13 เม.ย. 2023 เวลา 05:28 • กีฬา

สรุปเหตุการณ์มาเน่น็อตหลุดต่อยซาเน่ปากแตก

ซาดิโอ มาเน่ ต่อยปากลีรอย ซาเน่ จนเลือดออก นี่คือข่าวฉาวที่สุด ที่เคยเกิดขึ้นตลอดชีวิตนักเตะของเขา เรื่องราวเป็นอย่างไร เราจะไปลำดับเหตุการณ์กันแต่แรก
ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอ บาเยิร์น มิวนิค ในคืนวันอังคาร ซาดิโอ มาเน่ เป็นตัวสำรอง เขาถูกส่งลงมานาทีที่ 69 แทนจามาล มูเซียล่า โดยตอนนั้น แมนฯ ซิตี้ นำอยู่ 1-0
มาเน่ เหยียบสนามไป 40 วินาที ยังไม่ทันได้โดนบอลแม้แต่ครั้งเดียว ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ก็เสียบอลหน้าเขตโทษตัวเอง โดนแมนฯ ซิตี้ แย่งได้ แล้วเผด็จศึกได้สำเร็จจากแบร์นาโด้ ซิลวา สกอร์ขยับเป็น 2-0
จากนั้นนาทีที่ 76 มาเน่ก็ยังไม่โดนบอลแม้แต่ครั้งเดียวเหมือนเดิม แมนฯ ซิตี้ มายิงประตูที่สาม จากเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ สกอร์ขยับเป็น 3-0
1
กลายเป็นว่า มาเน่ เหมือนเป็นตัวนำโชคร้าย ลงมาปั๊บทีมโดนยิงสองลูกทันที ทั้งๆ ที่เขาไม่เกี่ยวเลย คือยังไม่โดนบอลเลยสักครั้งด้วยซ้ำ เป็นความผิดพลาดของแนวรับ ที่เล่นกันสะเปะสะปะสุดๆ
หลังโดนยิง 3-0 มาเน่ พยายามจะวิ่งหนักขึ้น เพรสซิ่งมากขึ้น เพื่อช่วยทีมไล่มาสักลูกก็ยังดี คือถ้าแพ้ 3 ลูกแบบนี้ มันแทบจะเกมโอเวอร์เลย
ความหงุดหงิดใจของมาเน่ เกิดขึ้นครั้งแรกในนาทีที่ 78 เมื่อแซร์ช นาบรี้ ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้าย มาเน่ฉีกเข้ามาด้านในอยู่โล่งๆ คือถ้านาบรี้เลือกจ่ายบอลก็ได้ยิงเลย แต่นาบรี้ไม่ส่ง พยายามจะล็อกหลบรูเบน ดิอาส จนโดนแย่งบอลได้ ช็อตนี้มาเน่เหวี่ยงกำปั้นด้วยความผิดหวัง
1
ไม่ใช่แค่กับนาบรี้ แต่กับ ลีรอย ซาเน่ ก็เช่นกัน ในนาทีที่ 79 โจชัว คิมมิช วางบอลยาวมาให้ซาเน่ โดยมาเน่วิ่งประคองรออยู่ด้านหลัง ถ้าซาเน่จะพักบอลแล้วส่งก็ทำได้ แต่ซาเน่เลือกยิงเองในมุมที่ยากมาก สุดท้ายโหม่งไปเข้ามือเอแดร์ซอนสบายๆ
1
ยังไม่หมดแค่นั้น ในนาทีที่ 83 ของเกม ซาเน่ได้บอลกลางสนาม มาเน่เตรียมสปรินท์ยาวแล้ว สามารถแทงคิลเลอร์พาสให้ได้เลย คือซาเน่ก็เห็นอยู่ ว่ามาเน่วิ่งฉีกไปแล้ว แต่เขาเลือกจ่ายสั้นให้คิงสลีย์ โคมันแทน แล้วสุดท้ายก็โดนนาธาน อาเก้ ตัดบอลได้ง่ายๆ
1
หลายๆ ครั้ง เราเห็นเลยว่า มาเน่ตีรถเปล่า วิ่งทำทางอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ไม่มีใครส่งให้ สถิติที่น่าตกใจในนัดนี้ คือมาเน่ได้ลงเล่น รวมทดเจ็บคือ 24 นาที แต่ได้สัมผัสบอลแค่ "6 ครั้ง" เท่านั้น
1
เขาเป็นคนที่ได้สัมผัสบอลน้อยที่สุดในนัดนี้ ไม่มีโอกาสยิงแม้แต่หนเดียวด้วย ซึ่งไม่น่าเชื่อ ถ้าดูปริมาณการวิ่งที่เคลื่อนที่ตลอดเวลาขนาดนั้น
ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือไม่ แต่สิ่งที่เราเห็นในนัดนี้คือ นักเตะบางคน เช่น ลีรอย ซาเน่ และ แซร์ช นาบรี้ เลือกจะไม่ส่งบอลให้มาเน่ คือถ้ามีโอกาส 50-50 จะเลือกจ่ายบอลให้คนอื่น หรือเล่นเอง นั่นทำให้บทบาทในสนามของมาเน่ ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ทีมเลย
