Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Singto Singto อธิรัฐ ปราการบดินทร์
•
ติดตาม
27 เม.ย. 2023 เวลา 06:22 • ประวัติศาสตร์
ญี่ปุ่นยึดครองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสงครามโลกครั้งที่2 (ตอนที่1)
วันที่ 8 ธันวาคม 1941 ในตอนเช้าตรู่กองทัพญี่ปุ่นเริ่มบุกเข้ายึดเกาะฮ่องกง กองทหารอังกฤษที่ยึดที่มั่นอยู่ในเขตป้องกันเป็นเพียงกองทหารส่วนน้อยเมื่อเทียบกับกำลังของกองทัพญี่ปุ่น ประกอบด้วยกองทหารอังกฤษ 2 กองร้อย กองทหารแคนาดา 2 กองร้อย และกองทหารอินเดีย 2 กองพัน ทำการป้องกันการบุกทะลักเข้ามาของกองทัพญี่ปุ่น กองทหารกลุ่มนี้ของกองทัพอังกฤษถูกรุกไล่ต้องถอนกำลังออกจากเขตป้องกันและกลับเข้าสู่เกาะฮ่องกงในวันที่ 13 ธันวาคม กองทัพญี่ปุ่นทำการยกพลขึ้นบกในเขตอ่าวด้านทิศเหนือของเกาะฮ่องกงในตอนกลางคืนของ
กองทหารอังกฤษ- แคนาดาในฮ่องกง
วันที่ 18-19 ธันวาคม ก่อนจะผนึกกำลังไล่ต้อนกองทหารอังกฤษเข้าสู่ส่วนกลางที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดบนเกาะฮ่องกง กองทหารอังกฤษพยายามเข้าต้านทานและโจมตีถ่วงเวลาและไร้ความช่วยเหลือใดๆจากกองทัพภายนอก จนกระทั่งถึงวันที่25 ธันวาคม(วันคริสมาสต์)
กองทหารอังกฤษทั้งหมดบนเกาะฮ่องกงจีงยอมจำนน เปิดทางให้กองทหารในกองพลส่วนนี้ของญี่ปุ่นเข้าผนึกกำลังกับกองทัพที่ 16 ญี่ปุ่นเตรียมการเข้าโจมตี
อีก1 เกาะในอาณานิคมของชาวดัตช์ที่ไกลออกไปทางทิศใต้
กองทหารอังกฤษในฮ่องกง
ตอนเช้าของวันที่ 8 ธันวาคม 1941 วันเดียวกัน กองทัพที่ 25 ญี่ปุ่นบุกเข้ายึด
กรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศ
ไทย จากนั้นก็กระจายกำลังรบบุกเข้ายึด
จุดยุทธศาสตร์ในทุกพื้นที่ของประเทศ
ไทยที่กองทัพญี่ปุ่นเห็นว่ามีความจำเป็น
ในเวลาเดียวกันได้ส่งกองทหารอีก 1 กอง
พลทำการยกพลขึ้นบกตลอดเขตชายฝั่งคาบสมุทรมลายูตั้งแต่เขตจังหวัดระนอง- ชุมพรจรดเขตจังหวัดนราธิวาสและ
ปัตตานีและที่อ่าวในเขตเมืองโกตาบารูห์
พรมแดนด้านทิศเหนือของมาเลเซียสนับ
สนุนการบุกจากกองบินรบกองทัพอากาศ
ญี่ปุ่นก่อนจะบุกจู่โจมเข้าโจมตีฐานทัพ
กองทหารอังกฤษในสิงคโปร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2
อากาศของอังกฤษที่สิงคโปร์ 2 วันหลังจากนั้นเรือรบของอังกฤษชื่อรีพัลซ์
(Repulse) และอีกลำหนึ่งชื่อพรินซ์ออฟ
เวลส์(Prince of Wales)ถูกตอร์ปีโดจากกองทัพเรือญี่ปุ่นและจมลงในเขตชายฝั่งทะเลมาลายา ซึ่งเป็นเพียงเรือรบ 2 ลำที่กองทัพอังกฤษนำเข้ามาปฏิบัติการในเขตตะวันออกไกล จากนั้นกองทัพญี่ปุ่นก็กระจายกำลังรบทางเรือเข้ายึดครองน่านน้ำทั้งหมดในเขตทะเลจีนใต้ กองทหารอังกฤษที่เข้าประจำแนวรบด้านทิศเหนือของมาเลเซียพรมแดนติดต่อกับประเทศ
