15 เม.ย. 2023 เวลา 12:00 • ข่าว

ตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางง่ายๆ ด้วยหลักการ BEWAGON

BEWAGON อ่านว่า บีวากอน เป็นหลักการตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทาง ที่ทุกคนสามารถทำได้และควรจะทำเพื่อความปลอดภัย
BEWAGON หลักการตรวจเช็กสภาพรถ
 
บีวากอนเป็นหลักการ หากแปลตรงๆ มันหมายถึง ทำให้รถ เป็นรถที่พร้อมใช้งาน จากนั้นก็จะแยกตัวอักษร B ,E ,W ,A ,G ,O ,N เท่ากับ 7 อย่างที่เราควรเช็ก
1.B คือ BRAKE
อักษรตัวแรก B มาจาก BRAKE คือการตรวจเช็กระบบเบรกทั้งหมดว่าใช้งานได้ปกติไหม หยุดรถได้ตามที่ต้องการไหม ได้แก่
- เช็กระดับน้ำมันเบรก
- เช็กระดับน้ำมันคลัชท์
- เช็กความเรียบร้อยของท่อน้ำมันเบรก
- เช็กเบรคมือ
2.E คือ ELECTRIC 
 
ต่อมาคือ E หรือ ELECTRIC ตรวจเช็กระบบไฟฟ้าของรถว่าสามารถทำงานได้ปกติ ไม่ขัดข้อง ได้แก่
- เช็กระดับน้ำกลั่นของแบตเตอรี่
- เช็กขั้วแบตเตอรี่ สายรัด และแท่นรองแบตเตอรี่
- เช็กไฟสูง-ต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟถอยหลัง
- เช็กแตร
- เช็กที่ปัดน้ำฝน
3.W คือ WATER 
 
WATER หรือน้ำ เราควรตรวจเช็คระบบน้ำต่างๆ ให้พร้อม
- เช็กระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ
- เช็กระดับน้ำหล่อเย็นในถังพักสำรอง
- เช็กระดับน้ำในถังสำหรับฉีดล้างกระจก
4.A คือ AIR 
ตรวจเช็คระบบเกี่ยวกับอากาศ และลม ได้แก่
- เช็กการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
- เช็กลมยาง และความเรียบร้อยของล้อทั้งหมด
5.G คือ GASOLINE 
 
GASOLINE หรือเชื้อเพลิง  ควรเช็กน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊สเชื้อเพลิงว่าเพียงพอต่อการเดินทางหรือควรมี ¾ ถัง
6.O คือ OIL
การตรวจเช็กระบบน้ำมันหล่อลื่นต่างๆให้พร้อมใช้งาน 
- เช็กระดับน้ำมันเครื่อง 
- เช็กระดับน้ำมันเบรก
- เช็กระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
7.N คือ NOICE 
 
สุดท้ายสังเกตเสียงที่ผิดปกติของการทำงานรถยนต์ เราควรจดจำเรียงของรถเราได้ 
- เสียงเครื่องยนต์
- เสียงท่อไอเสีย
- เสียงการทำงานต่างๆ
หลักการ BEWAGON  ควรทำทุกครั้งก่อนเดินทางเพราะนอกจากช่วยให้เกิดความปลอดภัยต่อตัวเรา ผู้โดยสารและผู้ใช้ท้องถนนแล้ว ยังเป็นการช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้นานมากขึ้นอีกด้วย
⭐️อย่าลืมกดติดตาม ถูกใจ แชร์ และสามารถส่งเพชรเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ iNN BLOCKDIT
โฆษณา