ยิ่งใหญ่ตระการตาระดับโลก ต้องชมมิวเซียมเครื่องทอง ที่อยุธยา
พวกเราคงทราบข่าวมาเป็นระยะว่า ทางกรมศิลปากรยุคใหม่ ได้ทำการพัฒนาปรับปรุงมิวเซียม (Museum) หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง
ที่พอจะเป็นหน้าเป็นตาก็คือ มิวเซียมสยาม ซึ่งพวกเราคงเคยได้ยินกิตติศัพท์กันมาแล้ว
อาคารประติมากรรมขุนหลวงพระงั่ว
ที่พอจะได้ยินชื่ออีกแห่งก็คือ อาคารประติมากรรมขุนหลวงพระงั่ว ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
สงกรานต์ปีนี้ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนไกลไกล พราะเริ่มรู้ตัวว่ากลัวความร้อน กลัวเรื่องรถติด กลัวปัญหาเบียดเสียดยัดเยียด แย่งกันกิน แย่งกันใช้ แย่งกันเที่ยว ก็เลยตัดสินใจอยู่ที่บ้านประชาชื่นในสงกรานต์ปีนี้
คนใกล้ตัวบอกว่า ลองไปเที่ยวสถานที่เย็นๆ คนน้อยๆ ขับรถไม่ไกล แต่เป็นความสวยงามและสำคัญระดับโลกกันดูไหม
ก็ถามกลับไปว่า มีด้วยหรือ?
คำตอบคือ มีค่ะ
นิทรรศการเครื่องทองอยุธยา เป็นนิทรรศการในระดับโลก ที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยานั่นเอง
ภาพในวัยเด็กของผม ก็กรอกลับมาทันทีว่า โรงเรียนเคยพามาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ น่าเบื่อหน่ายมาก เก่าคร่ำครึ ของทุกอย่างดูเก่าโบราณไปหมด ไม่น่าดู ไม่น่าสนใจ มีอารมณ์ที่เศร้าสร้อย ไม่สวยงาม ไม่สนุกสนานเลย
แต่หลังจากที่ได้ขับรถไปเพียง 55 นาที ด้วยเส้นทางที่จะไปทางบางปะหัน หรือบางคนจะขับออกจากกรุงเทพไปทางหลวงสายเอเซียก็ได้เช่นกัน
ได้แวะทานอาหารจีนเจ้าอร่อย “กู่เฉิง” ที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ ริมแม่น้ำป่าสัก
ร้านนี้ทานมานานแล้ว พบว่าติ่มซำอร่อยถูกปากมาก และในที่สุดก็มาถูกปากมิชลินด้วย
จึงได้รางวัลมิชลินสองปีซ้อน ในปี2022 และ 2023
แปลว่าลิ้นเราได้มาตรฐานโลกแล้ว เพราะชอบมาก่อนที่จะได้มิชลินอยู่หลายปี
เมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็ขับรถตรงไปทางพิพิธภัณฑ์ ซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก
อาคารแสดงนิทรรศการเครื่องทองอยุธยา
เพียงขับเข้าไปในบริเวณที่จอดรถด้านข้างของอาคารพิพิธภัณฑ์ ก็ต้องพบความสุข และความแปลกใจของการทำงานราชการไทย
คือมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง (คุณสุพร สันทัด) ได้มากุลีกุจอถามว่า มาชมนิทรรศการใช่ไหม
เมื่อตอบว่าใช่ เค้าก็บอกว่าที่จอดรถเต็มแล้ว พอจะจอดซ้อนคันได้
ได้ตอบไปว่า รถเข็นไม่ได้ คงจอดซ้อนคันลำบาก
คุณสุพรก็เข้มแข็งและใจดีมาก บอกว่างั้นถอยหลังออกมา แล้วขับไปจอดแอบอยู่ตรงใกล้ใกล้ก็แล้วกัน
ก็ขอบอกขอบใจกันไป
ที่เหลือเชื่อสุดๆ ก็คือตอนจะกลับนี่แหละ คุณสุพรเจ้าหน้าที่คนเดิม ก็ยังปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ภายใต้แสงแดดที่แผดเผาและร้อนมากที่อุณหภูมิระดับ 39 องศาเซลเซียส
บอกว่าอย่าขับรถต่อไปข้างหน้า เพื่อจะอ้อมหลังอาคาร เพราะทางตัน
ให้ถอยหลังแล้วกลับรถตรงสามแยกใกล้ใกล้ โดยเข้ามาช่วยดูตอนถอยรถให้อย่างดีมาก
ได้กล่าวขอบคุณด้วยใจจริง และได้ชื่นชม ตลอดจนชมเชยว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดีมากๆ
ประเทศไทยจะได้เจริญ และข้าราชการจะได้รับการยอมรับ ก็เพราะการทำงานที่รับผิดชอบเช่นนี้
เมื่อเดินจากที่จอดรถจะไปทางอาคาร ก็เหลือบไปเห็นป้ายบอกชื่อนิทรรศการ ซึ่งมีดีไซน์ มี Font มีโทนสีดูดี มีรสนิยมมาก
ทำให้เกิดความมั่นใจว่า วันนี้คงไม่เสียเที่ยวเปล่า คงจะได้มาดูงานศิลปะระดับโลกกัน
Museum แห่งนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เปิดมาตั้งแต่ปี 2504 และตลอด 60 ปีเศษที่ผ่านมา ไม่เคยทำการปรับปรุงใดใดเลย
ในช่วงนี้ถือว่าเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ การปรับปรุงทั้งหมดจะแล้วเสร็จในอีกสองปีข้างหน้า
แต่เฉพาะในส่วนที่เป็นอาคารสองชั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยสร้างในปี 2560-2565 ด้วยมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 217 ล้านบาท
และได้เริ่มจัดนิทรรศการเครื่องทองอยุธยา ซึ่งร่ำลือกันว่า สวยนักสวยหนา สวยงามจนต้องตกตะลึงกันทีเดียว โดยมีโบราณวัตถุชนิดเครื่องทอง มาจัดมากถึง 2244 ชิ้น
เมื่อก้าวเท้าเดินต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าจะสวยงามตามคำร่ำลือหรือไม่ เพียงแค่ก้าวมาถึงด้านหน้าอาคาร ยังไม่ทันจะเข้าไปภายใน
ป้ายประชาสัมพันธ์ที่มีรสนิยม
ทางด้านซ้ายมือ สายตาก็เหลือบไปเห็นภาพที่เป็นฉากงดงามตระการตา ประชาสัมพันธ์การเปิดอาคารอย่างเต็มรูปแบบ คือ “การร่วมย้อนเวลา สู่อรุณรุ่งกรุงศรีอยุธยา”
ส่วนทางด้านขวามือ เป็นอาคารที่จะจัดนิทรรศการเครื่องทองอยุธยาที่วันนี้ เราตั้งใจจะมาเสพงานศิลปะ มาศึกษาประวัติศาสตร์กัน
เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในอาคาร ก็กระทบกับไอเย็นที่สามารถดับความร้อนของเดือนเมษายนของไทยได้เป็นอย่างดี
มีพระพุทธรูปองค์น้อยและพานดอกไม้หลากสีสัน กลิ่นหอม ให้เราได้มีโอกาสสรงน้ำ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ด้วย
ภายในอาคารที่จัดแสดงนิทรรศการ มีการวางผังการเดินชมอย่างยอดเยี่ยม มีโซนต่างๆมากมาย เรียงกันไป
โดยจะสามารถเดินชมอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการสับสน หลงทาง หรือเดินย้อนกลับไปกลับมา
พระแสงขรรค์ชัยศรี
มาเริ่มในโซนแรกคือ เครื่องทองกรุวัดราษฎร์บูรณะ เป็นห้องโถงกว้างใหญ่ ที่น่าตื่นตาตื่นใจคือ เรื่องแสงครับ
ได้มีการใช้ความรู้เรื่องแสง มาขับเน้นสิ่งของต่างๆที่จัดแสดงไว้ โดยไฮไลท์ก็คือ พระแสงขรรค์ชัยศรี
ที่ทำได้อย่างลงตัวและโดดเด่นอย่างยิ่ง มีการใช้สีแดง สีดำมาประกอบทั้งด้านหลัง ด้านข้างและพื้น เพื่อขับให้สีเหลืองทองที่สุกปลั่งของเครื่องทองต่างๆโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
เพียงส่วนที่หนึ่ง ก็ตระการตามาก
ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่โต ทำให้ผู้คนไม่แออัด สามารถเดินชมช้าๆแบบซึมซับอรรถรสของงานศิลป์ และก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในฝีมือของบรรพบุรุษเราเป็นอย่างยิ่ง
วัดราชบูรณะ เป็นโบราณสถานที่สำคัญมาก สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 1967 อายุเกือบ 600 ปี
ในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่สองหรือเจ้าสามพระยา โดยพระองค์มีพี่สองคนคือ เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา ชนช้างแย่งชิงราชสมบัติกัน แล้วสิ้นพระชนม์ด้วยกันทั้งคู่ จึงทำให้น้องคนที่สามขึ้นครองราชย์
เจ้าสามพระยาเป็นกษัตริย์นักรบ นักพัฒนาที่เก่งมาก ของกรุงศรียุธยาตอนต้น
เคยยกทัพไปมีชัยชนะเหนือเมืองพระนครหรือนครธมของกัมพูชา ที่เรารู้จักกันดี ตั้งแต่เมื่อปี 1974
และได้โปรดให้พระราชโอรสคือพระนครอินทร์ ไปครองเมืองพระนครด้วย
ในส่วนถัดมา เป็นส่วนที่แสดงเครื่องทองกรุวัดราชบูรณะแล้วเช่นกัน ส่วนนี้มีสองไฮไลท์คือ
พระปรางค์วัดราชบูรณะ งดงามมาก
แบบจำลองพระปรางค์วัดราชบูรณะ ที่เป็นสีเหลืองทองสุกอร่ามมาก และภายในพระปรางค์ดังกล่าวนี้เอง ก็จะมีกรุที่มีโบราณวัตถุ
โดยเฉพาะเครื่องทองต่างๆ ต้องถือว่ามีมากที่สุดในประเทศไทย
และอีกส่วนหนึ่งเป็นส่วนจำลองของวัดราษฎร์บูรณะ
แบบจำลองวัดราชบูรณะ
ส่วนถัดมาคือ เป็นทางเชื่อมส่วนจัดแสดง เป็นอุโมงค์แบบวอล์คเวย์ (Walkway)มีภาพเคลื่อนไหวที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ส่วน Walkway
ส่วนถัดมา คือส่วนของคติการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทำให้ทราบว่าพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าแต่ละชิ้นนั้นเรียกว่าองค์ และมีการแบ่งออกเป็นหลายลักษณะด้วยกัน
เฉพาะที่พบในกรุ ต้องขุดลงไปลึกถึงสามชั้น แต่ละชั้นก็จะมีภาพวาดอายุนับ 100 ปี
เครื่องทองต่างๆที่ประเมินค่ามิได้
มีข้าวของต่างๆที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทั้งพระพุทธรูป พระพิมพ์ และเครื่องต่างๆของกษัตริย์
จนถึงชั้นล่างสุดคือชั้นที่สาม ก็จะมีวัสดุครอบอยู่เจ็ดชั้นคือ ครอบเหล็ก ครอบชิน ครอบสัมฤทธิ์ ครอบเงิน เจดีย์ทองคำ เจดีย์แก้วผลึก และผอบทองคำ
ครอบ 7 ชั้น เพื่อเก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุ
และชั้นสุดท้ายของผอบทองคำนี้ จึงพบพระบรมสารีริกธาตุ
ส่วนที่ห้าคือ ส่วนพระบรมสารีริกธาตุที่พบที่พระเจดีย์ศรีสุริโยทัย
ส่วนที่หกคือ พระบรมสารีริกธาตุที่พบที่วัดพระศรีสรรเพชร
ส่วนที่เจ็ดคือพระบรมสารีริกธาตุของวัดพระราม ซึ่ง ณ จุดแสดงตรงนี้เอง จะสามารถมองเห็นพระปรางค์วัดพระรามของจริงได้ด้วย
ส่วนที่แปดคือพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องทองของวัดมหาธาตุ
ภาพความเชื่อ ภาพความจำเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ของกรมศิลปากรไทยได้มลายหายไปสิ้น
กลายมาเป็นความตื่นตาตื่นใจ เป็นความภาคภูมิใจ เป็นความดีใจ ที่วันนี้ Museum ของไทย ได้พัฒนายกระดับตนเอง
ให้มีความสวยงาม น่าสนใจในระดับโลก โดยเฉพาะนิทรรศการเครื่องทองอยุธยา ที่จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
ขอแนะนำว่า ต้องหาเวลามาเยี่ยมชมกันให้ได้
นิทรรศการเปิดวันอังคารถึงวันอาทิตย์
หยุดเฉพาะวันจันทร์
เวลา 9.00น.-16:00 น.
ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท
นักเรียนนักศึกษา และผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีเข้าชมฟรี
โดยสามารถสอบถามได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ 035-241587
- 34
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