ไทยคือกองทหารจากกองทัพที่ 3 อินเดีย
ร่วมกับกองทหารออสเตรเลียอีก1กองพล
เรือรบรีพัลซ์(Repulse)ของกองทัพเรืออังกฤษถูกโจมตีและจมลงในอ่าวทะเลมลายู
ทำหน้าที่ป้องกันเขตยะโฮร์บาห์รู แต่เนื่องจากมีการยกพลขึ้นบกด้วยจำนวนกองทหารที่มากมายของกองทัพญี่ปุ่น และแทรกทะลุมาตามแนวป่าที่มีต้นไม้ใบบังในเขตฝั่งทะเลและบุกเข้าโจมตีอย่าง
รุนแรง ทำให้กองทหารอินเดียกลุ่มนี้ต้อง
ล่าถอยกลับลงมาทางทิศใต้ตั้งแต่เวลานั้น กองทัพญี่ปุ่นยึดเมืองปีนังได้ในวันที่
19 ธันวาคม และยึดกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้ในวันที่ 11 มกราคม 1942 ด้านยะโฮร์บาห์รูในขณะนั้น 1 กองพลกองทหารออสเตรเลียซึ่งทำหน้าที่ป้องกันเขตอย่าง
แข็งแกร่งแต่สุดท้ายก็ไม่อาจต้านทานกำลังรบอันมหาศาลของกองทัพญี่ปุ่นได้
จึงถูกรุกไล่ให้ล่าถอยกลับเข้าไปในเขตสิงคโปร์ในวันที่ 31 มกราคม 1942 แม้ว่าในขณะนั้นกองทหารที่ทำการป้องกันเขตสิงคโปร์จะได้รับการเสิรมกำลังจากกองทัพอินเดียอีก 2 กองพล แต่การป้อง
กันสิงคโปร์จากทางเรือและทางอากาศนั้นเวลานี้แทบเป็นไปไม่ได้ กองทหารญี่ปุ่นอีก 3 กองพลยกพลขึ้นบกในวันที่
8- 9 และวันที่ 13 และบีบบังคับกองทหารทั้งหมดของอังกฤษที่ทำการป้องกัน
สิงคโปร์ให้ถอยร่นกลับเข้าไปในเขตที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดบนเกาะ ทำให้ประชากรชาวจีนและชาวมาเลย์ตกอยู่ท่ามกลางลูกกระสุนปืนใหญ่ของกองทัพญี่ปุ่น น้ำดื่ม
เรือรบพรินซ์ ออฟ เวลส์ของกองทัพเรืออังกฤษขณะถูกโจมตีจากกองทัพอากาศญี่ปุ่น
และเสบียงอาหารสำหรับการบริโภคของชาวเมืองบนเกาะสิงคโปร์ถูกตัดขาด อาวุธของกองทหารที่ทำหน้าที่ป้องกันเมืองขาดแคลนลง ก่อนที่กองทหารทั้งหมดบนเกาะสิงคโปร์จะยอมจำนนต่อกองทัพญี่ปุ่นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1942
และปฏิบัติการการเข้ายึดครองพื้นที่ในเขตแหลมมลายูของกองทัพญี่ปุ่นเป็นอัน
เสร็จสิ้นภารกิจ จากนั้นกองทัพญี่ปุ่นได้ผนึกกำลังทั้งหมดเตรียมบุกอ่าวเบงกอล
เขตอ่าวทะเลของอินเดีย- ศรีลังกาเป็นภารกิจต่อไป
อีกด้านหนึ่งขณะนั้น กองทัพญี่ปุ่นเริ่มบุกเข้าสู่ประเทศพม่าตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม
1941 หลังจากกองทหาร
กองทหารอินเดียในพม่า
จากกองทัพญี่ปุ่นอีกส่วนหนึ่งบุกเข้ายึด
