23 เม.ย. 2023 เวลา 14:20 • ท่องเที่ยว
อำเภอ กะเปอร์

เส้นทางเดินป่าตามหาน้ำตก สายรุ้งละอองดาว จ.ระนอง

"ฝนแปดแดดสี่" เจ้าของข้อความที่แท้จริงคือ จ.ระนอง นี่เอง แต่น่าเสียดาย 3 วันที่พวกเราอยู่ในระนอง ไม่ได้เจอฝนเลยสักะเม็ด แน่เส้นทางที่เดินก็ชุ่มฉ่ำได้โดนไม่ต้องพึ่งฝนหาใหม่ ทางที่เราเดินขึ้นไปเป็นทางเดินลัดเลาะไปตามน้ำตก ระยะประมาณ 5 KM เส้นทางไม่ได้ชันแต่จะค่อยๆขึ้น เราจะได้เดินลุยน้ำ+ปีนไปบนก้อนหิดเป็นหลัก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจาก 5 นาทีแรกจนถึงแคมป์เท้าก็ไม่เคยแห้งอีกเลย
โย่วว!! และนี่คือเสียงของคนได้หยุดยาวช่วงสงกรานต์ 55555 ขอบคุณที่ทำงานนะที่ให้ได้หยุดยาวววขนาดนี้ ได้กลับไปเตรียมตัวก่อนถึงวันนัดเดินป่าในเช้าวันที่ 13 เมษายน ไปเลย ข้ามไปเจอกันอีกทีวันที่ 12
DAY Zero "เดินป่าตามหาน้ำตกสายรุ้งละอองดาว"
วันที่ 12 แผนคือ จะมีทีมงาน 2 คนจากหาดใหญ่นั่งรถทัวร์มาหาที่หาดใหญ่ ตื่นเช้าก็โทรเช็คก่อนว่า ออกเดินทางตรงเวลามั้ย ถ้าตรงก็จะเจอกันที่ พังงา ตอนบ่ายสอง คุยกันจบทุกอย่างเป็นไปตามแผน ต่อไปก็ถึงเวลาจัดของจัดกระเป๋า เอาของออกมาเรียงๆ เป็นระเบียบ แพ็คเสื้อผ้าใส่ถุงกันน้ำ แล้วเอามาถ่ายรูป 555555 ไม่ได้มีไว้โชว์ลง IG อย่างเดียว มีไว้เตือนใจด้วยว่าพอ พอ พอ
!!!! สาระของการเอาของทั้งหมดมาเรียงก่อน
แทนที่จะจับยัดลงกระเป๋าเลยประเด็นสำคัญมีอยู่ว่า เราจะได้รู้ก่อนว่าเราหยิบของมาครบรึป่าว หรือสำหรับคนที่มีของเยอะเกินอยู่แล้ว จะได้เลือกตัดออกได้ว่าบางอย่างก็ใช้แทนกันได้ไม่ต้องเอาไปเยอะ ส่วนอีกอย่างที่ผมทำเลยคือ จัดการกับตำแหน่งของสัมภาระ การจัดไว้บนล่าง,ชิดติดหลังหรือห่างจากหลัง มันมีผลกับความสบายของการแบกของของเราอยู่พอประมาณเลยแหละ
นี่!! เป็นไงสาระนิดๆหน่อย พอเถอะยกกระเป๋าขึ้นรถ แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ
บ่ายสองเป็นไปตามแผน น้องวัฒน์และน้องเกม(ถูกล่อลวงโดนน้องวัฒน์)มาถึงพังงา เจอกันบขส. พาไปซื้อกาแฟสักแก้ว เพื่อเดินทางต่ออีก เกือบๆ สามชั่วโมง บนเส้นทางถนนสองเลนส์ โค้งเยอะๆ ผ่านสามสี่อำเภอของพังงาและระนอง เป้าหมายวันนี้ของเรา แค่เดินทางไปให้ถึง อุทยาน(อ.กะเปอร์ จ.ระนอง) ให้ได้ก่อนมืด ถ้าจะถามว่าอุทยานอะไร ตอบเลยว่า ไม่ใช่อทุยานเว็ด แน่นอน ทีมงานเดินป่าของเราได้ยินคำว่าอุทยานไม่ได้เลย แต่ละคนตาเป็นประกาย พร้อมชง พร้อมตบ เรียงกันเป็นแถว ส่วนคนที่ไม่ได้มาปีนี้ คงจะคิดถึงใช่มั้ย อุทยานเว็ด 555555
