17 เม.ย. 2023 เวลา 07:48 • นิยาย เรื่องสั้น

ชีวิตคนเรานี่ไม่ง่ายเลยเนอะ

ตอนนี้ฉันเป็นเด็กอายุ17ที่กำลังจะอายุ18 แต่กลับทำเรื่องและปัญหาที่สร้างความวุ่นวายแก่ตัวเองและครอบครัว
ฉันเป็นเด็กคนนึงที่เกิดมาในตอนที่พ่อกับแม่อายุ46และ42 เรียกได้ว่าเสี่ยงเป็นออทิสติกเลยก็ว่าได้ แต่ก็รอดมาได้ ฉันไม่มีความทรงจำที่ดีในวัยเด็กกับครอบครัวเลยแม้แต่น้อย ไปเที่ยวก็นับครั้งได้ แต่ก็นะพอพ่อแม่แก่เค้าก็คงไม่ค่อยอยากเที่ยว วันๆเอาแต่ทำงาน แต่ก็ผ่านหลายๆปีมาเรื่อยๆเศรษฐกิจภายในครอบครัวก็ไม่ดีขึ้นเลย เมื่อฉันเข้าประถม ฉันจับฉลากได้อยู่ห้อง6ซึ่งเป็นห้องบ๊วย พ่อแม่ก็ไม่ได้อะไรเพราะ
มันเป็นการจับฉลากเฉยๆ พอฉันเรียกป.1จบ ฉันเรียนได้ค่อนข้างดี เรียกได้ว่าอยู่ใน10อันดับแรกของสายชั้น ทำให้ฉันได้โอกาสที่จะเข้าไปเรียนห้อง1ที่เป็นห้องเรียนพิเศษ แต่พ่อแม่ของฉันก็ปฏิเสธไปเพราะกลัวฉันจะเรียนไม่ไหว เอ้อ ฉันมีพี่ชายสองคนที่เรียนไม่ค่อยเก่งซักเท่าไหร่ พ่อแม่เลยไม่คาดหวังในตัวฉันให้ฉันเรียนเก่งขนาดนั้นด้วย แต่พอขึ้นป.2ฉันก็ดันได้อันดับดีในสายชั้นอีก พอครั้งนี้เขาเลยเรียกตัวฉันให้ไปเรียนที่ห้อง1อีกครั้ง แม่ฉันก็ได้ตอบตกลง พอขึ้นป.3 แม่ได้ส่งฉันเรียนหลายอย่างมาก ศิลปะ ว่ายน้ำ คณิต อังกฤษ
ดนตรีไทย และอีกหลายๆที่ เรียนกันตัวเป็นเกลียวเลยค่ะ ตั้งแต่นั้นมาฉันก็กลายเป็นคนเรียนเก่งของครอบครัว ไม่สิของตระกูลเลยด้วยซ้ำ เป็นความหวังของครอบครัวและญาติๆทุกคน เมื่อฉันขึ้นป.6 ฉันดันสอบติดจุฬาภร ที่ใครก็ต่างบอกว่าเข้ายาก ทำให้ฉันยิ่งกลายเป็นความหวังของครอบครัวหนักไปกว่าเดิม ต้องบอกเลยว่าการเข้าเรียนที่จุฬาภรนั้นสอนให้ฉันเติบโตขึ้นมาก และก็ทำให้ฉันที่ปกติก็เรียกได้ว่าไม่สนิทกับพ่อแม่อยู่แล้วนั้น ก็ยิ่งไม่สนิทไปกว่าเดิม พ่อแม่ของฉันท่านมีอายุมาก อยู่ในช่วงคนแก่ ความคิดและทัศนคติของฉันกับ
พวกท่านเลยจะไม่ค่อยเข้ากันได้ซักเท่าไหร่ เราทะเลาะกันบ่อย ต่อให้อยู่บ้านเราก็คุยกันน้อยมาก พอฉันขึ้นม.3 ทุกคน ครอบครัว ญาติพี่น้อง ต่างคาดหวังให้ฉันสอบติดจุฬาภรที่เดิมเพราะฉันเป็นคนเรียนดี แต่ไม่มีใครเข้าใจฉันเลยว่าฉันไม่ชอบสายนี้ ฉันเลยตัดสินใจสอบ และก็สอบติดเลยตั้งใจว่าจะเรียนต่อไปเพื่อพ่อแม่ พอฉันขึ้นม.6 ที่จำเป็นที่จะต้องเข้ามหาลัย ฉันได้มหาลัยสองที่ ฉันเลือกที่นึงเอาไว้ แต่ทุกคนต่างบอกให้ฉันเรียนอีกที่ โดยเฉพาะพ่อของฉัน เค้าอยากให้เรียนอีกที่มากๆ แต่ฉันบอกพ่อว่า ชีวิตของลูก ลูกขอ
เป็นคนตัดสินใจเองนะ ไม่ต้องเป็นห่วง หางานทำได้แน่ เขาก็ยอมให้ฉันได้เรียนในสิ่งที่ฉันเลือก
ในขณะที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปอย่างดี ฉันกำลังจะจบม.6 มีที่เรียนมหาลัยแล้ว ในขณะที่ฉันกำลังสอบอยู่นั้น เมื่อสอบเสร็จก็มีเสียงโทรศัพท์โทรมา นั่นคือครูหอ บอกให้ไปหา ฉันเดินไปหาครูหอ ครูบอกว่าให้กลับบ้านตอนนี้ ฉันงงมากว่าทำไม ฉันเลยถามไป ครูบอกว่าพ่อไม่สบาย
เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันเลยขอครูหอโทรหาน้าที่โทรมาหาครูหอให้ฉันกลับบ้าน ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ฉันได้ยินกลับมาคือ พ่อโดนรถชน ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ในตอนนั้นเองหัวใจฉันตกไปอยู่กับพื้น ทำอะไรต่อไม่ถูก ซักพักแม่ก็โทรมา ร้องห่มร้องไห้ บอกว่าป๊าไม่ไหวแล้ว รีบกลับบ้านมาเร็ว รีบกลับ ตอนนั้นฉันทำอะไรไม่ถูก มันลนไปหมดเลย ช็อค ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทุกอย่างกำลังเป็นไปอย่างราบรื่นแท้ๆ
ฉันเป็นเด็กสามจังหวัด เลยต้องเดินทางไกล ครูหอไปส่งที่คิวรถตู้ ฉันนั่งรอที่คิวรถตู้และก็ร้องไห้ไปด้วย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง พ่อจะเป็นไงบ้าง
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งรถอยู่นั้น ฉันตัดสินใจโทรหาน้า และสิ่งที่ฉันได้ยินกลับมาคือ "ป๊าไม่อยู่แล้วนะ" วินาทีที่ใจสลาย ความมืดล้อมไปหมด ไม่รู้ต้องไปยังไงไม่รู้ต้องไปทางไหน ไม่รู็ต้องทำอะไรต่อไป รู้แค่ว่าต้องกลับบ้านแค่นั้น
ครอบครัวที่มีพ่อเป็นรายได้หลัก ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตั้งแต่พ่อไม่อยู่ฉันแอบร้องไห้ตอนกลางคืนทุกวันเพราะฉันเป็นคนนอนดึก ทุกคนในบ้านมักนอนแล้วเสมอ ทุกคนบอกให้ฉันดูแลแม่ ดูแลน้อง ทุกอย่างมันกดดันฉัน ให้ฉันแบกอะไรไว้ตั้งแต่อายุยังไม่18 ฉันรู้แค่อย่างเดียวว่าต้องรีบเรียนจบ ทำสิ่งที่แบกอยู่ไว้ให้ได้ ทุกคนบอกให้ฉันเข้มแข็ง ต้องดูแลทุกคนแต่หารู้ไม่ ว่าฉันเองนี่แหละที่แตกสลายมากๆเหมือนกัน ทำร้ายร่างกายตัวเองเพื่อให้รู้สึกปล่อยวางอยู่ทุกวัน
ในทุกๆวันที่ไม่มีพ่อ ฉันภาวนาในตัวเองหายไปอยู่ทุกวัน ไม่อยากตื่นมาอีกแล้ว ไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว รู้สึกว่าอยู่ไปก็เป็นภาระเสมอเลย
ในตอนนี้ฉันได้ทำเรื่องแย่ๆไว้ เรียกได้ว่าแย่มาก แย่ที่สุด แย่แบบไม่ควรให้อภัยตัวเอง เดี๋ยวไว้จะเอามาเล่าต่อในตอนต่อไปค่ะ
โฆษณา