4 เม.ย. 2023 เวลา 03:50 • กีฬา

"ขาดความเป็นผู้ชนะ" คือคาแรกเตอร์ของสเปอร์สตอนนี้

ถึงแม้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะเสียประตูให้ เอฟเวอร์ตัน ตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 90 เมื่อคืนนี้จากลูกยิงไกลสุดสวยของ ไมเคิ่ล คีน แต่ถ้าใครได้ดูเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาจริงๆ จะเห็นว่านั่นไม่ใช่ฟอร์มการเล่นที่ทีมไก่เดือยทองสมควรจะได้ชัยชนะกลับออกไปเลย
ตลอดทั้งเกมที่ กูดิสัน พาร์ค สเปอร์สมีโอกาสยิงตรงกรอบแค่ 2 ครั้ง หนึ่งในนั้นคือจุดโทษจาก แฮร์รี่ เคน ที่เป็นประตูขึ้นนำ ส่วนเอฟเวอร์ตันแม้จะครองบอลไม่มาก แต่โจมตีได้น้ำได้เนื้อกว่า สามารถหาโอกาสจบสกอร์ได้มากถึง 15 ครั้ง
ทั้งที่ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินมีนักเตะโดนไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 58 ของเกมแท้ๆ หลังจาก อับดูลาย ดูกูเร่ โดนใบแดงโดยตรงจากการใช้มือผลักหน้า แฮร์รี่ เคน จนผู้ตัดสินมองว่าเป็นพฤติกรรมเกเรเกินเหตุ (แม้จะผลักไม่แรงนักก็ตาม) แต่กลายเป็นว่านักเตะสเปอร์สเล่นกันแบบ "ไม่เอาอะไรเลย" ทั้งที่เจ้านายจอมเฮี้ยบอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ด่ากราดพวกเขาออกสื่อ โดนปลดไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
หลังจากที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดนตีเสมอนอกบ้านในช่วงนาทีสุดท้ายเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก ทำให้ทีมไก่เดือยทองยังคงมีสถิติการเล่นนอกกรุงลอนดอนที่ย่ำแย่มากๆ ในปี 2023
สเปอร์สทำชัยชนะหลุดมือในช่วงท้ายเกมอีกครั้ง เมื่อโดนเอฟเวอร์ตันตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 90 จากลูกยิงไกลสุดสวยของ ไมเคิ่ล คีน
อันนี้คือความจริงนะครับ นับตั้งแต่ขึ้นปีใหม่เป็นต้นมา สเปอร์สยังไม่สามารถเอาชนะใครในเกมลีกที่เตะที่เมืองอื่นที่ไม่ใช่กรุงลอนดอนเลย
ถ้านับเฉพาะในปีปฏิทินปัจจุบันนี้ สเปอร์สลงเตะไปแล้ว 13 นัดในพรีเมียร์ลีก ชนะไป 6 นัด เสมอ 2 และแพ้ 5
ซึ่งทั้ง 6 เกมที่ชนะได้ล้วนเป็นการเล่นที่เมืองหลวงล้วนๆ แบ่งเป็นชนะเกมเยือนคู่แข่งร่วมกรุงลอนดอน 2 นัด คือบุกถล่ม คริสตัล พาเลซ 4-0 เมื่อวันที่ 4 มกราคม และบุกเฉือนฟูแล่ม 1-0 เมื่อวันที่ 23 มกราคม นอกนั้นอีก 4 นัดที่ได้ 3 แต้มคือการชนะเกมเหย้าทั้งหมด ประกอบด้วยเฉือน แมนฯ ซิตี้ 1-0, ชนะเวสต์แฮม 2-0, ชนะเชลซี 2-0 และชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-1
ส่วนการเล่นที่เมืองอื่นที่ไม่ใช่ลอนดอน ทีมไก่เดือยทองบุกไปโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงชนะ 4-2 เมื่อวันที่ 19 มกราคม, ออกไปโดนเลสเตอร์แซงถล่มยับ 4-1 ในเดือนกุมภาพันธ์, ออกไปโดนวูล์ฟแฮมป์ตันตบ 1-0 เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ก่อนที่ 2 เกมล่าสุดที่ออกนอกบ้านจะทำได้แค่เสมอกับเซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 โดยเสียจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ตามด้วยโดนทีมจากเมืองลิเวอร์พูลอย่างเอฟเวอร์ตันไล่เจ๊า 1-1 เมื่อคืนนี้
ทั้ง 5 นัดที่ว่าที่เสียแต้มนอกบ้าน สเปอร์สมีโอกาสเก็บชัยชนะกลับออกมาแต่พลาดกันไปเองทั้งหมด โดยนัดที่โดน แมนฯ ซิตี้ ถล่ม พวกเขาอุตส่าห์บุกนำ 2-0 ก่อนจบครึ่งแรก ส่วนนัดที่โดนเลสเตอร์ยำใหญ่ พวกเขาก็เป็นฝ่ายออกนำก่อน
เกมที่แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 พวกเขามีโอกาสลุ้นประตูตลอดทั้งเกมถึง 21 ครั้งแต่กลับจบไม่ลง แล้วก็มาโดน อดาม่า ตราโอเร่ ยิงตัดสินเกมในนาทีที่ 82 ส่วนการเสมอกับทีมนักบุญและทอฟฟี่ ก็พลาดโดนตีเจ๊าใน "นาทีบาป" อย่างน่าเจ็บใจ
แล้วสถิติที่บอกไป ไม่ได้หมายความว่า สเปอร์ส จะไม่แพ้เลยถ้าเล่นที่ลอนดอนนะครับ เพราะในปีปฏิทินนี้พวกเขามีเกมที่แพ้ แอสตัน วิลล่า และ อาร์เซน่อล คาบ้านด้วยสกอร์ 0-2 ในเดือนมกราคมให้เห็นมาแล้ว
เปอร์เซ็นต์ชนะเกมลีกในปี 2023 นี้ของสเปอร์สมีไม่ถึง 50% นั่นจึงเป็นเรื่องที่ไว้ใจพวกเขาได้ยากจริงๆ ว่าจะไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยมาตรฐานแบบนี้ได้อย่างไร
จริงอยู่ ตารางคะแนนตอนนี้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คืออันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีก แต่พวกเขาก็มีโอกาสหล่นลงมาในเร็วๆ นี้สูงมาก เพราะแข่งมากกว่าอันดับ 5 อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มี 50 แต้มเท่ากันอยู่ 2 นัด และแข่งมากกว่าอันดับ 6 อย่างไบรท์ตันถึง 3 เกม
ซึ่งถึงแม้ว่าไบรท์ตันจะแต้มน้อยกว่าอยู่ถึง 7 คะแนน แต่ถ้า โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ พาทีมเก็บชัยชนะนัดตกค้างได้ทั้งหมด ก็จะมีอันดับเหนือกว่าสเปอร์สได้แล้ว แล้วตอนนี้ทีมนกนางนวลที่นำโดย คาโอรุ มิโตมะ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ ซอลลี่ มาร์ช มีเกมรุกอันตรายมากๆ พร้อมสร้างความเจ็บแสบให้ทุกทีมได้ด้วย
เผลอๆ วันเสาร์นี้ที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม อาจจะเป็นไบรท์ตันด้วยซ้ำ ที่จะเล่นได้น่าดูชมกว่า
โปรแกรม 2 นัดถัดไป กุนซือขัดตาทัพอย่าง คริสเตียน สเตลลินี่ จะพาทีมเล่นในบ้านทั้ง 2 เกม โดยจะพบไบรท์ตันคืนวันเสาร์นี้อย่างที่เพิ่งบอกไป และรับมือบอร์นมัธคืนวันเสาร์ที่ 15 เมษายน
ซึ่งว่ากันตรงๆ ถ้าหากพลพรรคคลับไก่ยังหวังไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ยังไงก็ต้องเก็บ 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัดนี้ให้ได้ เพราะโปรแกรม 3 นัดสุดท้ายของเดือนเมษายนจะเจองานหนักกว่านี้
23 เมษายน สเปอร์สจะต้องเยือน นิวคาสเซิ่ล, 27 เมษายน จะต้องเปิดบ้านพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนั้นน่าจะได้ทั้ง คาเซมิโร่ กับ คริสเตียน เอริคเซ่น พร้อมลงตัวจริงทั้งคู่ ก่อนที่วันที่ 30 เมษายน จะต้องบุกไปเยือนลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์
โปรแกรม 5 นัดถัดไปของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จนกว่าจะจบเดือนเมษายน เจองานหนักเพียบทีเดียว
จากฟอร์มที่เห็นๆ กันอยู่ตอนนี้ ผมขอแฟนไก่เดือยทองว่าอย่าเพิ่งโกรธกัน ถ้าจะบอกว่าคงไม่แปลกใจอะไรเลย ถ้า 5 นัดข้างหน้าจะชนะได้แค่บอร์นมัธทีมเดียว
ตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา สเปอร์สยังไม่เคยชนะใครเกิน 2 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกได้เลย ในขณะที่คู่แข่งลุ้นแย่งท็อปโฟร์อย่างนิวคาสเซิ่ล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยมีช่วงชนะรัวๆ ต่อเนื่องให้เห็นแบบชินตามากกว่า
ในฤดูกาลนี้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หวังพึ่ง แฮร์รี่ เคน มากเกินไป โดยที่แนวรุกคนอื่นๆ ฟอร์มไว้ใจไม่ได้ โดย ซน ฮึง-มิน กับ เดยัน คูลูเซฟสกี้ มาตรฐานดร็อปลงอย่างน่าใจหาย ส่วนแดนกลางก็ยวบลงไปเยอะเมื่อ โรดริโก้ เบนตันกูร์ มีปัญหาบาดเจ็บ
ขณะที่แผงหลังไม่ต้องพูดถึง แฟนสเปอร์สยังบ่นกันระนาวว่าถ้านักเตะแนวรับเป็นชุดนี้ เอาใครมาคุมก็เข็นขึ้นยาก
ทีมที่คุณภาพไม่ได้ดีมาก สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ด้วยความมุ่งมั่นและมีสมาธิเกินร้อย แต่สิ่งนั้นเราก็ยังไม่ได้เห็นจากสเปอร์สเลยในช่วงนี้
การสะดุดนัดล่าสุดที่ กูดิสัน พาร์ค มันจึงแทบจะเหมือนเป็นบทสรุปกลายๆ แล้วก็ว่าได้ ว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เหมาะสมกับการได้ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าหรือเปล่า
#เสียบสามเหลี่ยม #สเปอร์ส #ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ #ไก่เดือยทอง #พรีเมียร์ลีก
โฆษณา