7 เม.ย. 2023 เวลา 12:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

📌 Gigamon Deep Observability Pipeline : อีกระดับของความปลอดภัยที่สูงขึ้น

ปัจจุบัน 90 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรทำงานในโลกแบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ การเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์มัลติคลาวด์ช่วยให้องค์กรขับเคลื่อนความพยายามในการเปลี่ยนผ่านสู่การทำ Digital Transformation แต่ก็ยังสร้างความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ ทั้งเรื่องเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย การมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่สอดคล้องกัน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ด้วย Gigamon Deep Observability Pipeline ทำให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น การแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย การดำเนินงานที่ล่าช้า และช่วยปกป้ององค์กรของคุณจากความเสี่ยงต่อภัยคุกคามและการละเมิด
ด้วย Gigamon คุณสามารถ…
• ย้ายแอปพลิเคชันไปยัง Public Cloud อย่างมั่นใจ ในขณะที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
• รวม Stack รักษาความปลอดภัยและความสามารถในการสังเกตการณ์ของคุณเข้ากับโซลูชันที่คุณเลือก
• ย้ายไปยังการรักษาความปลอดภัยเชิงรุกในระบบคลาวด์ที่นอกเหนือไปจากวิธีการที่ใช้ MELT แบบเดิม
• ตรวจสอบ hosts/endpoints ที่ไม่มีการจัดการและอุปกรณ์ IoT ซึ่งไม่ได้สร้าง logs
• เร่งการวิเคราะห์สาเหตุและแก้ไขปัญหาด้วยการดูภาพรวมของสิ่งที่เกิดขึ้น
• รวมการจัดการการมองเห็นในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบไฮบริดทั้งหมด, Map และกรอง Traffic ไปยังเครื่องมือต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
Gigamon Deep Observability Pipeline ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องมือรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์และความสามารถในการสังเกตการณ์ที่มีอยู่ของคุณด้วย Real-Time Network Intelligence ที่ได้มาจาก Packets, Flows, และ Application Metadata
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ องค์กรสมัยใหม่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์
บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) #SECURE ผู้เชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ (Cybersecurity) ในฐานะตัวแทนจำหน่ายและผู้ให้บริการอย่างครบวงจร
สามารถติดตามโซลูชั่นอื่นๆ ได้ทาง
โฆษณา