21 เม.ย. 2023 เวลา 13:08 • กีฬา

จากทีมที่ไม่ได้แชมป์มานานแสนนาน แต่พอมูรินโญ่เข้ามาทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง

โรม่าไม่เคยได้แชมป์อะไรเลย มา 14 ปี แต่พอแต่งตั้งโชเซ่ มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีม พวกเขาคว้าแชมป์ได้ทันที และตอนนี้ก็ใกล้เคียงมาก ที่จะได้กลับไปเล่นในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง
5
ความเปลี่ยนแปลงของโรม่าเกิดขึ้นได้อย่างไรในช่วงเวลาสั้นๆ แค่ไม่ถึง 2 ปี นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว
ย้อนกลับไป วันที่ 19 เมษายน 2021 มูรินโญ่โดนไล่ออกจากสเปอร์สอย่างกะทันหัน เพราะผลงานไม่เป็นไปตามเป้า แดเนียล เลวี่ ผู้บริหารทีมไก่เดือยทอง แต่งตั้งไรอัน เมสัน ขึ้นมาคุมทีมชั่วคราวจนจบฤดูกาล
ความเจ็บใจของมูรินโญ่คือ เขาโดนไล่ออก "6 วัน" ก่อนนัดชิงคาราบาวคัพ อุตส่าห์พาทีมทะลุเข้าชิงได้แท้ๆ แต่กลับไม่ได้คุมทีมนัดชิงซะอย่างนั้น คือขออีกแค่นัดเดียวค่อยไล่ออกก็ยังดี
3
การโดนไล่ออกก่อนลงเล่นนัดชิง ทำให้มูรินโญ่มีประวัติด่างพร้อย ก่อนหน้านี้ คุมปอร์โต้,เชลซี, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์เสมอ เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง แต่ก็มาพลาดกับสเปอร์สนี่แหละ ที่ไม่ได้แชมป์อะไรเลยสักรายการเดียว
วันที่มูรินโญ่โดนไล่ออก เขามีอายุ 58 ปี ณ เวลานั้น เขาโดนวิจารณ์จากสื่อมวลชนว่า "สูญสิ้นมนต์ขลังของสเปเชียลวัน" โดนแซะว่าเป็นกุนซือตกยุค
2
บางคนบอกว่า เขาแก่เกินไป ตามไม่ทันแท็กติกใหม่ๆ ในโลกฟุตบอล ดังนั้น ควรเบนเข็มไปทำงานในซาอุดิอาระเบีย หรือ เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ที่การแข่งไม่ค่อยเข้มข้นมากจะดีกว่า
1
เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆ ที่มูรินโญ่เจอคำดูหมิ่นสารพัดขนาดนั้น
หลังโดนไล่ออกจากสเปอร์สเพียงแค่ไม่กี่วัน มีหนึ่งสโมสรที่ต้องการคว้าตัวมูรินโญ่มาร่วมงานทันที นั่นคือ โรม่า ทีมจากกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี
4
จริงๆ โรม่ามีโค้ชอยู่แล้ว นั่นคือ เปาโล ฟอนเซก้า แต่ผลงานก็ไม่ดีอะไร คุมทีมมา 2 ปี จบอันดับ 5 และ 7 ตามลำดับ วืดโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกทั้งสองซีซั่น คือถ้าปล่อยให้คุมทีมต่อไป ก็คงอันดับวนๆ อยู่แบบนี้ ไม่กระโดดไปสูงกว่านี้หรอก
