26 เม.ย. 2023 เวลา 23:00

“ไซยาไนด์” และ 4 สารพิษอันตรายที่คนร้ายนิยมใช้วางยา

มาทำความรู้จัก 5 ยาพิษอันตรายที่คนร้ายนิยมใช้ “วางยา” ซึ่งรวมถึง “ไซยาไนด์” ที่กำลังปรากฏเป็นข่าวดังในขณะนี้ ทั้งหมดอาจพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง รู้เอาไว้ ได้ใช้ป้องกันตัวเองและคนที่คุณรัก
2
“ไซยาไนด์” กลายเป็น ยาพิษอันตราย ที่สร้างความหวาดหวั่นในสังคม หลังพบเป็นของกลางชิ้นสำคัญในคดีฆาตกรรมเท้าแชร์ที่จังหวัดกาณจนบุรี สารพิษดังกล่าวตรวจพบในเลือดของผู้เสียชีวิต มี ฤทธิ์ทำให้ถึงตาย แต่ความจริง นอกจาก “ไซยาไนด์” แล้ว ประวัติศาสตร์โลกเคยปรากฏ “สารพิษ” ตัวอื่นๆ ที่ถูกนำมาใช้เป็น “ยาพิษ” ทำให้เกิดคดีที่คนในอดีตต้องประหวั่นพรั่นพรึงมาแล้ว
1
5 ยาพิษอันตรายที่กล่าวมานี้ มีชนิดใดบ้าง เรามาทำความรู้จักและสร้างความตระหนักเพื่อป้องกันภัยให้ตัวเองและคนรอบข้างไปด้วยกัน เริ่มจาก....
1
1) ไซยาไนด์ ยาพิษชนิดที่ได้รับความนิยมสูง สารไซยาไนด์หาได้ง่ายและสามารถพบได้ในชีวิตประจำวันเพราะมีสารชนิดนี้อยู่ในผัก ผลไม้ เช่น ข้าวเจ้า ข้าวสาลี พีช มะม่วง ส่วนในทางอุตสาหกรรม ไซยาไนด์ใช้ในการผลิตไนล่อน และพบมากที่สุดใน ยาฆ่าแมลง
4
บทบาทของไซยาไนด์ในการคร่าชีวิตผู้คน เป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อกองทัพนาซีเยอรมันนำไซยาไนด์มาใช้ในห้องรมแก๊ส เพื่อสังหารเหยื่อได้คราวละหลายร้อยคนภายในพริบตาเดียว นับเป็นการสังหารหมู่ที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมมากที่สุด
3
ไซยาไนด์มีพิษร้ายแรงมาก เมื่อรับสารพิษเข้าไปแม้เพียงนิดเดียว อวัยวะในระบบประสาทส่วนกลาง ตับ ไตและระบบหัวใจจะได้รับผลกระทบทันที อาการแรกที่ปรากฏหลังได้รับสารนี้เข้าไป คือ หายใจติดขัด ตามด้วยอาการชักและหมดสติ ซึ่งอันตรายมาก อาจเสียชีวิตในทันทีถ้ารับสารพิษนี้เข้าไปเป็นเวลานานติดต่อกันตั้งแต่ 1-15 นาที
4
2) สารหนู หรือ อาร์เซนิก เป็นยาพิษที่พบได้จากธรรมชาติ เช่นถ่านหิน ดินและแร่ รวมทั้งในภาคอุตสาหกรรม เช่นการทำเหมืองแร่ถ่านหิน การทำยาฆ่าแมลง และยาปราบศัตรูพืช บ่อยครั้งที่มนุษย์สูดดมหรือสัมผัสสารหนูเข้าไปโดยไม่รู้ตัวเลย
6
ในอดีตมีบุคคลสำคัญที่ถูกวางยาด้วยสารหนูวางยาเพื่อมุ่งผลในการสังหารมาแล้ว เช่น กษัตริย์นโปเลียน โบนาปาร์ต พระเจ้าจอร์จที่สามแห่งราชวงศ์อังกฤษ และซีมอง โบลีวาร์ ผู้นำทางการเมืองของประเทศเวเนซูเอลา บุคคลทั้งสามไม่ได้เสียชีวิตในทันที แต่ดูเหมือนพวกเขาจะถูกวางยาวันละนิดละน้อย ทำให้สารพิษดังกล่าวสะสมอยู่ในเลือดเป็นระยะเวลานาน
4
อาการหลังสารหนูเข้าสู่ร่างกาย คือ การอาเจียนเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยปวดท้อง ท้องเสีย กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็ง และมักมีภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจ พบว่าเหยื่อมักเสียชีวิตด้วยอาการภาวะหัวใจล้มเหลว
3
3) สารปรอท หรือ เมอร์คิวรี นี่คือสารพิษที่พบได้ในอุตสาหกรรมเป็นหลัก เช่น การทำสวิตช์กระแสไฟฟ้า การเผาไหม้อุตสาหกรรมถ่านหิน แบตเตอรี่ต่างๆ ตลอดจนเครื่องมือทดลองทางวิทยาศาสตร์ อาทิ ปรอทวัดอุณหภูมิ นอกจากนี้ เรายังอาจพบสารปรอทปะปนอยู่ในอาหารได้ด้วย เช่น ในอาหารทะเล
2
สารปรอทเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยการรับประทานหรือสูดดม เพราะมีคุณสมบัติเป็นของเหลวที่ระเหยเป็นไอน้ำได้ นอกจากนี้ ยาบางชนิดใช้สารปรอทเป็นส่วนประกอบ เช่น ยารักษาโรคซิฟิลิส ที่แพทย์ในยุคโบราณเคยนำมาใช้กับ “โมสาร์ท” นักแต่งเพลงชื่อก้องโลก น่าเสียดายที่โมสาร์ทรักษาไม่หายและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่า แท้จริงแล้ว สาเหตุที่โมสาร์ทตายนั้น เป็นเพราะโรคซิฟิลิส หรือเพราะสารปรอทที่ถูกนำมาใช้รักษากันแน่
1
อาการที่เกิดจากสารปรอท มีทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยอาการเริ่มแรกคือ อาเจียน ปากพองแดงไหม้ อักเสบและเนื้อเนื้อเยื่ออาจหลุดออกมาเป็นชิ้น ต่อด้วยอาการเลือดอออก ปวดท้องอย่างรุนแรง จากการถูกสารชนิดนี้กัดระบบทางเดินอาหาร อาการท้องร่วง อุจจาระเป็นเลือด เป็นลมหมดสติ และเมื่อสารเข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือด ก็จะไปทำลายไต จนปัสสาวะไม่ออก หรือไม่ก็ปัสสาวะเป็นเลือด และสุดท้ายก็เสียชีวิตในที่สุด
5
4) สตริกนิน เป็นสารพิษที่อยู่ในเมล็ดของต้น “แสลงใจ” (Strychnos nuxvomica) จุดเริ่มต้นของสารนี้ มาจากทวีปยุโรปช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งมีการนำสารชนิดนี้มาใช้กำจัดหนูและสัตว์อื่นๆ ส่วนในประเทศไทย นิยมนำสารชนิดนี้มาใช้ทำยาเบื่อสุนัข หน้าตาของสตริกนินนั้นดูไปก็คล้ายเม็ดยา มีสีเขียวหรือสีแดง บางครั้งมาในรูปแบบผงแป้งก็มี คุณสมบัติคือไม่มีสี ไม่มีกลิ่น รสชาติขม เหมาะสำหรับฆาตกรผู้อยากให้เหยื่อขมคอก่อนตาย
5
ในยุคสมัยใหม่มีการนำสตริกนินไปผสมกับเฮโรอีน แทนคลินิดีนหรือผสมในโคเคน เพื่อให้ได้ปริมาณยาที่มากขึ้น เนื่องจากสตริกนินมีลักษณะเป็นผงสีขาวคล้ายๆกัน และมีรสชาติคล้ายกัน แต่หากกินเข้าไปก็มีฤทธิ์ถึงตาย อาการเมื่อรับสตริกนินเข้าร่างกายไปราว 10 - 20 นาที จะเริ่มมีอาการกระตุกและเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ อาจมีอาการชักร่วมด้วย
3
ในรายที่อาการไม่รุนแรงมากผู้รับสารจะยังรู้สึกตัวดี มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่ถ้ารุนแรงมากจนเกิดภาวะแทรกซ้อน ระบบหายใจล้มเหลว อาจเกิดภาวะกล้ามเนื้อสลายตัว มักจะตามด้วยอาการไตวาย และเสียชีวิตในภายหลัง
2
5) โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชื่อนี้คุ้นหูเพราะโบทูลินั่ม ท็อกซิน รู้จักกันดีในอีกชื่อว่า “โบท็อกซ์” ที่สถาบันความงามต่างๆ นิยมนำมาฉีดเพื่อลดริ้วรอยให้บรรดาลูกค้าที่ชื่นชอบความเต่งตึงของผิวพรรณ
ปัจจุบัน เริ่มมีการนำสารนี้มาใช้แทนยารักษาโรคต่างๆ (แต่ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์) เช่นออฟฟิศซินโดรม และอาการปัสสาวะกะปริดกะปรอย
1
แต่ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าโบทูลินั่ม ท็อกซิน เป็นโปรตีนมีที่มาจากการสกัดแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม ที่เป็นตระกูลเดียวกับพวกเชื้อบาดทะยัก พบในอาหารกระป๋อง รวมทั้งหน่อไม้บรรจุปี๊บ หากมีการปนเปื้อนในอาหารและมีคนรับประทานเข้าไป ก็อาจจะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ
2
กรณีที่ได้รับเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะแค่ท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษ แต่ถ้าหากได้รับในปริมาณมากๆ จะเกิดอาการรุนแรง ได้แก่ กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตขยับไม่ได้ เวียนหัว การมองเห็นแย่ลง หายใจติดขัด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจ จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
3
โฆษณา