1
มาเน่นั้นแบกรับความกดดัน ในฐานะนักเตะที่ค่าเหนื่อยแพงที่สุดตลอดกาลของบุนเดสลีกาอยู่แล้ว ค่าเหนื่อยของเขาสูงกว่านักเตะบาเยิร์น มิวนิคทุกคน ดังนั้นการที่เล่นไม่ออก ยิงไม่ได้ ได้บอลน้อย มันยิ่งเป็นแรงกดดันให้เขามากขึ้น
ตอนอยู่ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะช่วง 4 ปีหลังสุด มาเน่ไม่เคยโดนสื่อมวลชน หรือแฟนบอลตำหนิในเรื่องใดๆ เขาเป็นที่รักของทุกคนเสมอ แต่พอย้ายมาบาเยิร์น มาเน่โดนวิจารณ์ว่า เล่นไม่สมกับค่าตัวและค่าเหนื่อยที่สโมสรจ่ายไป ตลอดปี 2023 มาเน่ยังยิงไม่ได้เลยสักลูก
2
หลังจบเกม นักเตะบาเยิร์นเข้าห้องแต่งตัว และมีการทะเลาะกันรุนแรง ผลลัพธ์ของมันคือ ซาดิโอ มาเน่ "ต่อยหน้า" ลีรอย ซาเน่ ไปหนึ่งหมัด จนริมฝีปากแตก เลือดออก และมีอาการบวม เพื่อนร่วมทีมต้องแยกทั้งสองคนอย่างทุลักทุเล
จากนั้นทั้งคู่ก็ต้องแยกกัน แล้วพอบินกลับไปถึงมิวนิคปั๊บ มาเน่ ก็นั่งรถส่วนตัวแยกกลับจากสนามบินทันที ส่วนซาเน่ นั่งรถบัสกลับพร้อมเพื่อนร่วมทีมคนอื่น
แน่นอน การใช้กำลังของมาเน่ ต้องมีความรับผิดชอบตามมา คุณจะมาต่อยตีคนอื่นไม่ได้ แม้จะไม่พอใจแค่ไหนก็ตาม ล่าสุดบาเยิร์นยังไม่ให้ข่าวอะไร แต่ตอนนี้ โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอของทีม และ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการกีฬา กำลังปรึกษากัน และจะมีบทลงโทษมาเน่ตามมาในระยะเวลาอันใกล้นี้
2
โดยบทลงโทษมีสามระดับคือ ปรับเงิน, แบน และ ยกเลิกสัญญา ขึ้นอยู่กับว่าดีกรีความผิดมันแรงแค่ไหน
การลงไม้ลงมือแบบนี้ของมาเน่ ทำให้สื่อเยอรมันด่ายับ เว็บ Sport1 กล่าวว่า "เขาถูกคาดหวังว่าจะย้ายมาอย่างเป็นราชาในช่วงซัมเมอร์ แต่พอได้รับบาดเจ็บจนไปฟุตบอลโลกไม่ได้ พอกลับมามาเน่ไม่เคยเล่นได้เหมือนเดิมอีกเลย ตลอดปี 2023 ครั้งเดียวที่เขาซัดได้เข้าเป้า คือซัดเข้าไปที่หน้าของซาเน่"
5
คำถามในตอนนี้คือ มันเกิดอะไรขึ้นในห้องแต่งตัวกันแน่ คนอื่นทำไม่ดีกับมาเน่ หรือตัวมาเน่เป็นตัวปัญหาของเรื่องนี้
1
ในมุมแรก ถ้าคิดว่าบาเยิร์น เป็นทีมที่เต็มไปด้วยสตาร์เต็มไปหมด ความผิดใจกันมันก็อาจเกิดขึ้นได้ แล้วซาเน่ตอนอยู่แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็น Troublemaker ตัวสร้างปัญหาชั้นดี ดังนั้นอาจไปยั่วยุให้มาเน่น็อตหลุดก็ได้
2
ส่วนมุมที่สอง ต้องยอมรับว่า มาเน่ไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีเลย กับบาเยิร์น มิวนิค ก่อนหน้านี้เขาก็ทะเลาะกับยูเลียน นาเกลส์มันน์มาแล้ว ที่ใช้งานเขาแค่ 8 นาที ในเกมเจอปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ลีก
3
