Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A
Airs
•
ติดตาม
16 เม.ย. 2023 เวลา 08:04 • ท่องเที่ยว
เกาะลันตา
ครั้งแรกกับการเที่ยวภาคใต้ @เกาะลันตา กระบี่
ชีวิตพนักงานบริษัทที่ไปที่มาแล้วทั้ง อีสาน เหนือ กลาง ออก ตก แต่เชื่อมั้ยผมไม่เคยไปเที่ยวภาคใต้เลย ไม่นับตอนเด็กนะ เพราะพ่อแม่เคยพาไปอยู่ แต่มันก็ตอนเด็กอ่ะ จำไม่ได้เเล้วว่าไปที่ไหนมา ผมเลยอยากลองไปดูสักครั้งหลังจากที่ว่างช่วงหยุดยาวปีใหม่ไทย ประจบกับเพื่อนผมเค้าก็อยากลงใต้พอดี แต่มันเองก็ไม่เคยเที่ยวภาคใต้เหมือนกัน ทำให้ No idea เลยว่าแล้วเราจะเลือกเที่ยวจังหวัดอะไร
หลังจากปรึกษากัน เพื่อนผมบอกว่าพอดีเพื่อนมันเป็นคนใต้อยู่จังหวัดกระบี่ ก็เลยอ่ะงั้นไปจังหวัดกระบี่ก็ได้ แล้วให้คนในพื้นที่พาเที่ยวเอา บวกกับที่เลือกเกาะลันตาเพราะรู้สึกว่าคนเวลามากระบี่ชอบพูดถึงเกาะพีพี แล้วเราก็คิดว่าทำไมต้องเอาตามคนอื่น เราก็เลือกที่ๆเราอยากไปดีกว่า เลยจิ้มมั่วๆได้มาเที่ยวเกาะลันตาซะงั้น
การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะได้เที่ยวใต้โดยใช้เวลาแค่ 3 วัน 2 คืน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นมากสำหรับคนที่ไม่เคยที่ภาคใต้มาก่อน ซึ่งประสบการณ์ที่ผมจะเล่ามันอาจไม่ดูหรูหรา หรือการพจญภัยที่ท้าทาย แต่ก็ครั้งแรกอ่ะนะ ถ้าไม่ถูกใจใครก็ขออภัย บวกกับภาพที่แนบไว้ในบทความเป็นภาพที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์ราคาหลักพัน ภาพก็จะแตกๆหน่อยแต่ก็ขออภัย
วันแรกเดินทางจากสุวรรณภูมิไปลงสนนมบินกระบี่ และให้เพื่อนคนใต้มารับ ซึ่งมันพาไปที่แรกเป็นน้ำตกหินเพิง น้ำตกที่ให้คนเล่นได้มี 3 ชั้น แต่ละชั้นต้องเดินป่าเข้าไป คือเดินป่าจริงๆเพราะไม่มีการทำทางไว้สำหรับคนเดินเลย ชั้น 1-2 ระดับความยากในการไปก็กลางๆ แต่ชั้น 3 ต้องปีนหินขึ้นและเดินป่าไปอีกก็ลำบากอยู่นะ 555 หลังจากเล่นเสร็จ ก็ต่อด้วยการขึ้นแพไปเกาะลันตา หลังจากลงจากแพและขับรถเล่นในเกาะลันตาซึ่งเป็นเกาะทียังไม่เจริญ ทำให้ผมได้สูบดมธรรมชาติได้เต็มปอดมาก
น้ำตกหินเพิงชั้น 3
หลังจากนั้นก็ไปที่พักชื่อคลองนิน รีสอร์ท ซึ่งราคาที่พักจองผ่าน Agoda ได้มา 1400 หาร 2 เหลือคนละ 700 นอน 3 วัน 2 คืน ตกคืนละ 250 โดยประมาณ ก็ถือว่าถูกมาก และยังมีสระว่ายน้ำ บวกกับห่างจากทะเลแค่ 50 เมตร คุ้มจัดๆ (ไม่ได้ถ่ายภาพไว้) และวันแรกก็จบด้วยการนั่งดื่มกับเพื่อนคนใต้ และก็แยกย้ายกันให้มันมารับกลับสนามบินอีกทีคือที่ 3 ตอนนี้ก็โดนปล่อยไว้ที่เกาะลันตาละ
วันที่ 2 คุยกันตั้งแต่วันแรกว่าจะรีบตื่น 6.00 ไปดูะพระอาทิตย์ขึ้น แต่ดันเมาค้างจากเมื่อคืนทำให้ตื่นเกือบเที่ยง ที่คุยไว้ทีแรกคือตื่นเช้านั่งเรือตกหมึก เหมาเรือไปเกาะพีพี ไปนั้นๆนี่ๆ คือพังหมดเลย สุดท้ายเช่ามอไซต์วันละ 200 ขับเล่นในเกาะลันตาหาไรกิน และไปอุทยานเกาะลันตา ซึ่งทางขับไปเป็นทางขึ้น-ลงเขา ควรเช่ามอไซต์ดีๆ เช็ดเบรกให้เรียบร้อยเพราะชาวบ้านบอกว่าคนที่นี่ไม่ได้ค่อยตายเพราะจมน้ำ แต่ตายเพราะขับรถ ก็คิดเอาอัตรายแค่ไหน
อุทยานค่อนข้างเงียบเพราะมันอยู่สุดเกาะลันตาคนเลยไม่ค่อยอยากขับรถไป และทางก็ขับยากนิดนึง แต่เมื่อไปถึงก็สวยอยากที่คิดไว้ และเสร็จก็ขับรถกลับที่พักจบทริปในวันที่ 2
วันสุดท้ายตื่นตั้งแต่ตี 4.30 ลืมเล่าว่าตอนขับรถกลับจากอุทยานวันที่ 2 มีชาวบ้านคนหนึ่งชื่อพี่โจ เป็นบนเกาะลันตา เขาบอกสนใจนั่งเรือตกปลามั้ย เราก็งงๆว่าเอ้ยทำไมอยู่ดีๆมาชวน และเราก็อยากไปพอดีแต่ไม่รู้จะติดต่อใคร เขาก็ให้เปิดโทรกับรายละเอียดมาว่าออกเรือ 6.00 เอาแค่ 1500 ถ้าอยากเหมาไปเที่ยวอื่นต่อก็ค่อยว่ากันราครกันเอง เพราะถ้าเป็นฝรั่งเขาเอา 3000-4000 แต่เห็นว่าเป็นคนไทยเลยเอาถูก ความคิดเขาดีมากเลยนะ คือเขาบอกว่าถ้าเราไปเอาแพงลูกค้าเขาอาจจะจ่าย แต่ลูกค้าก็ไม่อยากใช้บริการอีกเพราะแพง
สู้กลับเราให้สิ่งดีๆ ราคาถูกมันก็เกิดการบอกต่อ เป็นผลดีในอนาคต หลังจากคุยถูกใจก็ไปสิค้าบ หลังจากตื่นอาบน้ำเก็บของไรเสร็จ เพราะเป็นวันสุดท้ายที่จะกลับ กทม ขึ้นเครื่องที่สนามบินกระบี่ 21.00 เลยเอากระเป๋าไปฝากไว้กับพนักงานรีสอร์ท และพี่โจก็มารับไปขึ้นเรือที่ท่าประมง โดยเรือไม่ได้ใหญ่มากพอบรรจุคนได้ประมาณ 5-6 คน มีที่ให้เดินให้นั่งอ่ะ ขึ้นเรือปุ๊ปแกก็พาออกจากฝั่งไกลประมาณ 5 กิโลเมตร และหลังจากนั้นก็ไม่มีไรมากนั่งตกปลาคุยกัน 555 แกก็เล่าว่าช่วงนี้แกทำอาชีพรับจ้างไปทั่ว มีใครให้เงินก็ไปทำ
ซึ่งปกติแกจะไปกีดยาง แต่ช่วงนี้ไม่มีคนจ้าง ไม่มีงานให้ทำ เลยไม่ค่อยมีเงิน อะไรที่พอหาเงินได้ก็ต้องทำเลยเป็นที่มาว่าทำไมถึงมาชวนพวกผมไปขึ้นเรือ แกก็บอกอีกว่าสามารถพานั่งเรือไปเกาะพีพี เกาะห้า ดำน้ำดูปะการังก็ได้ แต่ในต้องใช้เวลาทั้งวัน บวกกับเราต้องกลับตัวเมืองกระบี่ไม่เกิน 18.00 อีก เลยได้แค่นั่งเรือตกปลา แต่จะบอกว่าน้ำทะเลบ้านเขาใสมากคือนั่งเรือไปน้ำลึก 5-6 เมตรยังมองเห็นใต้ทะเล พื้นทรายเลย และหลังจากตกปลากินเวลาไป 11.00 ก็กลับฝั่งและพี่โจแกบอกเดียวจะเอาปลาที่ตกได้ทำอาหารให้กิน
ก็ลงเรือและนั่งรถไปบ้านพี่แก และก็ไม่มีไรมากนั่งคุยกัน กินข้าว จบด้วยการจ่ายตัง ซึ่งผมให้แกไป 2500 คือที่ให้ 2500 เพราะอยากช่วยแก แกบอก 1500 ก็ได้แต่ด้วยความที่แกดีกับเรา ช่วยเรามีไรก็พูดกันตรงๆ ไม่หมกเม็ดกัน ถูกใจเลยให้ รู้ไหมว่าเงิน 1000 กว่าสำหรับพี่โจแล้วแกอยู่ได้เป็นเดือนเลยนะ กับเราคนในเมือง 1000 1-2 วันถ้าไปเที่ยวกับเพื่อนก็หมดละ 5555
และหลังจากนั้นเพื่อนคนใต้ก็มารับกลับ และพาแวะไปน้ำพุร้อนกระบี่ (ไม่มีภาพและแม่งร้อนจริงๆให้คนลงไปเล่นได้ ร้อนระดับที่ต้มไข่สุกอะ แต่คนเล่นเต็มเลยนะ 5555) และก็กลับสนามบินไป กทม กลับโคราชจบทริป
ทั้งหมดที่เขียนมาเป็นการเล่าเรื่องในแบบของผม ผมใช้โทรศัพท์พิมพ์ข้อความเลยอาจมีบางคำที่พิมพ์ผิดหรือไม่เคลียร์ยังไงก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจกันนะ และผมไม่ได้พูดถึงอาหารทะเล เพราะพูดตรงๆเลยมันไม่ค่อยว้าวอะ ปลาธรรมดาๆ ปลากระพง ทับทิบ ปลาหมึด กุ้ง หากินได้ทั่วไป ไม่ได้อร่อยกว่าร้านอาหารทั่วไปเท่าไหร่ เพราะช่วงที่เราไปมันเป็นช่วงถือศีลอดของอิสลามและมันไม่ใช่ฤดู ปู กุ้ง เลยมีแต่วัตถุดิบธรรมดาๆ ก็เอาเป็นว่าประสบการณ์การดีๆ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ เรียนภาษาใต้ และพี่โจคนขับเรือของเรา เป็นการเปิดโลกที่ดี
สุดท้ายถ้าไม่ถูกใจใครก็ขออภัยและถ้าใครสนใจออกเรือกับพี่โจก็ติดต่อได้ข้างล่างนี้
เบอร์โทร: 0839161070 โจ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย