสือดาวสาวสวย หลับไม่รู้ไม่ชี้ คงคิดอยู่ในใจว่ามนุษย์พวกนี้วุ่นวายเสียจริง (ก็วุ่นจริงๆ วิ่งไปวิ่งมา)
เป็นวันถ่ายรูปเสือดาวหิมะที่เคลื่อนที่เยอะ เนื่องจากสภาพพื้นที่ เราวิ่งตามเส้นทางของถนน มองลงไปดูได้ว่าพื้นที่ตรงไหนเสืออาจจะเดินผ่าน เป็นการเสี่ยงดวงพอสมควรกับตำแหน่งของการปักหลักถ่าย ตอนแรกเราเลือกอีกฝั่ง ยืนกันอยู่ซักพัก ลาร่าบอกไปทางนู่นก่อนไปถ่ายทางนู่น วิ่งไปวิ่งมา วิ่งเองบ้างขึ้นรถบ้าง ได้ขึ้นรถไปกับลูกหาบด้วยเพราะเร็วกว่าวิ่งไปรถตัวเอง ถ้าการนั่งท้ายกะบะในไทยเป็นความสนุกเพราะลมเย็น การนั่งท้ายกะบะที่นี่ก็คล้ายๆกันแค่ลมเย็นกว่ามากๆ (อากาศติดลบสิบเท่านั้นเองนี่นา)
ทีมเรากับการขึ้นกะบะไปถ่ายเสือดาวหิมะ
เสือดาวที่เราเจอวันนี้เป็นเสือดาวสาว มีช่วงตื่นมาที่น้องร้องหาคู่ให้เราได้ดูด้วย เสียงร้องน่ารักมาก น้องเหมือนเจ้าแมวตัวใหญ่เลย ครั้งนี้เราถ่ายได้ทั้งวีดีโอและภาพนิ่งสวยๆของน้อง ทริปนี้คุ้มแล้วจริงๆ ถ่ายไปหนาวไป อากาศเย็นจนมือแข็ง ยิ่งช่วงเย็นยิ่งหนาว แต่เสือดาวพอเย็นนี่แอคทีฟเหลือเกินเคลื่อนไหวเยอะจริงๆ ทรมานมือตากล้องเหลือเกินค่ะ ถือกล้องไปถ่ายไปด้วยมืออันสั่นเทา
สีเหมือนหินขนาดนี้ก็เลยมองหายากมากๆ
ลุกเดินแล้ว พระอาทิตย์ตกคือเวลาของน้อง
บิดขี้เกียจสักที ก่อนจะเดินลงหน้าผาไปเลย
จบวันนี้ไปอย่างอิ่มเอม เกินครึ่งทางของการอยู่ที่คิบเบอร์ สำหรับเราพอใจแล้ว แต่ถ้ามีลุ้นอีกก็อยากได้นะคะ เสือดาวหิมะน่ะ เห็นกี่ครั้งก็ปลื้มใจทุกครั้ง ╰(*´︶`*)╯♡♡
ปล. ลาร่าสายปั่นวันนี้อารมณ์ดีสุดๆ ไม่รู้อารมณ์ดีที่พาพวกเราเจอเสือดาว หรืออารมณ์ดีที่ปั่นให้เราวิ่งไปวิ่งมาทั้งวันก็ไม่รู้
โฆษณา