ถ้าคิดดูดีๆ ก่อนหน้านี้ นักเตะบาเยิร์นเขาก็อยู่กันได้ มาเน่ถ้าย้ายมาก็ต้องปรับตัวสิ จะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลได้ยังไง ถ้าปัญหามันเกิดขึ้นมันเป็นเพราะตัวมาเน่เองหรือเปล่า
เรื่องนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ ว่าทำไมมาเน่ต้องทำแบบนั้น และบาเยิร์นจะจัดการในเคสนี้อย่างไร
ในช่วงที่อยู่ลิเวอร์พูล มาเน่ก็เคยผิดใจกับเพื่อนร่วมทีมเหมือนกัน แต่ไม่ได้รุนแรงขนาดนี้
ตัวอย่างเช่น ในที่ 31 สิงหาคม 2019 ลิเวอร์พูลไปเยือนเบิร์นลีย์ที่เทิร์ฟ มัวร์ เกมนั้นหงส์แดงชนะ 3-0 แต่ไฮไลท์ของเกม อยู่ที่ความไม่พอใจของมาเน่ ที่มีต่อโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ไม่ยอมส่งบอลให้เขา ทั้งๆ ที่ยืนโล่งๆ
พอมาเน่โดนเปลี่ยนตัวออกมา ก็มานั่งบนข้างสนาม แล้วออกอาการโมโห โดยเจมส์ มิลเนอร์ ต้องเข้ามาปลอบ
ครั้งนั้นไม่ได้มีการต่อยตีอะไรกัน และเจอร์เก้น คล็อปป์ คุยกับทั้งสองคนทันทีที่เกมจบ เพื่อไม่ให้ทุกอย่างบานปลาย และผิดใจกัน พอเคลียร์ใจเสร็จปั๊บ คล็อปป์ให้สัมภาษณ์ทันทีว่า "มาเน่รู้สึกผิดหวัง ก็เลยแสดงอารมณ์ออกมา ซึ่งผมก็โอเคนะ แต่สุดท้ายเราทุกคนคุยกันเรื่องนี้แล้ว ทุกอย่างโอเคแล้ว"
2
จากนั้นมา มาเน่กับซาลาห์ก็ดีต่อกันมาตลอด มาเน่ยินดีรับบทพระรองในทีมด้วยซ้ำ หลายๆ ครั้ง เขาเรียกซาลาห์ว่า King เป็นการให้เกียรติด้วย
ดังนั้นเมื่อแฟนบอลได้เห็นมาเน่ต่อยหน้าซาเน่ในวันนี้ จึงมีคำถามว่า เขาทำไปเพื่ออะไร สิ่งไหนเป็นตัวจุดระเบิดให้ทนไม่ไหว
1
สุดท้าย เรื่องนี้คนใช้กำลังยังไงก็ผิด ถ้าไม่พอใจกันก็ด่ากันไป หรือไม่ก็ไปคุยกับโค้ช บอกว่าไม่พอใจตรงไหน 1 2 3 4 แต่พอมาชกกันแบบนี้ มันก็ยิ่งสร้างรอยแผลและสร้างความบาดหมางในทีม ยังไงมาเน่ก็ต้องรับผิดชอบในการกระทำของเขา
ถ้าดูจากเหตุการณ์เก่าๆ เวลามีนักเตะทีมเดียวกัน ใช้กำลังกันเอง คนที่กระทำมักจะอยู่กับสโมสรต่อได้ไม่เกิน 1 ปีครับ
2
โจอี้ บาร์ตัน กองกลางแมนฯ ซิตี้ ไปเตะหน้าอุสมัน ดาโบ เพื่อนร่วมทีมตอนซ้อมในปี 2007 ทำให้เขาโดนปล่อยตัวทิ้งในทันที
หรือ เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ สมัยอยู่อาร์เซน่อล เคยเอาหัวไปโขกจมูก นิคลาส เบนท์เนอร์ ในปี 2008 จากนั้นในปี 2009 ก็โดนขายไปให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ดังนั้น กรณีของมาเน่ มีความเป็นไปได้เหมือนกัน ที่เขาอาจจะโดนปล่อยทิ้งทันทีหลังจบซีซั่น คือฟอร์มก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ถ้ามาทำให้บรรยากาศทีมเป็นพิษด้วยล่ะก็ คงไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บไว้
1
มาเน่ เพิ่งมีอายุครบ 31 ปีไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 เมษายน) และด้วยความสัตย์จริง นี่น่าจะเป็นข่าวด้านลบที่สุด ที่เขาเผชิญมาในชีวิตนักฟุตบอลแล้ว
1
บทสรุปจะเป็นอย่างไร จะได้อยู่ต่อ หรือต้องย้ายทีม ก็อยู่ที่การตัดสินใจของผู้บริหารบาเยิร์น มิวนิคแล้วล่ะครับ
#MANESANEMANESANE
โฆษณา