เกาะสองฝั่งทะเลตรงกันข้ามกับเขตทะเลจังหวัดระนองของไทย(พม่าเรียกเรียกเกาเติงหรือปูโลดัว) อังกฤษเรียกวิคตอเรีย พอยต์(Victoria Point)ทางตอนใต้ของเขตตะนาวศรี(อังกฤษเข้ายึดครองระหว่างปี 1824- 1948)
กลางเดือนมกราคม1942 กองทหารในกองทัพญี่ปุ่นอีกส่วนหนึ่งบุกเข้ายึดอ่าวทะเลเขตเทือกเขาตะนาวศรี (Tennasserim Coast)ช่องทางติดต่อกับเขตลุ่มแม่น้ำแควจังหวัดกาญจนบุรีของไทย กองทหารขนาดเล็กของพม่าร่วมกับกองทหารส่วนหนึ่งของอินเดียเข้าต้านทานโดยได้รับการสนับสนุน
จากฝูงบินขนาดเล็กของพลจัตวา(ยศสุดท้ายพลเอก)แคลร์ แอล. เช็นนอลต์
(Brig.Gen.Claire L. Chennauls)กลุ่มอาสากองทัพอากาศอเมริกัน(ชุดปฏิบัติการไทเกอร์)ซึ่งตั้งฐานทัพอยู่ในประเทศจีน วันที่ 20 มกราคมกองทหารญี่ปุ่น 2
กองพลไหลทะลักข้ามด่านเจดีย์สามองค์พรมแดนของไทยเข้ามายังเมาะลำเลิง และโอบล้อมเข้าโจมตีกองทัพอินเดีย- พม่าในพื้นที่จนราบคาบและบังคับให้ยอมจำนนและถูกจับเป็นเชลยในวันที่ 31 มกราคมจากนั้นก็รุกไล่กองทัพอังกฤษออกจากเขตแม่น้ำสะโตงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์1942
ในเดือนธันวาคม1941ขณะนั้นพลเอกเจียง ไคเช็ค
ผู้บัญชาการกองทัพจีนคณะชาติกลัวว่าถนนสายหลักที่ขนส่งเสบียงจากย่างกุ้งไปที่จีนอาจจะถูกทำลายจากกองทัพญี่ปุ่นจึงส่งกองทหารจีนเข้ามาทางด้านทิศเหนือของพม่าเพื่อช่วยป้องกันเส้นทางและกรุงย่างกุ้ง กลางเดือนกุมภาพันธ์ 1942 กองทัพจีนจึงประจุกำลังรบเท่าที่มีร่วมกับกองทัพพม่าเสริมกำลังรบจากกองพลยานเกราะและกองทัพส่วนอื่นๆ จากนั้นก็รุกกำลังรบทั้งหมดเคลื่อนพลลงทางทิศใต้เพื่อช่วยเหลือกรุงย่างกุ้ง แต่การบุกและการรุกรบของกองทัพญี่ปุ่นรวดเร็วเกินกว่ากองทัพจีนและกองทัพพม่าจะต้านทานได้ จากนั้นกองทัพจีนและกองทัพพม่า
ก็ถูกตีแตกและแยกกองทัพทั้งสองออกเป็นสองส่วน เมืองพะโคหรือเมืองหงสาวดีถูกกองทัพญี่ปุ่นยึดครองในวันที่ 5 มีนาคม และกรุงย่างกุ้งไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้หลังจากกองทหารกลุ่มสุดท้ายตีแหวกวงล้อมของกองทัพญี่ปุ่นออกมาในวันที่7 มีนาคม1942 ก่อนที่กรุงย่างกุ้งจะถูกยึดครองโดยกองทัพญี่ปุ่น หลังจากนั้นกองทัพจีนและกองทัพพม่าก็ถอยทัพขึ้นไปตั้งที่มั่นอยู่ตอนบนของแม่น้ำอิระวดี โดยมอบหมายให้ 2 กองพลกองทัพพม่าเข้าปฏิบัติการในพื้นที่ตอนกลางของลุ่มแม่น้ำโดยได้รับการสนับสนุนจากกองทัพที่ 5และกองทัพที่ 6ของจีนและอีก 2กอง
เชลยศึกทหารญี่ปุ่น
พลอเมริกันซึ่งมีกำลังรบที่แข็งแกร่งกว่า
ทำหน้าที่ป้องกันเส้นทางรถไฟสายย่างกุ้ง- มันดาเลย์ซึ่งกองทัพทั้งหมดอยู่ในการบัญชาการของพลโท(ยศสุดท้าย
พลเอก)โจเซฟ ดับลิว. สติลเว็ล(Lt. Gen.
