ครั้งแรกในชีวิต นอนค้างคืนในโรงแรมน้ำแข็งของนอร์เวย์ที่ -4 องศาเซลเซียส

เที่ยวไปทั่วกับหมอเฉลิมชัย : ทริปที่ไปนอร์เวย์ในช่วงมีนาคม 2566 ได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวที่หลากหลายมาก ทั้งชมแสงเหนือ ทั้งทานปูยักษ์อลาสก้า และเดินเดี่ยว เที่ยวคนเดียวในกรุงออสโล
วันนี้จะมาเล่าเรื่อง ประสบการณ์จริงครั้งแรกในชีวิต ของการเข้าพักในโรงแรมที่ต้องถือว่าแปลกและน่าสนใจก็คือ โรงแรมหิมะหรือ Snow Hotel
แผนกต้อนรับ Snow Hotel
เพราะเป็นโรงแรมหิมะแห่งเดียว ของนอร์เวย์และอาจถึงขั้นเป็นแห่งเดียวของโลก ที่สามารถเปิดได้ตลอดปี แม้ในฤดูร้อน ขนาด 30 องศาเซลเซียส
โรงแรมดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมือง Kirkenes ซึ่งเป็นเมืองในทางทิศเหนือของประเทศนอร์เวย์ ใกล้กับขั้วโลกเหนือ และอยู่ติดกับชายแดนของรัสเซีย
ซึ่งเมืองดังกล่าวจะอยู่เหนือกว่าส่วนเหนือสุดของประเทศสวีเดนและฟินแลนด์เสียอีก
โดยอาณาเขตของนอร์เวย์นั้น ได้โอบล้อมข้ามตอนบนของสองประเทศดังกล่าว มาติดกับรัสเซีย และอยู่สูงกว่าเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลซึ่งแบ่งพื้นที่เขตอบอุ่นออกจากเขตหนาวขั้วโลก
ได้รับการบอกเล่าจากทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมว่า ทางโรงแรมจะไปตัดน้ำแข็งมาจากทะเลสาบใกล้ใกล้ ที่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาวเนื่องจากอุณหภูมิจะลดต่ำลงมาถึงระดับ - 40 องศาเซลเซียส
ทะเลสาบที่แข็งเป็นน้ำแข็ง
ทำให้น้ำในทะเลสาบแข็งตัว มีความหนาระดับ 60-80 เซนติเมตร เมื่อตัดก้อนน้ำแข็งมาแล้ว ก็จะใช้ช่างฝีมือ ทำการตัดแต่งแกะสลักน้ำแข็งเป็นรูปร่างต่างๆ
เช่น เตียงนอน รูปการ์ตูนดิสนีย์ หมีขั้วโลก ทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม หรือในส่วนต้อนรับ ก็จะเป็นน้ำแข็งทั้งหมด
1
ทางเข้าโรงแรม
ส่วนตัวห้องนอน ที่เรียกว่า Ice rooom หรือห้องน้ำแข็ง มีการจัดสร้างมาก่อนแล้ว โดยมีการใช้บอลลูนร่วมกับการวางหิมะและน้ำแข็ง จนกระทั่งเป็นเพดานและผนัง
เมื่อเสร็จแล้ว ก็จะใช้ความสามารถพิเศษ ในการดูแลห้องน้ำแข็งนี้ ไม่ให้ละลาย แม้ในฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นมาถึง 30 องศาเซลเซียส
เพดานเป็นเกร็ดน้ำแข็งสวยงาม
แต่ทางโรงแรมก็เก่งมาก สามารถรักษาเพดานและผนังของห้องน้ำแข็งดังกล่าวสำเร็จ ให้อยู่ที่อุณหภูมิ -4 องศาเซลเซียสได้อย่างสม่ำเสมอ