เจอตัวแล้ว!!! น้องกาย "ยกให้เป็นหัวหน้าทริปของรอบนี้ เพราะจัดจองติดต่อและตามหาเส้นทางเดินเส้นนี้ให้เรา" รอบนี้น้องกายไม่ต้องนั่งรถไฟไปไกล รอบนี้แว๊น มาร้อยกว่ากิโล ข้ามมาจากชุมพร มาระนอง
น้องกายกำลังชี้ไปที่ตลาด เราจะเข้าไปที่ตลาดเพื่อหาซื้อข้าวสำหรับมื้อเย็นนี้ และดูว่ามีอะไรให้ซื้อบ้างพรุ่งนี้ตอนเช้า และโชคดีที่นี่มีเซเว่น หลังจากเสร็จจากตลาด แวะเซเว่นซื้อของที่ขาดตกหล่น แล้วขับรถต่ออีกหน่อย เราก็ถึงอุทยาน ที่พักของเราในคืนนี้
ที่ทำการอุทยานเป็นของเรา4คน ลุยยย กินข้าวพลาง โทรตามอีกสามคนที่พึ่งจะออกมาจากหาดใหญ่ไปพลาง พี่ตูลกำลังมาพร้อมกับเพื่อนใหม่ของเรา อีกสองคน จากดูๆระยะทางแล้ว สามคนนั้น คงจะมาถึงตอนตีสาม คงไม่นั่งรอ รีบกินรีบนอนดีกว่า ผมรีบกินมาก ไม่คุยอะไรกันเยอะ ตีสองก็เข้านอน 5555555 ตีสอง ก็นานๆเจอกันที พอเริ่มเมา ก็เริ่มแล้ว พูดไม่หยุด สบายใจได้เจอน้องกายน้องวัฒน์ ระหว่างเมา อุตส่าห์ให้น้องกายโทรไปเร่งพี่ตูล บอกว่า "พี่ตูลครับ พี่ปอนเมาแล้ว เมาหลับอยู่บนโต๊ะ ไม่ยอมนอนบอกจะรอให้พี่มาก่อน"
พี่ตูลก็บอกเลยว่า "มานั่งยิ้มอยู่ข้างๆทำไม" 5555555 รู้ดี รู้ทันไปเสียหมด แขบๆตะครับ ขับรถดีๆ ถึงแล้วโทรมาครับ
และนี่คือการทักทายตอนเช้า ด้วยการปลุกขึ้นมารับป้ายบ้าอะไรไม่รู้ ที่วางอยู่ในห้องนั้น 55555555555
ไป!!!! ไปล้างหน้า ไปซื้อของกินในตลาด ของในตลาดเช้านี้ที่เราต้องซื้อ คือ มื้อเที่ยงที่ทานได้เลย วัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นและมื้อเช้าอีกวัน เราได้เป็น ปลากระป๋อง ไข่ไก่สด พริก มะนาว มาม่า ทอดมันปลาที่ยังไม่ทอด น้ำมัน ขนมปัง ไส้กรอก ประมาณนี้ ซื้อเสร็จหากาแฟกินแล้วกลับไปจัดข้าวจัดของ แบ่งของกลางกันไปช่วยแบก
หึๆ ถ่ายรูปเรียงแถวตามระเบียบ แล้วพวกเราก็ต้องนั่งท้ายรถกระบะไปอีกประมาณ 5-6 กิโล เพื่อไปถึงบริเวณเขื่อน คือจุดที่รถจะไปต่อไม่ได้ เป็นกิเมตรที่ 0 ของการเดินเท้า ตามหาน้ำตกของเรา เอี๊ยดดดรถจอดที่ร้านชำ พี่ตูลกระโดดลงไปซื้อ เหล้า หวังจะเจอรี แต่เสียใจมีแค่หงส์ หงส์ก็หงส์