Joseph W. Stilwell)ซึ่งถูกแต่งตั้งขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการกองทัพร่วมระหว่าง
อเมริกัน- จีน- พม่าและอินเดียในเดือนกุมภาพันธ์ 1942
การได้เข้ายึดครองกรุงย่างกุ้งและการสู้รบในเขตมลายูสิ้นสุดลง ทำให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองทัพที่ 15 เข้ามาเสริมกำลังในพม่าได้ ประกอบด้วย 2 กองพลที่ตั้งขึ้นมาใหม่ร่วมกับกองพันทหารราบรถถังอีก 2 กองพัน
เชลยศึกทหารออสเตรเลีย
ร่วมกับกองทหารปืนใหญ่และกองทหารในกองทัพอากาศอีกเป็นจำนวนมาก ก่อนจะนำกองทัพทั้งหมดรุกเข้าสู่เขตมันดาเลย์ และจู่โจมเข้าทำลายเขตตั้งแนวรบและกองทหารพม่าจนราบคาบลงในเขตแม่น้ำอิระวดี กองทหารญี่ปุ่นบุกเข้ายึดเมืองตองอูได้ในวันที่ 30 มีนาคม 1942
จากนั้นก็บุกกองทัพขึ้นทางทิศเหนือและเข้าโจมตีปีกกองทัพจีนจนสะบัดสะบั้นอีกครั้ง ในตอนสิ้นเดือนเมษายนกองทัพญี่ปุ่นสามารถตัดขาดเส้นทางรถยนต์สายล่าเสียว(Lashio) ของพม่า เวลานี้ประเทศพม่าไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้หลังจากกองทหารกลุ่มสุดท้ายในกองทัพ
พม่าถอนกำลังข้ามแม่น้ำอิระวดีออกมา และ2 กองพลกองทัพจีนได้ถอยทัพกลับเข้าไปในรัฐอัสสัมของอินเดียโดยใช้เส้นทางสายเก่าระหว่างเมืองกาเลวาดี(Kale-
wadi)รัฐมหาราษฏระและเมืองอิมฟาล
(Imphal)รัฐมณีปุระ ส่วนกองทัพจีนที่เหลือได้ถอนกองทัพออกไปทางตะวันออกและข้ามแม่น้ำสาละวินเข้าสู่ประเทศ
จีน ปลายเดือนพฤษภาคมปี 1942 กอง
ทัพญี่ปุ่นสามารถยึดครองประเทศพม่าไว้ได้ทั้งหมด รวมถึงการได้ครอบครองน่านน้ำทั้งหมดในทะเลอันดามันและหมู่เกาะ
นิโคบาร์(Nicobar Island)ด้านตะวันออกของมหาสมุทรอินเดีย
พลเอกโจเซฟ ดับบลิว. สติลเว็ล
หลังจากได้ยึดครองช่องแคบมะละกาและอ่าวเบงกอล จากนั้นญี่ปุ่นได้ส่งกองเรือรบและกองเรือบรรทุกเครื่องบินบุกเข้าสู่มหาสมุทรอินเดียและบุกเข้าโจมตีกรุงโคลัมโบของศรีลังกาและอ่าวท่าเรือ
ตรินโคมาลี(Trincomalee)ของเกาะซีลอน และจู่โจมเข้ายึดระบบการขนส่งทางเรือด้านตะวันออกของอินเดีย ซึ่ง
บริเวณอ่าวเต็มไปด้วยกองเรือรบและเรือ
บรรทุกทางสินค้าของอังกฤษและเนเธอร์
แลนด์ที่เตรียมการจะบุกกลับเพื่อยึดคืน
สิงคโปร์ แต่ทุกอย่างเป็นเป้าหมายของ
กองทัพญี่ปุ่นจึงชิงปฏิบัติการก่อนโดย
ส่งกองบินรบเข้าโจมตีทางอากาศ
และทำความเสียหายเสียอย่างหนักให้แก่
กองทัพฝ่ายอังกฤษ- เนเธอร์แลนด์เพราะ
ต้องสูญเสียรบลาดตระเวน 2 ลำ เรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเล็ก 1 ลำ และเรือพิฆาตอีก 2 ลำรวมทั้งเสบียงสัมภาระและ
