26 มี.ค. 2023 เวลา 16:24 • ศิลปะ & ออกแบบ

ศิลปะของพวกกลายพันธ์ุ และโศกนาฏกรรมแห่งมนุษย์:

ผลงาน We Walked the Earth โดย Uffe Isolotto
ต้อนรับผู้มาเยือนเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่ซึ่งจำลองภาพชีวิตชนบท และฟาร์มอันงดงามของเดนมาร์กผสมผสานกับองค์ประกอบไซไฟที่แสนแปลกประหลาดในผลงาน “We Walked the Earth” โดย Uffe Isolotto ผลงานศิลปะที่นำเสนอเนื้อหาเรื่องราวได้อย่างโด่ดเด่นจากเทศกาลศิลปะ Venice Art Biennale 2022 ณ Pavilion of Denmark
“We Walked the Earth” นำเสนอเรื่องราวของเซ็นทอร์สัตว์ที่เรารู้จักกันดีในเทพนิยาย เเต่ในผลงานนี้เป็นเซ็นทอร์ที่เกิดจากการกลายพันธ์ุจากคน เเละม้า ผลงานติดตั้ง และนำเสนออยู่ภายในศาลาทั้งหลังที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นบ้านไร่สไตล์เดนมาร์ก เมื่อผู้ชมได้เข้าไปในบ้านจะได้พบกับห้องต่างๆ ที่มีข้าวของ อาหาร และเครื่องมือในการทำงาน แต่ผู้ชมจะไม่สามารถตัดสินได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาและโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ ด้วยสภาพแวดล้อมที่แปลกตา และบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกถึงความหดหู่ และน่าสลดใจ
รูปปั้นเซนทอร์ที่ดูสมจริงจนเกินจริง 2 ตัว ถือได้ว่าเป็นตัวเอกของงานแสดงชิ้นนี้ ด้วยรูปร่างที่ผิดปกติเสมือนว่าตัดเอาตัวคนท่อนบนมาต่อเข้ากับท่อนล่างของม้า กลายเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ ใบหน้า ลำตัว และมือของพวกมันมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ผิวหนังเต็มไปด้วยร่องรอยที่ผิดแปลกไปจากความเป็นมนุษย์ และเซนทอร์แต่ละตัวถูกจัดวางไว้ในเเต่ละพื้นที่ด้วยลักษณะท่าทางที่ต่างกัน
ในห้องหนึ่งจะพบเซนทอร์ตัวผู้ปลิดชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอจากโซ่ที่ห้อยลงมาจากเพดาน ห้องที่ติดกันเป็นห้องที่พบเซนทอร์ตัวเมียนอนอยู่บนพื้น ดวงตาของเธอเบิกกว้างและแดงก่ำ ศีรษะของเธอวางอยู่บนแขนของราวกับว่ากำลังนอนหลับ จะเห็นได้ว่าเธอได้ให้กำเนิดลูกเซนทอร์จากการสังเกตุที่ด้านหลังของเธอมีทารกอยู่ในถุงน้ำสีน้ำเงินกึ่งโปร่งใส แต่ทว่าทารกดูเหมือนจะเป็นลูกผสมจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากพ่อแม่ของมัน
แม้จะไม่มีคำอธิบายกำกับไว้กับผลงานแต่เรากลับสามารถเดาได้ว่าผลงานชิ้นนี้หากเป็นละครสักเรื่องแล้วก็คงจะหนีไม่พ้นละครโศกนาฏกรรมไซไฟ เซนทอร์สาวที่คลอดลูกออกมาเเต่ลูกกลับไม่ได้มีลักษณะเหมือนพ่อแม่ เรื่องเศร้านี้อาจทำให้เธอตรอมใจตาย หรือตายจากการคลอดบุตร
2
สุดท้ายเซนทอร์หนุ่มแขวนคอตัวเองด้วยความเศร้าโศกจากการสูญเสียลูก และคู่ชีวิต จุดจบที่โหดร้ายคับคล้ายคับคลาละครหลังข่าว ทำให้เราไม่ได้รู้สึกขัดข้องว่าเซนทอร์เหล่านั้นอาจไม่มีอยู่จริง แต่ผลงานชิ้นนี้กลับทำให้เรารู้สึกถึงการดิ้นรนต่อสู้เพื่อรับมือกับความท้าทายของความเป็นจริงในชีวิต
นอกเหนือไปจากนั้นเเล้วยังมีการตกแต่งสถานที่ และบรรยากาศให้สมจริงด้วยความพิถีพิถัน คราบเปื้อนเปรอะบนพนังและพื้น ร่องรอยของน้ำ สีบนฝ้าเพดานที่หลุดล่อน หญ้าและใบไม้แห้งกองเกลื่อนอยู่บนพื้น มีเครื่องมือที่คล้ายกับคราดสองสามชิ้นพิงอยู่กับผนังและพื้นที่ส่วนหนึ่งยังมีชิ้นเนื้อห้อยลงมา คาดว่าเป็นเนื้อที่ครอบครัวเซนทอร์ห้อยไว้เป็นอาหาร
2
ในห้องของเซ็นทอร์หนุ่มที่ถูกแขวนคอและในห้องข้างๆ มีรูปปั้นซึ่งทำจากแก้วที่มีลักษณะคล้ายสิ่งมีชีวิต หรืออวัยวะที่ไม่มีรูปร่างแน่ชัดปรากฏอยู่เกลื่อนกลาด ซึ่งสิ่งมีชีวิตนั้นดูเหมือนจะเสียชีวิตไปแล้ว ในตัวสิ่งมีชีวิตเเสนประหลาดเหล่านั้นยังมีของเหลวสีฟ้าข้นหนืดไหลออกมาจากตัว เช่นเดียวกับของเหลวสีฟ้าในอวัยวะที่ดูเหมือนหลอดเลือดบนตัวเซนทอร์ทั้งสอง
1
หากอ้างอิงจากหลักจรรยาบรรณของนักวิทยาศาสตร์ในโลกของเรา การตัดต่อพันธุกรรมสัตว์ หรือมนุษย์นั้นเป็นข้อห้าม และเซนทอร์ที่มีลักษณะเหมือนจริงแบบกึ่งนามธรรม สื่อถึงระบบชีวภาพแบบเปิดที่สามารถแทรกแซงได้อย่างอิสระโดยไร้การคัดค้านทางศีลธรรม
1
อย่างไรก็ตามศิลปินได้กล่าวว่าเซนทอร์ที่เราเห็นไม่ได้เป็นเซนทอร์ที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมขึ้น แต่เป็นเซนทอร์ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาวะฉุกเฉินทางระบบนิเวศที่อาจเปลี่ยนไปในอนาคต เพราะมนุษย์เองมีข้อจำกัดในการดำรงชีวิตในระบบนิเวศที่โหดร้ายหลายอย่าง และไม่ได้มีพละกำลังที่เเข็งแกร่งอย่างเช่นสัตว์ป่า การรวมร่างมนุษย์เข้ากับร่างสัตว์จึงเป็นการเปรียบเทียบเชิงล้อเลียนถึงการวิวัฒนาการย้อนกลับ อารยธรรมที่ล่มสลาย และข้อจำกัดของการเป็นมนุษย์
มนุษย์เองเป็นสิ่งมีชีวิตที่แม้จะฉลาดแต่ก็อ่อนแอ หากเรื่องราวของเซนทอร์ที่ได้กล่าวไปนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง คงจะเป็นโศกนาฏกรรมของมนุษยชาติที่จะต้องวิวัฒนาการไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่ครั้งหนึ่งเราเรียกว่าเดรัจฉาน เพื่อให้ยังสามารถดำรงชีวิต และสืบเผ่าพันธ์ุต่อไปในอนาคต
-ซับศิลป์-
โฆษณา