1
นอกจากนั้นฟอนเซก้า ยังมีปัญหาทะเลาะกับนักเตะในทีมหลายครั้ง โดยเฉพาะกัปตันทีม เอดิน เชโก้ ที่ขัดแย้งกันบ่อยมาก เขาไม่สามารถรวมใจนักเตะในทีมเป็นหนึ่งได้
2
นั่นทำให้ผู้บริหารทีม ตัดสินใจว่าจะแยกทางกับฟอนเซก้าตรงนี้ แล้วไปทาบทามมูรินโญ่ที่มีดีกรีเหนือกว่าเข้ามาแทน
2
เมื่อพูดถึงโรม่าแล้ว พวกเขาโดนเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนสเปอร์สของอังกฤษ หรือ เลเวอร์คูเซ่นของเยอรมัน คือเป็นทีมที่โอเค มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ และมีนักเตะคุณภาพเข้ามาเรื่อยๆ แต่ไม่เคยได้แชมป์อะไรเป็นเรื่องเป็นราว
2
แชมป์สุดท้ายที่โรม่าทำได้ คือโคปปาอิตาเลีย ปี 2008 ซึ่งมันนานเกินไป ผู้บริหารอยากได้แชมป์อะไรสักอย่างให้แฟนๆ ได้มาฉลองกัน
และปฏิเสธไม่ได้ ว่ามูรินโญ่ คือโค้ชที่มีประสบการณ์โชกโชน เขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากจริงๆ
เมื่อได้รับข้อเสนอ มูรินโญ่ยังไม่ตอบตกลงโดยทันที แต่เขาวางเงื่อนไขสำคัญกับโรม่าก่อน นั่นคือถ้าเขายอมเซ็นสัญญา โรม่าต้องลงทุนสร้างระบบการซ้อมแบบใหม่ ชื่อ TILD (Tactic Interactive LED Screen) ขึ้นมาด้วย
2
TILD คือการใช้ระบบโดรน ช่วยถ่ายวีดีโอผู้เล่นระหว่างการซ้อม จากนั้นจะเอาภาพไปประมวลผลที่จอทีวีขนาดใหญ่ข้างสนามแบบ Real Time
4
แปลว่า พอจบเซสชั่นการซ้อมปั๊บ โค้ชและนักเตะจะนำวีดีโอที่ถูกบันทึกเหล่านั้น เอามาคุยปัญหากันได้ทันที
6
ถ้าซ้อมผิดพลาดตรงไหน ก็รู้ปั๊บ สามารถบอกให้แก้ไขตอนนั้นได้เลย มันเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ที่เวิร์กมาก ในมุมของมูรินโญ่ วิธีนี้ มันดีกว่าการบันทึกวีดีโอแบบเดิมๆ ที่ถ่ายเก็บไว้ก่อน แล้วจากนั้น 2-3 วันค่อยตัดคลิป เอามาคุยกับผู้เล่นอีกที
มูรินโญ่เคยเสนอแดเนียล เลวี่ ให้เอาระบบนี้มาใช้ที่สเปอร์ส เพราะมองว่ามีประโยชน์มากกับการซ้อม แต่เขาโดนปฏิเสธ
2
อย่างไรก็ตาม ฝั่งโรม่าตอบตกลง นั่นทำให้ มูรินโญ่โอเค เซ็นสัญญา 3 ปีในที่สุด พร้อมรับค่าจ้าง 13 ล้านยูโรต่อปี (วีกละ 250,000 ยูโร) เป็นโค้ชที่ได้รับรายได้สูงสุดของเซเรียอา
3
และพอมูรินโญ่เข้ามาคุมทีม โรม่าก็ทำตามที่พูดไว้ ด้วยการนำระบบ TILD มาใช้งานจนถึงปัจจุบัน
แต่ถามว่า มีสนามซ้อมดีขึ้น แล้วเปลี่ยนแปลงโรม่าได้ทันทีหรือไม่ คำตอบคือ ก็ไม่ใช่ ในเดือนตุลาคม 2021 โรม่าแพ้โบโด กลิมท์ ทีมโนเนมจากนอร์เวย์ ในยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ด้วยสกอร์ 6-1 ซึ่งเป็นการพ่ายแพ้ที่ย่อยยับที่สุดเกมหนึ่งในชีวิตของมูรินโญ่ด้วย เขายังมีการบ้านต้องทำอีกเยอะมากทีเดียว
1
สิ่งที่มูรินโญ่พยายามจะสร้างขึ้นมา คือ Mindset ของนักเตะและแฟนบอลโรม่า ก่อนหน้านี้คือ ถ้าแพ้แต่เล่นดีก็พอใจแล้ว แต่มูรินโญ่ปลูกฝังดีเอ็นเอของผู้ชนะ คุณต้องชนะให้ได้ และรู้สึกเจ็บปวดถ้าต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
3
ขณะที่เรื่องความสัมพันธ์กับนักเตะ มูรินโญ่มีเบา มีหนัก มีเร็ว มีช้า มีใจดี มีโหดเหี้ยม
1
บทใจดี เช่น ตอนดาวรุ่ง เฟลิกซ์-อฟีน่า กียาน ยิงประตูได้ มูรินโญ่ซื้อรองเท้าสวยคู่ละ 800 ยูโรให้เป็นของขวัญ
1
หรือตอนที่ลีโอนาร์โด้ สปินัซโซล่า บาดเจ็บข้อเท้าในศึกยูโรจนลงเล่นไม่ได้หลายเดือน มูรินโญ่ก็ให้กำลังใจแล้วบอกว่าไม่ต้องห่วง นายได้กลับมาเล่นแน่นอน จนสปินัซโซล่าถึงกับพูดเลยว่า "มูรินโญ่เป็นคนที่พิเศษจริงๆ"
6
แต่บทโหด ก็มีบ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น เกมที่แพ้โบโด กลิมท์ 6-1 นัดนั้นโรม่าใช้ผู้เล่นสำรองลงสนาม เพราะคิดว่าเจอแค่โบโด กลิมท์ น่าจะผ่านได้ แต่สุดท้ายก็แพ้เละ
มูรินโญ่บอกหลังเกมว่า "ผมรู้ลิมิตของทีมตัวเองดี แต่ก็คาดหวังว่าจะเล่นกันได้ดีกว่านี้ แต่ผมเป็นคนเลือกทีมนี้เอง ดังนั้นผมต้องรับผิดชอบกับผลการแข่งขัน แต่ในข้อเท็จจริงคือ เรามีนักเตะแค่ 13 คนเท่านั้น ที่สามารถเป็นตัวแทนสโมสรได้ ส่วนคนที่เหลือ อยู่คนละเลเวลกันเลย"
1
นักเตะคนไหน ที่มูรินโญ่คิดว่าใช้การไม่ได้ เขาก็โละทิ้งทันที หลังจากแพ้โบโด กลิมท์ ปั๊บ ในเดือนมกราคมพอตลาดเปิด นักเตะ 4 คน ที่ลงตัวจริงในเกมนั้น คือบอร์ฆา มายอรัล, กอนซาโล่ บีย่าร์, ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี่ และ ไบรอัน เรย์โนลด์ส โดนปล่อยออกไปทั้งหมด
สายตาของมูรินโญ่ เขาจะคัดเลือกแต่นักเตะคนที่เล่นได้จริงๆ เท่านั้น การคิดเร็วทำเร็ว สั่งฟันฉับ ทำให้นักเตะในทีมตื่นตัวกันตลอด ตั้งใจซ้อม ตั้งใจเล่นในทุกๆ เกม
1
ประสบการณ์ การทำงาน 30 ปีของมูรินโญ่ ทำให้เขารู้ว่า ควรพูดแบบไหน กับนักเตะคนไหน บางคนที่ไม่ค่อยมั่นใจ ต้องการคำชม แต่บางคนที่มั่นใจมากๆ ต้องใช้การเบรกเพื่อไม่ให้เหลิง
3