สิ่งของประเภทสินค้าประมาณ100,000
ตันตกอยู่ในการยึดครองของญี่ปุ่น
ในช่วงเวลาเดียวกัน ระหว่างนั้นกองทัพเรืออเมริกันได้รับชัยชนะเหนือกองทัพเรือญี่ปุ่นในการยุทธนาวีที่เกาะคอรัล
(Coral Sea)ในเดือนพฤษภาคมและที่หมู่เกาะมิดเวย์ในเดือนมิถุนายน 1942 จึงทำให้เส้นทางอันตรายการเดินเรือเข้าสู่
อินเดียเปิดโล่งและว่างเว้นข้าศึก
ภารกิจต่อมากของฝ่ายสัมพันธมิตรคือทำอย่างไรจีนถึงจะรอดพ้นการทำสงคราม
กับญี่ปุ่น และการจะเข้าสู่เมืองคุนหมิงของจีนได้นั้นจำเป็นจะต้องสร้างเส้นทาง
จากรัฐอัสสัมของอินเดีย ซึ่งจะต้องหวนกลับไปยึดพื้นที่ด้านทิศเหนือและพื้นที่ส่วนกลางของพม่าเพื่อสร้างเส้นทางรถยนต์สายลาโด(Lado)-มยิตกีนา
(Myitkyina)- และบาโม(Bhamo)เพื่อเชื่อมต่อกับเส้นทางสายเดิมของพม่า
แต่เนื่องจากการจะกระทำสิ่งนี้ได้นั้นจะต้องใช้เวลาพอสมควร และมีการตัดสินใจร่วมระหว่างผู้บัญชาการทหารฝ่ายสัมพันธมิตรว่าจะต้องมีการส่งหรือลำเลียงโดย
เรือข้ามฟากทางอากาศเป็นระวางบรรทุก
โดยมอบหมายให้พลโทแคลร์ แอล. เช็น-
นอลต์เป็นผู้นำกองทัพอากาศที่ 14 เข้าปฏิบัติการในการจะนำกองทัพจีน 30 กองพลพร้อมยุทธสัมภาระเข้าสู่พื้นที่ ส่วนกองทหารจีนอีกส่วนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาถึงอินเดียในปี 1942 จะต้องเข้าอบรมและฝึกฝนทางระเบียบวินัยและการใช้อาวุธต่างๆของทางทหารและอยู่ในการควบคุมดูแลของพลโทโจเซฟ สติลเว็ล
ผู้ซึ่งต้องการให้กองทัพจีนมีความแข็ง
แกร่งโดยการประจุกำลังพล 10,000นาย
ในแต่ละกองพล โดยจะรับการสนับสนุน
ด้วยจำนวนรถถังและปืนใหญ่
ปี 1942-1943 พลเอกเซ่อร์ อาร์ชิบอลด์
วาเว็ลถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหาร
ในอินเดียและพยายามทุกวิถีทางในการจะยึดคืนประเทศพม่า จนกระทั่งเขามี
เสบียงและยุทธสัมภาระพร้อมกับกำลังพลเต็มอัตราศึกจึงเริ่มทำการเข้าโจมตีในเดือนตุลาคม 1942 ด้วยการบุกเข้าโจมตี
เมืองอัคยับ(Akyab)หรือเมืองซิตตะเว
(Sittwe)รัฐยะไข่โดยได้รับการสนับสนุนจากการยกพลขึ้นบกในเขตอ่าว เมืองมอง
ดอ(Maungdaw)และเมืองบูดิด่อง(Buthi-
daung)ถูกยึดคืนในวันที่ 17 ธันวาคม
ระหว่างเดือนกรกฏาคม 1942 พลเอก
เซ่อร์ วาเว็ลได้จัดตั้งหน่วยรบพิเศษ
ขึ้นมาอีก 1 กองพลน้อยทำหน้าที่บุกทะลวงและเข้าประจัญบานและรู้จักกันในชื่อกองพลน้อยชินดิตส์(Chindits)ในการบัญชาการของพลจัตวา(ยศสุดท้ายพลตรี)ออร์ด ซี. วินเกต (Brig. Gen
Orde C. Wingate)
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย