21 เม.ย. 2023 เวลา 07:13 • กีฬา

อนาคตของ เด เคอา + แม็กไกวร์ หลังพลาดน่าเกลียดเข้าตากรรมการอีก

ด้วยความที่นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเป็นต้นมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เงินไปอย่างมหาศาลทั้งกับค่าตัวและค่าจ้างนักเตะ นั่นทำให้ซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ พวกเขาคงใช้เงินระดับมากกว่า 200 ล้านปอนด์เหมือนกับซัมเมอร์ปีก่อนที่ได้ทั้ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ, คาเซมิโร่ และ อันโตนี่ ไม่ได้อีก ถ้าหากไม่สามารถขายใครทิ้งให้ได้ราคา
ต่อให้ได้เจ้าของทีมใหม่เป็นมหาเศรษฐีจากกาตาร์ ก็ยากมากๆ ที่จะเสริมทัพแบบงบไม่อั้น เพราะสโมสรต้องคุมงบไม่ให้ละเมิดกฎไฟแนนเชียลแฟร์เพลย์
คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้มีรายได้งดงามจากการขายดาวรุ่งแบบที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เชลซี ทำได้นะครับ
1
นักเตะจากอะคาเดมี่ที่สโมสรเคยขายออกไปแล้วได้ราคาเกิน 15 ล้านปอนด์ มีเพียง 2 คนเท่านั้นคือ เดวิด เบ็คแฮม ย้ายไป เรอัล มาดริด ในปี 2003 ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ และ แดนนี่ เวลเบ็ค ย้ายไปอาร์เซน่อลด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ในปี 2014
2
ขณะที่ในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา สโมสรขายผู้เล่นแล้วทำกำไรเข้ามาได้ ก็มีแค่เคสของ แดเนียล เจมส์ ที่ปล่อยให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ อันเดรียส เปเรยร่า ที่ปล่อยให้ฟูแล่มเท่านั้น
นั่นต่างจากเชลซี ที่ช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ พวกเขาขายผู้เล่นที่ได้กำไรระดับหลายสิบล้านปอนด์เทียบกับตอนที่ซื้อมาได้หลายคนทั้ง ติโบต์ กูร์กตัวส์, เอแด็น อาซาร์, เคิร์ต ซูม่า, แทมมี่ อับราฮัม (โตจากอะคาเดมี่), ฟิคาโย่ โทโมรี่ (โตจากอะคาเดมี่) ทำให้ทีมสิงห์บลูส์สามารถใช้เงินแบบมือเติบในฤดูกาลนี้ได้ (แต่เตรียมต้องใช้กรรมตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้เป็นต้นไป)
หรืออย่าง แมนฯ ซิตี้ ในช่วง 2-3 ปีมานี้ พวกเขาระดมทุนได้มากจากการปล่อย ลีรอย ซาเน่, แจ็ค แฮร์ริสัน, เฟร์ราน ตอร์เรส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, กาเบรียล เชซุส และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ด้วยการไม่ยอมขายนักเตะอย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน กับ เจสซี่ ลินการ์ด ในตอนที่สามารถพอทำราคาได้ สุดท้ายกั๊กไว้เองก็กลายเป็นเก็บนักเตะให้นั่งสำรองยาวจนเสื่อมสภาพซะอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น ซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ มันจะเป็นซัมเมอร์ที่ไม่ง่ายเท่าไรสำหรับทีมของ เอริคเทน ฮาก นอกจากเขาเลือกที่จะไม่เอาของเกรดเอเลย แล้วคัดของดีราคาถูกเข้ามาพัฒนาให้ได้เท่านั้น ถึงจะได้ตำแหน่งที่ต้องการมาเพิ่มหลายคน
ถ้ากองหน้าคนใหม่คือ แฮร์รี่ เคน หรือ วิคเตอร์ โอซิเมน หรือ ดูซาน วลาโฮวิช เราคงไม่ได้เห็นนักเตะระดับท็อปตำแหน่งอื่นๆ ถ้าไม่มีการขายผู้เล่นชุดปัจจุบันคนไหนออกไปซะบ้าง
แล้วการขายผู้เล่นทิ้ง นั่นหมายถึงคุณต้องหาคนอื่นเข้ามาแทนด้วย ซึ่งนั่นก็เกิดคำถามเหมือนกันว่าถ้าไม่มี ดาบิด เด เคอา กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่แฟนบอลส่วนใหญ่มองว่าไม่ควรอยู่กับทีมปีศาจแดงอีกต่อไป สโมสรจะเอาใครมาแทน โดยไม่กระทบกับแผนการเสริมทัพเป้าหมายอื่นๆ ที่สำคัญ
1
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองหน้าตัวผลิตสกอร์ที่ทีมต้องเอามาให้ได้ หรือกองกลางที่มีคลาสเข้ามาเพิ่มความต่อเนื่องในการครองบอลและความเร็วในการแก้เพรสคู่แข่ง
ผมมองว่าโอกาสที่ เด เคอา จะยังคงเป็นมือหนึ่งต่อไปอีกสัก 1 ปียังมีไม่น้อย เพราะการเจรจาต่อสัญญาโดยพยายามลดค่าจ้างลงไปอีกพอสมควร น่าจะทำได้ง่ายกว่าเจรจาดีลผู้รักษาประตูคนใหม่ ซึ่งคนที่ดีพอระดับเป็นมือหนึ่งของทีมได้เลย น่าจะใช้เงินซื้อไม่น้อยเหมือนกัน
ตลาดซัมเมอร์นี้ ทีมใหญ่หลายๆ ทีมน่าจะยังไม่ได้รีบเร่งหานายประตูคนใหม่ บางทีสุดท้ายแล้ว เทน ฮาก อาจจะยอมไว้ใจนายประตูที่เป็นเจ้าของสถิติเก็บคลีนชีตมากที่สุดของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (14 นัด) ต่อไปก่อน นอกเสียจากคุยเรื่องสัญญาใหม่ไม่รู้เรื่องจริงๆ ถึงจะแยกทาง
แต่ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กผมว่ามีโอกาสขายออกได้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ยังคงเป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษ น่าจะยังมีทีมระดับกลางๆ ของพรีเมียร์ลีกพร้อมซื้อไปร่วมทีม แล้วเอางบตรงนั้นไปหาเซนเตอร์อายุน้อยราคาถูกๆ เข้ามาเป็นอะไหล่สำรองแทน แต่แฟนบอลต้องเข้าใจว่านั่นอาจไม่ใช่นักเตะคุณภาพท็อปคลาสอะไรนัก
อันที่จริง แม็กไกวร์ไม่ใช่ตัวหลักของทีมอีกต่อไปแล้วนะครับ ถ้าหากเมื่อคืนนี้ ราฟาแอล วาราน กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ พร้อมลงสนาม คงการันตีได้เลยว่าเขานั่งสำรองแน่นอน ซึ่งสถิติจำนวนเกมที่เขาลงเล่นแล้วทีมไม่แพ้ติดต่อกันหลายนัดช่วงก่อนหน้านี้ มันเป็นเพราะ เทน ฮาก เน้นใช้งานในเกมที่ไม่โดนคู่แข่งกดดันมากซะมากกว่า
1
ถ้าพูดถึงในฐานะกองหลังตัวสำรอง สำหรับไว้ใช้งานในเกมง่ายๆ เพื่อให้เซนเตอร์ตัวหลักได้พัก ผมคิดว่าแม็กไกวร์เป็นตัวเลือกนั้นได้ดี แต่ถ้าจะขายทิ้งโดยที่ได้เม็ดเงินเข้ามาเพิ่มระดับ 30 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อย ผมว่าคุ้มกว่า
1
และสำหรับตัวของแม็กไกวร์เอง ผมว่าเขาคงเล่นได้ดีกว่านี้ ถ้าไปอยู่กับทีมที่ทำให้เขาลงเล่นด้วยความรู้สึกไม่ต้องสนใจเรื่องการโดนจับผิด ผมมองว่าการที่เขาโฟกัสกับเรื่องหุบปากเสียงด่าของคนมากเกินไปนั่นแหละ ที่ทำให้เขาเสียสมาธิในเกมมากขึ้นเรื่อยๆ
นักเตะที่โดนสื่อรอแคปช็อตผิดพลาดอยู่ตลอดทุกเกม โดยที่ไม่ใช่ผู้เล่นเทคนิคสูงส่งอะไร ย่อมลงสนามไปโดยที่มีความกดดันมากกว่าคนอื่นแน่นอน ซึ่งชัดเจนมากว่าแม็กไกวร์รับสิ่งนั้นไม่ได้ และปลอกแขนกัปตันยิ่งทำให้เขากดดันและโดนเพ่งเล็งไปอีก
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ แม็กไกวร์มองตัวเองมีสถานะอะไรกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นะครับ ระหว่าง "ตัวสำรอง" หรือ "กัปตันทีมที่แค่ตอนนี้ฟอร์มตก" แต่ถ้าดูจากบทสัมภาษณ์อันจองหองในช่วงหลัง ผมคิดว่าเขายังเป็นคนค่อนข้างจมไม่ลง และไม่ยอมรับความผิดพลาดตัวเองอยู่ และนั่นทำให้หลายคนไม่เพียงแต่ไม่ไว้ใจเขา แต่อาจจะเพิ่มความ "ไม่ชอบหน้า" เข้าไปด้วยซ้ำ
คือ เด เคอา แค่ยังดีไม่พอที่จะเป็นผู้รักษาประตูที่สมบูรณ์แบบในแท็กติกของ เทน ฮาก แต่ก็ยังคงช่วยทีมได้ไม่น้อยในเรื่องของการป้องกันประตู
แต่สำหรับ แม็กไกวร์ ผมบอกเลยว่าหลังจบฤดูกาลนี้ เขา "อยู่ยาก" กว่านายประตูที่อยู่กับทีมมานาน 12 ปีเยอะครับ
#เสียบสามเหลี่ยม #เดเคอา #แม็กไกวร์ #ดาบิดเดเคอา #แฮร์รี่แม็กไกวร์ #ผีแดง #แมนฯยูไนเต็ด #แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด #พรีเมียร์ลีก #ยูโรปาลีก
โฆษณา