“สวัสดีครับยินดีที่ได้รู้จัก พี่นัน น้องซุง น้องเกมนะครับ ถ้าไม่หลาบ ปีหน้าปีไหนเจอกันอีกนะครับ”
กิโลเมตรที่ 0.0 รินเหล้าลงในกั๊ก แล้วก็เริ่มเลยยยยยยยย เส้นทางเดินป่าของเรา เคยเห็นแว้ปๆ ในรีวิวนู้นนี่นั้น นิดนึง เห็นนิดนึง เพราะว่ารอบนี้ ป่านี้ ไม่ได้เปิดดูคลิป ไม่อ่านรีวิว อะไรเลย เพราะว่า ครั้งก่อนๆ เคยเปิดดูแล้วพอไปถึงที่จริงมันจำได้เป็นฉากๆ ถึงบางอย่างมันจะรู้สึกว้าว แต่ถ้าเราเห็นมันครั้งแรกจริงๆ มันอาจจะทำให้รู้สึกว้าวและคงจะได้ความรู้สึกบางอย่างมากกว่าก็เป็นได้
หรืออาจะทำให้เวลาเดินเราไม่ต้องเฝ้ารอ ว่าเมื่อไหร่จะถึงที่ที่เคยเห็นมาในรีวิวนะ อาจจะไม่ต้องผิดหวังว่าที่ที่ไปถึงไม่เป็นตามภาพที่เคยเห็น ช่วยให้คาดการณ์อะไรๆลดลง ปล่อยตัว และตอบคำถามสั้นๆเพียงว่า ไม่รู้เหหมือนกันว่า จะมีอะไรด้านหน้า
มีทั้งข้อดีและไม่ดีนะครับ การไม่วางแผนเส้นทาง
ไม่ถึง 5 นาที ก็มาถึงทางข้ามน้ำ ยืนมองอยู่แปปนึง ก็บ่นให้พี่เจ้าน้าที่ฟัง ว่า ผมกำลังคิดอยู่ว่าผมถอดดีมั้ยนะ(รองเท้า) จะได้เดินแห้งๆหลังจากข้ามที่นี่ได้
พี่เขาก็ตอบกลับเลยว่าไม่ต้องถอด หลังจากนี้ข้ามน้ำข้ามท่าตลอด ไม่มีโอกาสให้แห้งแน่นอน โอเค พับขากางเกงแทนก็ได้วะ พอลงน้ำปุ้ป หันไม่ตามทางยาวของน้ำตก ไม่ว่าจะหันขึ้นบน หรือมองลงไปด้านล่างป่าก็สวยมาก
แต่ แต่ ดูจากรูปคือมือผมกำลังพยายามรูดซิป จะหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูป แต่เอาไม่ออกสักที จนต้องสละซิปกางเกงทิ้ง 55555 โถ่เอ้ยยยยยยยยย
ไม่เคยได้รับไม่เคยได้รู้มาก่อนเลยว่า เรามีโอกาสจะเจอช้างป่า ตั้งแต่ช่วงครึ่งชม.แรก พี่เจ้าหน้าที่เริ่มชี้ให้ดูเรื่อยๆ นี่ก็ใช่รอยของช้าง นั้นก็ใช่ กอไผ่ทั้งกอ ล้มกระจัดการจาย ต้นไม้บางตั้นก็โดนถอด ขี้ช่าง ที่ขนาดต่างๆกันไป พอเจอก้อนเล็ก ก็หมายความว่าช้างมีลูกน้อย ก็ยิ่งทำให้เรารู้ได้เลยว่า ถ้าเราไปรบกวนเขาเขาจะดุกว่าเดิมแน่นอนเพราะหวงลูก
ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวคงผ่านช่วงที่พี่ช้างอยู่ แต่ยิ่งเดินยิ่งเจอ รอยต้นไม้ข้างทางต้นไหนไม่โดนล้ม จะมีรอยที่โดนลำตัวช้างสีไปตลอดทาง บางช่วงเจอขี้ช้างที่สดๆ สดจนคิดว่าน่าจะพึ่งผ่านไปเมื่อกี้นี้เอง ในใจก็คิดว่าอยากเจอดูสักครั้งนะ สัตว์ป่าตัวเป็นๆ อีกใจนึงก็กลัว ทุกคนระแวงหมด สักเกตุได้จากการเดินที่มองซ้ายมองขวา มองไปบนเดินเขา ไม่ใช่การศึกษาธรรมชาติแน่นอน มันคือการระวังภัย
ระหว่างเดินต้องทำยังไง อย่าโวยวายตะโกนแค่นั้นน่าจะพอ เพราะถ้าเขาได้ยินเสียงแล้วตีความหมายว่าเราเป็นอันตราย น่าจะหนียากอยู่นะ แล้วก็ถ้าเจอจริงๆโดนไล่จริงๆทำยังไง พี่เจ้าหน้าที่ไม่ได้สอนหรอกแต่เท่าที่คิดได้คือ ถอดกระเป๋าออกแล้ว วิ่งด้วยแรงที่มี 555555 แต่สุดท้ายก็ไม่เจอนะ
เดินมาได้ประมาณ 2 ใน 3 ของระยะทางทั้งหมด(5KM) จอดกันที่ริมน้ำ พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า กินมื้อเที่ยงกันตรงนี้ครับ ตอนแรกดูระยะทาง ก็ใกล้ถึงแล้วนี่ พวกผมนั่งสักนิดค่อยกินตอนถึงแคมป์ก็ได้ครับ แต่พี่ๆเขาก็บอกว่ากินเถอะ จนรู้สึกเอ้ะ ทางยากเหรอด้านหน้า จนยอมกินก็ได้วะ ควักข้าวเหนียวไก่ทอด ที่ซื้อมาจากตลาด มากินนน กินเสร็จก็นั่งย่อยนืดๆหน่อย ก็ลุยต่อกับเส้นทางที่เหลือ
น่าจะโค้งสุดท้ายยยยแล้วก่อนถึงแคมป์ของเรา หลังจากออกเดินก็ คิดว่าเอ้อ เส้นทางปีนี้ สบายกว่าปีอื่นๆนะ ทางไม่ได้ชัน ไม่ได้ปีขึ้นยอดเขาสูงอะไร คงยากแค่เดินลุยน้ำข้ามก้อนหิน แต่เรื่องมันจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ช่วงเวลาประมาณบ่ายสาม
ถึงแล้วแคมป์ของเรา ที่เราจะพัก กันคืนนี้ สิ่งแรกที่ผมทำเลยก็คือ เปิดกระเป๋าหยิบรองเท้าแตะออกมา แล้วเอารองเท้าถุงเท้าไปล้างน้ำล้างทรายออก ตากแดดเอาไว้ในระหว่างที่ยังมีแดดให้ตาก และก็เริ่มพักผ่อนตามอัธยาศัย เพราะตอนบ่ายสามเราจะต้องเดินตัวเปล่า ไปที่น้ำตกที่เราตามหา
น้ำตก สายรุ้งละอองดาว ในช่วงที่น้ำแล้งที่สุด เขาบอกว่า ถ้าช่วงที่น้ำเยอะจริงๆ ผาจะเต็มไปด้วยน้ำ และความแรงของน้ำทำให้น้ำฟุ้ง เป็นละออง มาเห็นเป็นรุ้ง แต่วันนี้เรียกว่าหน้าผาหินก็ไม่ผิด 55555555 ที่สำคัญคือ ระยะทางมาที่นี่ นับจากแคมป์ คือ 2 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ครึ่ง ทางชันทั้งขึ้นและลง บางคนก็ต้องมีหมดแรงกันบ้าง นั่งรอกันบ้าง เรื่อยๆ จนถึง
ช่วง 100-200 เมตรก่อนถึงน้ำตก พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องไต่เชือกลงไปนะ ฮ้ะ !!!! น่าสนใจวะ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะได้เจอทางแบบนี้ ทางเป็นก่อนหิน แบบต้องจับเชือกไว้ ถ้าหลุดลงไปคือ ลงไปน่าจะไกลน่าดู บางช่วงไม่ใช่ทางที่จะเดินได้ เป็นทางที่มีไว้เพื่อลื่นลงไปโดนเฉพาะ สุดยอดดดดดด
ช่วงขอเสนอ ไอตัวกรองน้ำอันนี้หน่อย จริงๆคือใช้มาเป็นปีที่สองแล้ว มันดีตรงที่เราไม่ต้องแบกน้ำติดตัวตลอดเวลา ถ้าเราคิดว่าด้านหน้าทางที่เราจะเดิน มีแหล่งน้ำ กรองน้ำกินกันได้ทั้งหมด กรองน้ำทำอาหาร รู้สึกมั่นใจกับไอตัวนี้ เพราะทริปก่อนเครื่องไปตักเอาน้ำ ที่ไหลช้ามากๆบนยอดที่แทบไม่มีน้ำมากรองกิน ไม่ว่าจะกลิ่นหรือรสชาติ ก็คือน้ำเปล่าธรรมดาทั่วไปเลย แนะนำจริงๆ ประมาณ ไม่เกิน 2พัน แต่คุ้มมากกก
ออกจากน้ำตกประมาณ 5 โมงครึ่ง ซึ่งดูแล้วว่า ไม่ทันแสงสุดท้ายแน่นอน ถึงจะบอกว่ามันเป็นขาลงแล้วจะเร็วกว่า ทำให้ต้องเดินทางมืด อาศัยไฟโทรศัพท์ เอา เดินติดๆกัน สุดท้ายทำไปทำมา ถึงแคมป์ สามทุ่ม ใช่ครับ สามทุ่มไป
กลับมาถึงก็ หยิบของออกมากองรวมกันให้หมด แล้วก็เริ่มทำกับข้าว แต่ไอกับข้าวที่ว่านี่คือ ไข่เจียว 5555 เด็กชายๆ หกเจ็ดคนรวมตัวกัน ก็น่าจะต้องเป็นไข่เจียว ยำปลากระป๋อง เราแบ่งกันเป็นสองเตา น้องกายรับหน้าที่ ทอด ทอดมันปลา ส่วนผมก็ทอดไข่เจียว ครู่เดียวก็ได้กิน เพราะวันนี้เราไม่ต้องหุงข้าวเอง ระหว่างเราเดินไปน้ำตก พี่เจ้าหน้าที่สองคน ได้ช่วยหุงเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณค้าบบบบบ กินข้าวกันนนนนนน
รูปถ่ายแทบจะไม่มีเลยช่วงกลางคือในแคมป์ มัวยุ่งวุ่นวาย กินข้าวเสร็จก็ ลงน้ำตกข้างๆ แยกย้ายกันไปอาบน้ำคนละมุม อาบน้ำเสร็จใครจะนอนก็นอน ผมต้องมาจัดการไอนี่ให้หมด อยากเป็น เดินป่าแบบเท่ๆ พกไวน์มากิน สุดท้ายไม่มีใครกินด้วย ต้องกินคนเดียว พี่ตูนก็คอหงส์ หวดอยู่คนเดียวจนหมด น่าจะเป็นช่วง30นาที ที่คุยกับพี่ตูลเป็นผู้เป็นคนสุดแล้ว เพราะตลอดเวลาอื่น มุ่งชงมุกยิงมุกตบมุกกันอย่างหนักหน่วง น่าจะเกือบ ตี 2 มั้งถึงจะได้เข้านอน
อากาศก่อนนอนไม่ร้อนไม่หนาว ไม่ถึงกับต้องแกะถุงนอนออกมา แต่รู้สึกตัวอีกทีก็คือ สะดุ้งมารีบแกะถุงนอน แล้วหลังจากนั้นก็หลับสนิทจนเช้าเลย ตื่นมาน่าจะประมาณ 8 โมงน่าจะได้ ข้างๆ คือหายไปหมดแล้ว ลงไปชงกาแฟ ทำข้าวเช้ากินกันหมดแล้ววว
ไปเถอะล้างหน้าแปรงฟังเก็บกระเป๋า กลับบ้านนนนน
หิวโค้กกกวุ้ยยยยยยยย น้ำโค้กเย็นๆ ซ่าๆ หาไม่ได้จากในป่า มีวิธีเดียวคือ เดินเดินออกจากป่าให้เร็วที่สุด เตรียมตัวเรียบร้อย จัดของลงกระเป๋า ที่ดูเหมือนว่าจะน้ำหนักเท่าเดิมเลยยย เพราะขาขึ้น ผมเองก็ไม่ได้แบก ของกินของกลางขึ้นมา อุปกรณ์เยอะไปหน่อย ขาลง คนอื่นเขาเบากัน แต่ผมหนักเท่าเดิม ไม่เป็นไร แรงยังดีอยู่ 🫢🫢🫢🤭
นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่ทำทุกปีทำไปทำไมไม่รู้ 5 ทีพอเลยย สั่นนน
ตอนออกจากแคมป์มาก็ตั้งใจว่าจะกลับให้ถึงเร็วที่สุด แต่พอพี่เจ้าหน้าที่บอกว่า พักตรงนี้ก่อนรอเพื่อนด้านหลังจะได้ไปพร้อมๆกัน แล้วพี่แกก็วางกระเป๋า เดินลงน้ำ แล้วก็จมทั้งตัวลงไป เอ้า รออะไรละครับ ลงด้วยยยยยยยย
มาๆถ่ายคลิป ปีนขึ้นไปแช้วกระโดดลงมาตู้มๆๆๆๆ น้องกายน่าจะสนุกสุดแล้วกับการเล่นน้ำ
ภาพนี้ นึกถึง โรงเรียนสอนโลมา แสดงโชว์ แต่ความจริงแล้วขี้พี่ตูลขี้โม้ครับ นั่งโม้จนคนอื่นต้องมาล้อมวงฟัง
ถึงแล้วววววว ถึงกิโลเมตรที่ 0 แล้ว พี่เจ้าหน้าที่กับรถกระบะมาจอดรถ พร้อมน้ำเย็นๆ 1 กระติก เห้อ หมดแล้ว ออกมาสู่พื้นที่ที่มีสัญญาณมือถือ ไม่รีบร้อน รออาบน้ำเสร็จ ค่อยเปิดดูละกัน อิอิ จบละครับ เดินป่า ของปีนี้ หมดคำจะเล่า เขียนช้าไปหน่อย ทยอยเขียนที่ละน้อยๆ
จัดแจงอาบน้ำ เก็บข้าวของ วางแผนเดินทางกลับ บอกลาพี่ๆ เจ้าหน้าที่ น้องกายก็แว๊นกลับบชุมพร ที่เหลือเราอีกหกคน มุ่งหน้าไปกินมื้อเย็นที่พังงาาาาา
*ขาลงทันได้มาเล่นสงกรานต์ด้วยนะ พี่ตูลเจอสาวๆปะแป้ง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะครับ 🤫
สุดท้ายยยยแล้ว
อ่านแล้วสนุกรึป่าวนะ เขียนรีบๆบ้าง ง่วงๆบ้าง เล่าไม่ครบบ้าง แต่ไม่แก้อะไรแล้วนะ ยิ่งแก้ยิ่งเพี้ยน ยิ่งแก้ยิ่งแต่งคำเยอะ จริงๆมีเวลา อยู่วันสองวันนะ ก่อนกลับมาทำงาน
แต่!! หมดไปกับการจัดของและ ที่ดีมากๆคือการได้กลับไปหัดเล่นเซิร์ฟบอร์ด อีกครั้ง ที่เขาหลัก รอสักหน่อย รอสักหน่อย จะหาเรื่องกลับบมาโต้คลื่นให้ได้เลย จะเล่นให้เป็นเลย จะเขียนเรื่องเขาหลักด้วยภาพเท่ๆให้ได้เลย บ๊ายบ่ายคับ 🌻
โฆษณา