25 เม.ย. 2023 เวลา 13:00 • ท่องเที่ยว
เทือกเขาปิลาตุส

พิชิตยอดเขาแห่งหินมังกรที่สวิตเซอร์แลนด์ “Pilatus (พิลาตุส)”

ใครที่มาสวิตแล้วตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะขึ้นยอดเขาไหนดี วันนี้เราจะพาไปแนะนำ
“ยอดเขาแห่งหินมังกร Mount Pilatus (พิลาตุส)”
1
Mount Pilatus เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้กับเมืองลูเซิร์น เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในสวิตและเป็นที่รู้จักจากทิวทัศน์แบบพาโนรามาอันน่าทึ่ง
โดยที่นี่มีตำนานเล่าขานมากมายหลายแบบ แต่หากยึดตามที่พิพิธภัณฑ์บนยอดเขาพิลาตุส ตำนานได้เล่าไว้ว่า ในฤดูร้อนปี ค.ศ. 1421 มีมังกรผู้ยิ่งใหญ่บินมาที่ Pilatus และมันได้บินเฉียดเข้าใกล้กับชาวนาที่ชื่อ Stempflin ชาวนาช็อคมากจนเขาหมดสติไป แต่เมื่อเขาฟื้นคืนสติ เขาก็ได้พบกับก้อนเลือดที่จับตัวเป็นลิ่มและหินมังกรซึ่งมีคุณสมบัติในการที่ใช้รักษาโรคต่างๆได้
โดยการมาที่ยอดเขา Pilatus นี้ ให้เริ่มต้นที่เมือง Lucerne ขึ้นรถบัสหมายเลข 1 หรือ 19 ไปยัง Kriens, Zentrum Pilatus (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) แล้วเดินไปขึ้น Cable Car ได้เลย เป็นอะไรที่น่าเสียดายมากที่ช่วงหน้าหนาวที่เรามา (ธ.ค.) Cogwheel ที่ชันที่สุดในโลกไม่ได้เปิดให้บริการ เลยขึ้นได้แค่ Cable Car ซึ่งวิวตลอดทางคือสวยมากๆ และแนะนำให้ลงทุกสถานีที่กระเช้าจอดเพราะแต่ละสถานีมีไฮไลท์และกิจกรรมที่ควรค่าแก่การไปลองมากๆ
** ทั้งนี้กิจกรรมต่างๆจะขึ้นกับฤดูที่ไป ไม่เหมือนกัน ควรเช็คว่าไปช่วงฤดูไหนแล้วตรงกับกิจกรรมอะไร **
Map ขึ้น Pilatus ด้วย Cable Car
ค่าขึ้นกระเช้า 72 ฟรังก์ หรือประมาณ 2,716 บาท
แต่เรามี Swiss Pass ทำให้เหลือเพียง 32.4 ฟรังก์ หรือ ประมาณ 1,223 บาท
ขึ้นกระเช้าจากสถานี Kriens
เราจะเริ่มตั้งต้นจากสถานี Kriens สถานีแรกสำหรับ Cable Cars
ทางเดินป่าสถานี Krienseregg
สถานีแรกที่ลง Krienseregg ตอนเดินลงไปเป็นช่วงหมอกกำลังลงพอดี ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในป่า Twillight ซึ่งสถานีนี้ เป็นพื้นที่นี้ล้อมรอบด้วยเส้นทางที่สวยงามซึ่งเหมาะสำหรับนักเดินป่าสามารถถ่ายรูป เป็นจุดหนึ่งสำหรับชมวิวแบบพาโนรามาของภูเขาและหุบเขาโดยรอบ มีพื้นที่สำหรับเล่น สไลด์เดอร์ยักษ์ยาว 150 เมตรที่ให้ความตื่นเต้นเร้าใจลงจากภูเขา เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับเล่นลากเลื่อนหิมะ มีหลายเส้นทางให้เลือก ตั้งแต่เส้นทางเดินง่ายไปจนถึงเส้นทางที่ยาก
วิวบนกระเช้าระหว่างทางขึ้น
สถานี Fräkmüntegg จะมีกิจกรรมหลากหลายมาก ได้แก่
The Dragon Glider โหนสลิงสุดหวาดเสียวที่จะพาบินเหนือยอดไม้ (หน้าร้อน)
The Pilatus Rope Park สนามไต่เชือกสูงที่มีความยากหลายระดับ (หน้าร้อน)
พื้นที่เล่น Pilu-Land พื้นที่เล่นสนุกสำหรับเด็ก ๆ ในการสำรวจและเล่น Sledding
เส้นทางเดินป่า เส้นทางเดินป่าหลายเส้นทางเริ่มต้นที่ Fräkmüntegg และนำไปสู่ส่วนอื่นๆ ของภูเขา
