Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ปรัชญาแห่งชีวิต : philosophy of life
•
ติดตาม
1 พ.ค. 2023 เวลา 02:59 • ปรัชญา
“ศิลปะแห่งการปล่อยวาง”
The art of letting go
การปล่อยวางเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่เราสามารถทำได้ในชีวิต มันอาจจะเจ็บปวด น่ากลัว และไม่สบายใจ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สถานที่ นิสัย หรือความเชื่อ การปล่อยวางทำให้เราต้องปล่อยวางการยึดติดกับสิ่งที่เราเคยรัก แต่ถึงแม้จะยากแค่ไหน การปล่อยวางก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดที่เรามีเพื่อการเติบโตและการเยียวยาตนเอง
ศิลปะแห่งการปล่อยวางคือศิลปะแห่งการยอมจำนนต่อการควบคุม มันเกี่ยวกับการยอมรับสิ่งที่เป็น มากกว่าการพยายามเปลี่ยนแปลงมัน เมื่อเราปล่อยวาง เราสร้างพื้นที่สำหรับประสบการณ์และโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตของเรา เราปลดเปลื้องตนเองจากภาระในอดีตและเปิดรับความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของอนาคต
การปล่อยวางไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ต้องอาศัยความอดทน ความเห็นอกเห็นใจตนเอง และความเต็มใจที่จะเผชิญกับความกลัวและอารมณ์ของเราโดยตรง เป็นการเดินทางเพื่อค้นพบตัวเองที่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงส่วนบุคคลอย่างลึกซึ้ง
ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการเกี่ยวกับวิธีการฝึกฝนศิลปะแห่งการปล่อยวาง
1) รับรู้ความเจ็บปวด
การปล่อยวางอาจเป็นความเจ็บปวด สิ่งสำคัญคือต้องรับทราบและให้เกียรติกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการ อย่าพยายามระงับหรือเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้ ปล่อยให้ตัวเองรู้สึกและแสดงออกในแบบที่ดีต่อสุขภาพ ร้องไห้ บันทึก พูดคุยกับเพื่อนที่ไว้ใจได้หรือนักบำบัด ไม่ว่าคุณจะทำอะไร อย่าเก็บอารมณ์ของคุณไว้
2) ฝึกความเห็นอกเห็นใจตนเอง
ใจดีและอ่อนโยนกับตัวเองในระหว่างกระบวนการปล่อยวาง อย่าตัดสินตัวเองจากความรู้สึกที่คุณรู้สึก คุณเป็นมนุษย์ และเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกหลากหลายอารมณ์เมื่อปล่อยวางบางสิ่งหรือคนที่คุณห่วงใย ปฏิบัติต่อตัวเองในแบบที่คุณจะปฏิบัติต่อเพื่อนสนิทที่ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก
3) เชื่อถือกระบวนการ
การปล่อยวางคือการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง เชื่อมั่นว่ากระบวนการจะคลี่คลายตามเวลาและในแบบของมันเอง อดทนกับตัวเองและวางใจว่าคุณอยู่ในจุดที่คุณต้องการในตอนนี้ จำไว้ว่าการปล่อยวางเป็นกระบวนการของการเติบโตและการเปลี่ยนแปลง
4) มุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาปัจจุบัน
การปล่อยวางทำให้เราต้องปล่อยวางการยึดติดกับอดีตและอนาคต มุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาปัจจุบันและที่นี่และเดี๋ยวนี้ ฝึกสติและให้ความสนใจกับความรู้สึกในร่างกาย ลมหายใจ และสิ่งรอบตัว ปัจจุบันคือทั้งหมดที่เรามี และเป็นที่ที่จะพบความสงบและความสุขอย่างแท้จริง
5) ฝึกความกตัญญู
ความกตัญญูเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการปล่อยวาง เมื่อเราจดจ่อกับสิ่งที่เรารู้สึกขอบคุณในชีวิต เราจะสร้างความคิดเชิงบวกที่สามารถช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ เขียนรายการสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณและอ่านบ่อยๆ มุ่งเน้นไปที่ความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตของคุณมากกว่าสิ่งที่คุณปล่อยไป
การปล่อยวางเป็นศิลปะที่ต้องฝึกฝนและอดทน มันไม่ง่ายเสมอไป แต่มันก็คุ้มค่าเสมอ การปล่อยวางทำให้เราสร้างพื้นที่สำหรับประสบการณ์และโอกาสใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เราปลดเปลื้องตนเองจากภาระในอดีตและเปิดรับความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของอนาคต ดังนั้น หายใจลึกๆ ยอมรับความเจ็บปวด ฝึกเห็นอกเห็นใจตนเอง เชื่อมั่นในกระบวนการนี้ จดจ่อกับช่วงเวลาปัจจุบัน และฝึกฝนความกตัญญู คุณมีสิ่งนี้
การปล่อยวางสามารถใช้ได้กับหลายๆ ด้านในชีวิตของเรา มันอาจจะเป็นการละทิ้งความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ งานที่ไม่ได้รับใช้เราอีกต่อไป ระบบความเชื่อที่จำกัดเรา หรือแม้แต่ทรัพย์สินทางวัตถุที่เราให้ความสำคัญมากเกินไป
อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในการปล่อยวางคือความกลัว เรากลัวสิ่งที่ไม่รู้และความไม่แน่นอนของสิ่งที่อยู่ข้างหน้า แต่การยึดติดกับสิ่งที่คุ้นเคย เราจำกัดตัวเองและป้องกันไม่ให้ตัวเองประสบความร่ำรวยเต็มที่ของชีวิต
การปล่อยวางก็เกี่ยวกับการให้อภัยเช่นกัน เราอาจเก็บความแค้น โกรธ หรือทำร้ายความรู้สึกต่อคนที่ทำผิดต่อเราในอดีต แต่ด้วยการยึดมั่นในอารมณ์เชิงลบเหล่านี้ เราทำร้ายตัวเองเท่านั้น การให้อภัยไม่ได้เกี่ยวกับการยอมรับพฤติกรรมของอีกฝ่าย แต่คือการปลดปล่อยตัวเองจากอารมณ์ด้านลบที่ทำให้เราจมปลักอยู่กับอดีต
การปล่อยวางอาจเป็นรูปแบบหนึ่งของการดูแลตนเอง เราอาจยึดถือนิสัยหรือพฤติกรรมที่ไม่เป็นประโยชน์แก่เราอีกต่อไป เช่น การทำงานมากเกินไป การกินมากเกินไป หรือการใช้สารเสพติด แต่ด้วยการปล่อยวางพฤติกรรมเหล่านี้ เราก็สร้างพื้นที่สำหรับการดูแลตนเองและการรักตนเอง
เพื่อที่จะปล่อยวางอย่างแท้จริง เราต้องเต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว อารมณ์ด้านลบ และความเชื่อที่จำกัดของเรา ไม่ใช่กระบวนการที่ง่าย แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นหากเราต้องการเติบโตและพัฒนาในฐานะปัจเจกบุคคล
ศิลปะของการปล่อยวางไม่ใช่แค่การปล่อยวางสิ่งที่ไม่ได้ให้บริการเราอีกต่อไป แต่ยังเกี่ยวกับการอ้าแขนรับศักยภาพสูงสุดที่เราเป็น มันเกี่ยวกับการละทิ้งสิ่งเก่า เพื่อที่เราจะได้มีที่ว่างสำหรับสิ่งใหม่ มันเกี่ยวกับการปลดปล่อยการยึดติดในอดีต เพื่อให้เราสามารถโอบรับช่วงเวลาปัจจุบันและความเป็นไปได้ทั้งหมดของมันได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น สรุปได้ว่า หากคุณพบว่าตัวเองยึดติดกับบางสิ่งหรือใครบางคนที่ไม่ได้ให้บริการคุณอีกต่อไป โปรดจำไว้ว่าการปล่อยวางเป็นกระบวนการ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว มันอาจจะเจ็บปวดแต่ก็เป็นการปลดปล่อยเช่นกัน เชื่อมั่นในกระบวนการนี้ ฝึกฝนความเห็นอกเห็นใจตนเอง และจดจ่อกับช่วงเวลาปัจจุบัน และที่สำคัญที่สุดคือ จำไว้ว่าการปล่อยวาง คุณกำลังสร้างพื้นที่สำหรับสิ่งใหม่ๆ และสวยงามเข้ามาในชีวิตของคุณ
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย