15 เม.ย. 2023 เวลา 05:46 • สุขภาพ

โควิดระลอกใหม่กำลังก่อตัวขึ้นแล้วในทวีปเอเชีย 30% เกิดจากการติดเชื้อซ้ำ

นับจากโควิด-19 ได้เกิดการระบาดไปทั่วโลก เป็นเวลาต่อเนื่องกัน 3 ปี มีผู้ติดเชื้อนับร้อยล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 6 ล้านคนนั้น
4
หลังจากที่ไวรัสได้กลายพันธุ์จากความรุนแรงมาก มาเป็นความรุนแรงน้อย คือ Omicron ในปัจจุบัน
2
ร่วมกับการมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและสามารถฉีดได้ครอบคลุมคนส่วนใหญ่ของโลก
จึงทำให้ โควิด-19 มีการแพร่ระบาดที่ลดลงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในปี 2566
อย่างไรก็ตามไวรัสก่อโรคโควิด-19 ยังไม่ได้สูญหายไปจากโลกนี้ ยังคงแฝงตัวอยู่ในสังคมชุมชน และก่อโรคในมนุษย์เป็นระยะ
2
ในเดือนเมษายน 2566 สถานการณ์ล่าสุดในทวีปเอเชียพบว่า หลากหลายประเทศได้เกิดเวฟหรือระลอกใหม่ของโควิดแล้ว
3
สิงคโปร์ มีเคสเพิ่มขึ้นจากวันละ 1400 ราย เป็น 4000 ราย หรือเพิ่มขึ้น 2-4 เท่า
2
อินเดีย พบว่ามีผู้ติดเชื้อสูงสุดถึงวันละ 10,150 ราย สูงที่สุดนับตั้งแต่สิงหาคมปี 2565
อินโดนีเซีย พบ 987 รายต่อวัน สูงสุดในรอบ 4 เดือน
ส่วนเวียดนาม ก็เพิ่มเป็น 639 รายต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า
ในขณะที่ประเทศไทย ยังถือว่าค่อนข้างดี พบผู้ติดเชื้อแบบพีซีอาร์ 168 รายต่อสัปดาห์ หรือ 24 รายต่อวัน (ไม่นับผู้ที่ติดเชื้อแบบเอทีเค) รวมมีผู้ติดเชื้อสะสม 5048 รายในปีนี้
เสียชีวิต 2 รายต่อสัปดาห์ คิดเป็น 271 ราย ในปี 2566
มีผู้ป่วยปอดอักเสบครองเตียงอยู่ 19 เตียง และจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 14 เตียง
ข้อมูลจากสิงคโปร์พบว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น เป็นผู้ที่เคยติดเชื้อมาแล้วมากถึง 30% รวมทั้งผู้ที่เคยฉีดวัคซีนเข็มสุดท้าย แต่ทิ้งระยะมานานแล้ว
กล่าวโดยสรุป
1
1) โควิด-19 ยังคงมีอยู่ในโลกมนุษย์
3
2) เชื้อไวรัส Omicron ยังคงเป็นไวรัสสายพันธุ์หลัก ที่ก่อโรคไม่รุนแรงมากนัก
3) การติดเชื้อโดยธรรมชาติ หรือการฉีดวัคซีนนั้น เมื่อเวลาผ่านไป ภูมิคุ้มกันจะลดลงเป็นลำดับ สามารถติดเชื้อซ้ำใหม่ได้ แต่อาการมักจะไม่รุนแรง
2
4) ในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง อายุมากกว่า 60 ปี หรือมีโรคประจำตัว จึงควรได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปี หรือเข็มกระตุ้น
2
5) ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน การท่องเที่ยว การใช้ชีวิต ควรระมัดระวังใส่หน้ากากอนามัยและรับวัคซีนเข็มกระตุ้น
1
Reference
โฆษณา