ร้านอาหาร มีร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งที่สามารถหาอะไรทานและชมวิวได้
*** เนื่องจากตอนเราไป สถานีนี้ปิดให้บริการเล่นกิจกรรมต่างๆ (ที่เปิดช่วงหน้าร้อน) เลยไม่ได้ลงไปเล่น **
สถานี Pilatus-Kulm
สถานี Pilatus-Kulm หรือสถานีแห่งยอดเขาพิลาตุส เป็นจุดสุดท้ายของการเดินทางด้วยกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปยัง Mount Pilatus ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเยอะมากๆ
ทางเดินอุโมงค์หินที่จะเห็นรอบเขาทุกมุมแบบ 360 องศา
โดยเราจะเริ่มจากการไปเดินชมตามจุดต่างๆของยอดเขาพิลาตุส ความสวยนี่แทบไม่ต้องบรรยายเหมือนนั่งกระเช้ามาเจอสวรรค์ ด้วยวิวตระการตาของเทือกเขา Swiss Alps
ทางเดินเพื่อขึ้นไปยังจุดสูงสุดของยอดเขา
วิวจุดสูงสุดของยอดเขา
เดินไปชมจุดสูงสุดของที่นี่กัน เราก็จะเห็นตัวอาคารสถานี Pilatus-Kulm ที่ขึ้นมาเมื่อกี้ ตั้งตระหง่าน เหนือเมฆ สวยแบบน่าทึ่งมากๆ ระหว่างทางขึ้นมาอาจมีความเหนื่อยเล็กน้อยแต่คุ้มค่า เดินไม่นาน 5 นาทีก็ถึง
ฮอตดอกที่อร่อยที่สุดในโลกและคุณตาที่นั่งเล่นดนตรี
กลางวัน แนะนำสุดยอดฮอตดอก ที่อร่อยแบบที่ไม่เคยกินที่ไหนในโลกนี้ ตอนที่กัดไปคำแรก อยากจะซื้อตุน ไว้สัก 1000 ชิ้น เป็นไส้กรอกที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกิน ไม่ว่าใครมาเราก็จะขอป้ายยาให้ไปลองกินฮอตดอกบนยอดเขา Pilatus ให้ได้ ราคาถูกมาก ถ้าเทียบกับข้าวปกติ แค่ 8 ฟรังก์ ประมาณ 300 บาท เท่านั้น น้ำดิ่มก็ปาไปแล้ว 6 ฟรังก์ ประมาณ 250 บาท เพิ่มอีกนิดได้กินไส้กรอกที่อร่อยที่สุดและถูก เราซ้ำไป 3 ชิ้น เอามานั่งกินในอาคาร มีคุณลุงคุณตานั่งจับกลุ่มเล่นดนตรี เพราะสุดอะไรสุด จุดนั้นคือโคตรของโคตรมีความสุข
บรรยาการการเล่น Sledding ที่เล่นครั้งแรก
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำ และที่นี่เองเป็นที่แรกที่เราได้ลองเล่น Sledding ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่ยาวที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ เป็นการขี่เลื่อนลงจากภูเขาที่สนุกและตื่นเต้นมาก วิวสวยจนนึกว่าอยู่ในหนัง Twillight เหมือนเข้าไปในดงเทพนิยาย ต้นไม้สวยมาก ทางค่อนข้างไม่มีที่หยุดพัก ทางยาว ชันกลางๆ เริ่มเล่นเราก็ดันมาฝึกกับทางระดับคนเล่นเป็นแล้วทำให้มีความเกร็งขาเบาๆ แต่ทางไม่แคบแค่ต้องระวังช่วงเลี้ยว คุ้มค่าเงินสำหรับคนที่จ่ายแบบขาเดียวแบบเรา
** ที่นี่ลงแล้วลงเลยไม่สามารถนั่งกระเช้ากลับไปแบบ Unlimited ได้ ถ้าซื้อแบบ ขาเดียว **
บรรยากาศความสวยงามของทางเล่น Sledge และ ทางเดินป่า
ระหว่างทางก็จะเห็นคนเดินป่า ตามทาง พูดว่าสวยรอบที่ล้าน กว่าจะลงไปถึงด้านล่างใช้เวลาไถล Sledge ลงประมาณ 40 นาที - 1 ชั่วโมง (ทางยาวจริงอะไรจริง) คือไถลข้าม 2 สถานีเลย
วิวกระเช้าขากลับ
ใครที่ลังเลอยู่ย้ำว่าไม่ต้องลังเลแล้วมาเลย เพราะคุ้มค่ามากๆ ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนมาด้วยนะ ควรมาวันฟ้าเปิดเพื่อให้เห็นทัศนียภาพเต็มอรรถรส
โฆษณา