1
ในตอนที่ผู้เขียนไปพักนั้น อุณหภูมิภายนอกอยู่ที่ -15 องศาเซลเซียส
เคบิน ห้องพักที่ไม่เป็นน้ำแข็ง
โรงแรมมีห้องพักที่เป็นห้องน้ำแข็งอยู่ 14 ห้อง และโรงแรมที่เป็นเคบินที่ไม่ได้เป็นน้ำแข็งอีกหลายสิบห้อง
เราได้ห้องพักหมายเลข 8 ซึ่งภายในแกะสลักน้ำแข็งเป็นบรรยากาศการ์ตูน เจ้าหญิงปริ๊นเซสของดิสนีย์ สวยงามน่ารักมาก
1
ภายในโรงแรมส่วนที่เป็นน้ำแข็ง
ส่วนห้องน้ำแข็งอื่นๆอีก 13 ห้อง บรรยากาศภายในไม่ซ้ำกันเลย มีการแกะสลักน้ำแข็งที่แตกต่างกันออกไป
1
ที่สำคัญ ทางโรงแรมเปิดโอกาสให้เราสามารถเดินชมห้องน้ำแข็งได้ทุกห้อง และสามารถจะไปตกลงกันเองขอสลับสับเปลี่ยนห้องนอนได้ถ้าพอใจซึ่งกันและกัน
4
แต่เราตกลงว่า เราเลือกห้องเจ้าหญิงเบอร์แปดนี้แหละ เพราะสวยที่สุดในความเห็นของเรา
1
ห้องเจ้าหญิงเบอร์แปด
ส่วนห้องพักแบบเคบิน มีไว้สำหรับคนที่อยากมาเที่ยวโรงแรมหิมะ แต่ยังไม่สบายใจหรือกังวลเรื่องการนอนในห้องน้ำแข็ง ก็จะตัดสินใจพักในห้องที่ไม่ใช่น้ำแข็ง
การเตรียมการนอนค้างคืน มีความสำคัญมาก ทางโรงแรมทราบว่านักท่องเที่ยวทุกคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ จะมีความกังวลและมีคำถามมากมาย
วัดอุณหภูมิเพื่อยืนยัน
ว่าจะนอนในห้องน้ำแข็งให้หลับสบายตลอดทั้งคืนที่อุณหภูมิติดลบ 4 องศาเซลเซียสได้อย่างไร
จึงต้องมีการบรรยายและสาธิต วิธีการเตรียมตัวการนอนในห้องน้ำแข็ง ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็จะหนาวจนนอนไม่หลับทั้งคืน
1
อย่างไรก็ตาม ทางโรงแรมบอกว่า ถ้าใครที่เลือกพักในห้องน้ำแข็ง แล้วกลางคืนนอนไม่หลับจริงๆ ก็สามารถย้ายมานอนในที่นอนอุ่นอุ่นที่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมได้ แต่ไม่คืนเงินนะครับ
2
เริ่มต้นของการอธิบายก็คือ ให้เริ่มไปรับอุปกรณ์ประกอบการนอนดังนี้
1
ถุงนอนและอุปกรณ์การนอน
1) ถุงนอนขนาดใหญ่ (Sleeping Bag) ที่หนานุ่มและใหญ่มาก ระดับผู้หญิงชาวเอเซียไม่สามารถจะยกไปไว้ที่ห้องนอนตัวเองได้โดยลำพัง ชนิดลืมถุงนอนที่เราเคยใช้ในเมือง ไทยไปได้เลย
1
เทคนิคสำคัญที่อยากจะแนะนำไว้คือ ขอให้เลือกถุงนอนแบบชนิดเป็นซิป จะอบอุ่นดีกว่าแบบชนิดที่ใช้แถบกาวติดหรือวิธีอื่นๆ
1
แต่การเลือกแบบซิป จะต้องละเอียดละออ ได้ลองรูดซิปจากปลายขาจนขึ้นมาถึงคอว่า ซิปนั้นรูดได้ดีหรือไม่
เพราะผู้เขียนได้พบกับเพื่อนร่วมโรงแรมที่เป็นชาวฟิจิและมีแฟนเป็นคนออสเตรเลียนั้น ตื่นเช้าในวันถัดมา เค้าบอกว่าเค้าหลับหลับตื่นตื่นทั้งคืน หนาวมาก นอนไม่หลับ เพราะซิปรูดได้เพียงครึ่งตัว
1
เตียงน้ำแข็ง
2) ผ้าขาวสะอาดผืนใหญ่ ซึ่งได้รับการซักรีดมาอย่างดี เอาไว้ใช้เพื่อ พันตัวเอง เข้าใจว่าเพื่อให้แขกที่มาพักเกิดความสบายใจ เนื่องจากถุงนอนไม่ได้ซักทุกวัน
2
3) ถุงเท้ายาวหนานุ่มเป็นพิเศษ (Wool Sock) อุ่นเท้าดีจริงๆ
4) หมวกคลุมศีรษะแบบโผล่มาเฉพาะใบหน้า ผมเองไม่ได้ใช้ เพราะได้เลือกใช้หมวกที่เตรียมไปเอง
5) รองเท้าที่อุ่นสบายมาก เอาไว้เดินจากล็อบบี้ไปห้องน้ำแข็ง แต่เวลานอน ใส่แค่ถุงเท้าก็พอ
เมื่อมีอุปกรณ์ครบแล้ว เราเพียงสวมชั้นในกันหนาวที่เรียกว่าลองจอห์นแนบเนื้อธรรมดา ไม่ต้องใส่เสื้อหรือกางเกงกันหนาวใดใดทั้งสิ้น
ถอดรองเท้าออก นำผ้าขาวที่โรงแรมให้ นำมาพันตัวให้เรียบร้อย แล้วก็สวมถุงเท้า สวมหมวก
อยู่ในถุงนอนอุ่นสบาย โผล่แต่ใบหน้า
เมื่อพร้อมแล้ว ก็สอดตัวเข้าไปในถุงนอนขนาดใหญ่ดังกล่าว รูดซิปปิดตั้งแต่ปลายขาขึ้นมาจนถึงบริเวณใต้คาง โผล่เฉพาะใบหน้า
1
แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย อุ่นสบายทั้งคืนภายใต้อุณหภูมิ -4 องศาเซลเซียส
เคล็ดลับพิเศษที่อยากแนะนำไว้คือ อย่าดื่มน้ำมาก เพราะถ้าต้องลุกขึ้นมากลางดึก จะต้องออกไปเข้าห้องน้ำนอกห้องนอน ซึ่งจะหนาวมาก บางคนถึงขั้นเตรียมใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว
1
ห้องเบอร์แปดที่นอนจริงๆ
ผู้เขียนนอนหลับสบายดีทั้งคืน มีช่วงสั้นสั้นที่หมวกหลุด ทำให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาสองครั้งสั้นๆเท่านั้น
ตื่นเช้ามา พบถุงความร้อนที่ใช้มือบีบแล้วทำให้อุ่นสบายดี ที่นักท่องเที่ยวชอบพกติดตัวไปเมืองหนาว
และผู้เขียนก็นำมาบีบเล่นตอนก่อนนอน และก่อนจะหลับ ก็วางไว้ที่ข้างที่นอนซึ่งเป็นเตียงน้ำแข็ง ปรากฏว่าถุงทำความร้อนแข็งเป็นน้ำแข็งไปเลย
2
เมื่อลุกออกมาจากถุงนอนแล้ว ก็ไปเข้าห้องน้ำของโรงแรมที่อยู่ใกล้ใกล้
ส่วนหนึ่งของห้องน้ำ
ห้องน้ำดีมากๆ กว้างขวาง สะอาดสะอ้าน แม้จะเป็นห้องน้ำรวม อุ่นสบายจากฮีทเตอร์ โดยอาคารห้องน้ำนี้ไม่ใช่อาคารน้ำแข็งนะครับ
อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นที่แสนจะสบายแล้ว (บางคนก็ไปเข้าสปา) ก็มาล้างหน้าแปรงฟัน สระผมเสร็จ ก็จะมีไดร์ให้ทุกอ่างล้างหน้า มีโลชั่น มีครีมโกนหนวดของผู้ชายครบครัน
1
มีเรื่องขำๆแทรกเล็กน้อยคือ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังอธิบายและสาธิตการนอนในถุงนอน ซึ่งทุกคนกำลังตั้งอกตั้งใจฟังอย่างมาก
2
เมื่อมาถึงจุดสำคัญคือ วิธีการเอาตัวใส่เข้าไปในถุงนอน ปรากฏว่ามีแขกที่มาพักคนหนึ่ง เดินมาพูดเบาเบาแค่ว่า แสงเหนือสวยมาก เท่านั้นแหละครับ
1
แขกที่มาพักโรงแรมห้องน้ำแข็งทุกคน ต่างก็วิ่งออกไปข้างนอก ไม่มีใครสนใจการสาธิตเลย
5
สงสารเจ้าหน้าที่สาวสวยที่สาธิตมาก หน้าเหว่อไปเลย
เรียกว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต และสำหรับผู้เขียนแล้ว นับเป็นครั้งแรกเลยทีเดียว สำหรับการนอนค้างอ้างแรม ในห้องที่มีอุณหภูมิ -4 องศาเซลเซียส ณ เมืองชายแดนนอร์เวย์ติดกับรัสเซีย โดยที่อุณหภูมิภายนอก -15 องศาเซลเซียส
1
ส่วนกิจกรรมภายนอกของโรงแรมก็น่าสนใจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขี่สโนโมบิว การนั่ง Sled ที่ลากด้วยสุนัขฮัสกี้ นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้ทำกิจกรรมมากมาย โดยต้องจ่ายเงินเพิ่ม
สุนัขลากเลื่อนหิมะ
ผู้เขียนมีประสบการณ์ทั้งสองอย่างมาแล้ว จึงตัดสินใจเลือกไปเดินลุยหิมะบนเนินเขา โดยใช้รองเท้าตีนเป็ดขนาดใหญ่ เพื่อกระจายน้ำหนักไม่ให้เท้ายุบลงไปในหิมะ
รองเท้าพิเศษไว้เดินบนหิมะ
ซึ่งจะสามารถยุบลงไปถึงหัวเข่าหรือต้นขาได้อย่างสบายสบาย เพราะหิมะจะเป็นปุยนุ่มฟูมาก
การเดินลุยหิมะครั้งนี้ จะต้องขึ้นเนินเขา และลงเนิน มีระยะเวลาการเดินประมาณ 1.5 ชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมง เหนื่อยได้เรื่อง แต่ไม่ได้เหงื่อ เพราะหนาวมาก
คำแนะนำคือ ควรจะแต่งตัวกันหนาวชนิดเต็มยศที่สุด แม้จะเห็นว่าแดดแรง จนต้องใช้ครีมกันแดดก็ตาม
เพราะอุณหภูมิที่ติดลบ 15 องศาเซลเซียส และมีลมพัดแรง จะทำให้หนาวมาก
1
โดยเฉพาะส่วนที่ยื่นออกจากตัว ไม่ว่าจะเป็นมือ ขนาดชาแข็งไปเลยเวลาถอดถุงมือถ่ายรูป
จมูก หู จนต้องมีที่ปิดหูโดยเฉพาะเพราะหนาวเจ็บปวดในระดับเรียกว่าหูแทบหลุดเลยทีเดียว
1
ผู้เขียนได้เตรียมทุกอย่างพร้อมหมด จึงไม่มีปัญหาใดๆ ยกเว้นล้มไปสองครั้งในช่วงแรก เพราะรองเท้าหิมะมีทั้งความยาวและความกว้างผิดปกติ ทำให้เดินเตะขากันเอง
เป็นอันจบทริปการนอนในห้องน้ำแข็ง ของ Snow Hotel ด้วยความ ประทับใจยิ่ง
1
โฆษณา