แทมมี่ อับราฮัม หัวหอกชาวอังกฤษ เป็นคนที่ได้รับคำชมจากมูรินโญ่น้อยมาก ครั้งหนึ่งมูรินโญ่เคยกล่าวว่า "แทมมี่ อับราฮัมคนเดียวที่ผมชอบ คือคนที่คิดถึงเรื่องทีมเป็นหลัก เราต้องการอับราฮัมคนที่พร้อมดีใจตอนคนอื่นยิงได้ ราวกับว่าตัวเองเป็นคนยิงเอง"
นักข่าวเคยถามว่า ทำไมใจร้ายกับอับราฮัมจัง บางทีนักเตะก็เล่นได้ดีมากๆ นะ แต่ไม่ค่อยชมเลย มูรินโญ่ตอบว่า "แทมมี่เขารู้ดี ว่าที่ผมไม่ยอมชมเขาเยอะๆ เพราะเขายังพัฒนาได้มากกว่านี้ เขาเป็นผู้เล่นที่ดี แต่มีคุณสมบัติที่จะดีได้กว่านี้อีก"
2
การซ้อมที่ดี ระบบจิตวิทยาที่ถูกต้อง ทำให้โรม่าเล่นดีขึ้นเรื่อยๆ โอเคในบอลลีกช่องว่างกับทีมใหญ่ มันยังห่างเยอะ แต่ในบอลถ้วย อย่างยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ซึ่งเป็นทีมเกรดเดียวกัน โรม่าแสดงให้เห็นว่า พวกเขาเหนือกว่าทีมอื่นทั้งหมด
1
ในนัดชิง คอนเฟอเรนซ์ ลีก ฤดูกาล 2021-22 โรม่า ชนะ เฟเยนูร์ด 1-0 ได้ประตูจากนิโคโล่ ซานิโอโล่ ทำให้โรม่าคว้าแชมป์ถ้วยยุโรป ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
4
และชัยชนะเกมนั้น ทำให้มูรินโญ่กลายเป็นผู้จัดการทีมเพียงคนเดียวในโลก ที่ได้แชมป์ยุโรป ครบทุกรายการ ทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูฟ่า ยูโรป้าลีก และ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก
8
ตอนได้แชมป์ มูรินโญ่ถึงกับร้องไห้ เขาบอกว่า สโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่างโรม่า ที่มีแฟนๆ ซัพพอร์ทมหาศาลขนาดนี้ ไม่ควรจะร้างแชมป์นานขนาดนี้ ในวันนี้เขานำถ้วยแชมป์มาให้แฟนๆ ได้ฉลองกันแล้ว
4
ในปีแรก มูรินโญ่พาทีมได้แชมป์ทันที แม้จะเป็นถ้วยยุโรปใบเล็กสุดก็ตาม แต่ชนะก็คือชนะ นักเตะได้ลิ้มรสความสุขของความสำเร็จ และนั่นคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้โรม่าเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น แฟนบอลพอจะมองเห็นอนาคตบ้างแล้ว
2
เรื่องในสนาม มูรินโญ่ ปรับจากแผนกองหลัง 4 คน มาใช้กองหลัง 3 คน ซึ่งแข็งแรงมั่นคงกว่า กลุ่มเซ็นเตอร์แบ็ก อย่างคริส สมอลลิ่ง, จานลูก้า มันชินี่ และ ดีเอโก้ ยอร์เรนเต้ รวมถึงโรเจอร์ อิบันเยซ เล่นได้แข็งแกร่งมาก
นอกจากนั้นยังพัฒนาเกมเคาน์เตอร์ แอทแท็กให้มีประสิทธิภาพที่สุด ในปีแรกของมูรินโญ่ โรม่าครองบอลเฉลี่ย 49.3% เท่านั้น อยู่อันดับ 11 ของลีก คือไม่จำเป็นต้องครองบอลเยอะๆ แต่ใช้จุดแข็งคือความเร็วในการสวนกลับเล่นงานคู่แข่งแทน
1
ส่วนเรื่องนอกสนาม เกี่ยวกับการซื้อขายย้ายตัว เขาก็เข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรง
ตัวอย่างเช่น เคสของ เปาโล ดิบาล่า ก็ได้มูรินโญ่เป็นคนหว่านล้อม ให้มาสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยกันที่กรุงโรม คือจริงๆ แล้ว โรม่าจ่ายค่าเหนื่อยให้ดิบาล่า 4.5 ล้านยูโร น้อยกว่าอินเตอร์ มิลาน ที่พร้อมจ่าย 5.5 ล้านยูโรด้วยซ้ำ แต่เพราะมีมูรินโญ่อยู่ ดิบาล่า จึงพิจารณาการมาอยู่โรม่า
2
รวมถึงกับอีกหนึ่งเคส ที่สำคัญมากๆ คือปัญหากับนิโคโล่ ซานิโอโล่ ที่เคยเป็นข่าวใหญ่ในช่วงต้นปี
2
ซานิโอโล่ คือกองกลางตัวรุกที่เป็นขวัญใจของทีม เป็นฮีโร่ที่ยิงประตูชัยในนัดชิงยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีกได้ด้วย และมูรินโญ่ก็ต้องการให้เป็นแกนหลักของทีมไปอีกหลายปี
1
แต่ปัญหาคือ ซานิโอโล่ที่จะหมดสัญญาในปี 2024 ต้องการย้ายทีม โรม่าเลยบอกว่าย้ายก็ได้ แต่ต้องได้ค่าตัว 30 ล้านยูโรเท่านั้น
เอซี มิลาน ทีมที่ซานิโอโล่ต้องการย้ายไป ยื่นข้อเสนอเข้ามา 20 ล้านยูโร ในระหว่างนั้นเอง บอร์นมัธจากอังกฤษ ยื่นข้อเสนอเข้ามา 30 ล้านยูโร ทำให้โรม่าตกลงข้อเสนอจากบอร์นมัธ แต่ไม่รับข้อเสนอจากเอซี มิลาน
ซานิโอโล่ อยากย้ายทีมก็จริง แต่ความหมายคือ ไปทีมที่ใหญ่ขึ้น หรือใหญ่ใกล้เคียงกัน ไม่ใช่ทีมหนีตกชั้นแบบบอร์นมัธ เขาจึงปฏิเสธไม่ยอมเจรจาใดๆ กับบอร์นมัธทั้งสิ้น และบอยคอตต์ไม่ยอมเล่นให้โรม่าด้วย คือบีบสโมสรให้ยอมรับข้อเสนอราคาถูกของมิลานให้ได้
3
สิ่งที่มูรินโญ่จัดการกับเรื่องนี้ คือออกมาฉีกหน้าซานิโอโล่ ต่อหน้าสาธารณชน เขาให้สัมภาษณ์ว่า "ซานิโอโล่บอกผม บอกสโมสร และบอกเพื่อนร่วมทีม ว่าเขาไม่อยากเล่นให้โรม่าอีกต่อไปแล้ว เขาบอกว่าไม่อยากเล่นกับทีมนี้ ไม่อยากซ้อมร่วมกับทีมนี้อีก"
3
คนที่ไม่ให้ใจกับสโมสร ก็ไม่เห็นต้องพูดจาดีด้วย พอมูรินโญ่พูดแบบนั้น แฟนๆ โรม่าก็รุมโห่ รุมด่าซานิโอโล่อย่างหนัก ว่าไม่รักดี อยากไสหัวไปไหนก็ไป
3
สุดท้ายก่อนตลาดหน้าหนาวจะปิดตัวลง กาลาตาซาราย จากตุรกี ยื่นข้อเสนอเข้ามา ซานิโอโล่ไม่มีทางเลือก ไม่ได้อยากไปลีกตุรกี แต่ก็ต้องยอมย้ายออกไป เพราะอยู่ต่อก็กลายเป็นแกะดำของทีมอยู่ดี
3
เราจะเห็นถึงสกิลในการจัดการทุกๆ อย่างของมูรินโญ่ เขาช่วยพัฒนานักเตะที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้น และตัดเนื้อร้ายออกจากทีมอย่างไม่ลังเล
1
โรม่าค่อยๆ ยกระดับขึ้น มีทิศทางมากขึ้น กลายเป็นทีมที่น่ากลัวกว่าเดิม ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ จนกว่านกหวีดจะหมดเวลา
1
แฟนบอลเองก็กลับมาศรัทธาในทีม สถิติบอกว่า ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ทุกเกมที่โรม่าเล่นในบ้าน ไม่เคยมีคนดูต่ำกว่า 60,000 คน
1
ความสำเร็จที่จับต้องได้ ทำให้มูรินโญ่กลายเป็นที่รักของชาวโรม มีร้านไอศครีมแห่งหนึ่ง ครีเอตไอศครีมรสใหม่ชื่อ "Special One"
5
รวมถึงมีแฟนโรม่าบางส่วนช่วยกันทำ Mural หรือ วาดภาพบนผนังในเมือง เป็นรูปมูรินโญ่ขี่สกูตเตอร์อีกด้วย
2
สำหรับผลงานล่าสุด ของโรม่า ณ เวลานี้ (2022-23) อยู่อันดับ 4 ของเซเรียอา และ เข้ารอบรองชนะเลิศยูโรป้าลีก คือมีโอกาสได้โควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทางใดทางหนึ่ง ทั้งทางตรง (ในลีก) และ ทางลัด (บอลยุโรป)
6
ถ้าย้อนกลับไปวันแรกที่มูรินโญ่คุมเชลซี ณ เวลานั้น เขามีอายุ 40 ปี เป็นคนหนุ่มที่อหังการเต็มสูบ ผ่านมายี่สิบปี ณ ตอนนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ อายุ 60 ปีแล้ว กลายเป็นปูชนียบุคคลของวงการ
4
แต่ผลงานที่เขาพัฒนาโรม่าให้ดีขึ้น คงพอจะตอบได้ว่า ความ Special ของมูรินโญ่ก็ไม่ได้ลดลงไปเลย แม้จะอายุมากขึ้นก็ตามที
5
ซีซั่นก่อนที่มูรินโญ่จะมาคุม (2020-21) ช่องว่างของโรม่า กับ แชมป์ เซเรียอา ห่างกัน 29 คะแนน
จากนั้น พอมูรินโญ่มาคุมปีแรก (2021-22) ช่องว่างกับทีมแชมป์ลดลงเหลือ 23 คะแนน
ณ เวลานี้ ปีที่สองของมูรินโญ่ (2022-23) ช่องว่าง ณ ปัจจุบัน ห่างจากจ่าฝูง 19 คะแนน
ค่อยๆ บีบช่องว่างกับทีมที่ดีที่สุดของลีก มาทีละนิด ทีละนิด
นักข่าวเคยถามว่า พอใจหรือยัง ที่โรม่าลด gap ช่องว่างลงมาเรื่อยๆ ขนาดนี้ แต่มูรินโญ่ตอบว่า "Thinking Bigger" หรือ คิดให้ใหญ่กว่านี้อีก
ความหมายคือ เขาไม่ได้หวังแค่ไล่ตามช่องว่างอยู่ห่างๆ แต่อยากจะลดช่องว่างนั้นให้เหลือ 0 ไปเลย นั่นคือ กลายเป็นแชมป์ด้วยตัวเองในอนาคต
2
แน่นอน การคว้าแชมป์เซเรียอาของโรม่า คงไม่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่ถ้าทุกคนไม่หยุดเชื่อมั่น เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีมูรินโญ่เป็นหัวเรือนำทัพ ความฝันนั้นก็อาจเกิดขึ้นได้ในสักวัน
3
#TRANSFORMATION
1
โฆษณา