22 เม.ย. 2023 เวลา 11:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ถ้ามีใครมาบอกกับคุณว่าเค้านั้นพึ่งจะได้กำไรจากตลาดหุ้นมา

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า
"ถ้ามีใครมาบอกกับคุณว่าเค้านั้นพึ่งจะได้กำไรจากตลาดหุ้นมา
ให้คุณถามเค้ากลับไปว่า แล้วตอนที่ขาดทุนล่ะ
ถ้าเค้ายอมเล่า ให้อยู่ฟังเค้าต่อ แต่ถ้าเค้าไม่เล่า
ให้คุณขอบคุณเค้า แล้วก็รีบเดินจากไป"
ก็เพราะว่าในตลาดหุ้นนั้น ล้วนเกิดจากการคาดเดา ไม่ว่าจะเป็นการคาดเดาเหตุการณ์หรือกำไร หรือสภาพศก.ซึ่งมีผลต่ออุตสาหกรรมของหุ้นตัวนั้นๆ หรืออะไรก็แล้วแต่
ซึ่งทุกแนวทางของการลงทุนก็ล้วนที่จะต้องอาศัยการคาดเดาด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าแนวทางไหนก็ตาม
อยู่ที่ใครจะคาดเดาแบบมีหลักการ มีเหตุและผลที่มีความเชื่อมโยงได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุดเท่านั้นเอง
เช่นคนแรกบอกกับเราว่า บริษัทนี้(น่าจะ)มีกำไรโตขึ้น (อย่างมีเสถียรภาพและไม่ใช่สินค้าคอมโมดิตี้) เพราะเค้ากำลังมีโครงการ........และถือเป็นเมกะเทรนด์ด้วย
ประกอบกับฐานะทางงบดุลที่แข็งแกร่งของบริษัท
แล้วในระยะยาว สินทรัพย์ และส่วนของผู้ถือหุ้นก็จะโตขึ้นตาม หนี้สินก็จะต้องลดลง(เพราะมีเงินจากกำไรที่ทำได้มากขึ้นเอาไปใช้หนี้เก่าที่เคยยืมมาทำกิจการ)
รวมทั้งมูลค่าทางบัญชีและเงินปันผลก็จะโตขึ้นทั้งหมด เราในฐานะผู้ถือหุ้นก็จะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นที่มากขึ้นด้วย
และเมื่อกิจการมีหนี้น้อยลง ภาระทางดอกเบี้ยก็น้อยลง กำไรในวันข้างหน้าก็อาจจะมากขึ้นอีก(เพราะไม่ต้องนำไปจ่ายดอกเบี้ยดังเช่นเดิม)
และเมื่อปัจจัยทุกอย่างดูดีขึ้นทั้งหมด สำหรับราคาหุ้นเราก็ย่อมเดาได้ว่ามันจะต้องขึ้นตามมาอย่างแน่นอน
(ลองนึกภาพว่าถ้าคุณได้รับเงินปันผลต่อหุ้นที่มีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งที่ถือหุ้นอยู่จำนวนเท่าเดิม คุณจะอยากขายหุ้นออกไปในราคาเดิมที่เคยซื้อมาให้กับคนอื่นไหม)
นั่นแหละคือเหตุผลที่หุ้นจะขึ้นจากการคาดเดาของชายคนแรก
ส่วนคนที่สองบอกกับเราว่า วงในเค้าบอกกับผมมา หรือใครๆก็พูดกันว่าหุ้นตัวนี้จะต้องดีแน่นอน ตัวนี้เด็ดสุดๆแล้วเชื่อผมเหอะ ผมรับรอง คนที่บอกผมมาเค้าไม่เคยพลาด
และนี่แหละคือเหตุผลที่หุ้นจะขึ้นจากการคาดเดาของชายคนที่สอง
#จงเชื่ออย่างมีเหตุมีผล อย่าเชื่อโดยอารมณ์(ที่อยากจะเชื่อ)
ขอให้โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ
Liu De Hua (Mr.China)
ยุทธภพ VI
#มือกระบี่ไร้นาม
โฆษณา