ไร่เลย์ จ.กระบี่ | สวรรค์ของนักปีนผา ที่คนธรรมดาก็พิชิตได้
ในโลกของการปีนผา ว่ากันว่า "ไร่เลย์" เปรียบดั่ง "สรวงสวรรค์"
น่าเสียดายที่ผมไม่ใช่นักปีนผาตัวยง จึงไม่กล้าที่จะยืนยัน(อย่างมีหลักการ) ว่าเสียงร่ำลือเหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่
แต่ในฐานะของคนที่มักจะท้าทายตัวเอง ด้วยการหาทำกิจกรรมโลดโผนโจนทะยาน และเคยเห็นทิวทัศน์สวยๆ มาบ้าง ผมพอจะบอกได้อย่างไม่ลังเลครับ ว่าไร่เลย์เป็นพิกัดที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับการมาพิชิตสัก(หลายๆ)ครั้งในชีวิต
เพราะการได้เฝ้ามองโพ้นทะเลอันดามันจากมุมสูง ด้วยสายตาของตัวเอง เป็นความรู้สึกที่พิเศษเกินกว่าจะอธิบาย
และเมื่อเวลานั้นมาถึง เราจะรู้ในทันทีเลยว่า ต่อให้ที่นี่ไม่ใช่สรวงสวรรค์ มันก็คงจะเป็นอะไรที่ใกล้เคียง
ไร่เลย์ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่
Day 1/3
ทริปนี้เรานั่งเครื่องบินไฟล์ทเช้ามาที่สนามบินกระบี่ และกระโดดขึ้นรถตู้ต่อมาที่ท่าเรืออ่าวน้ำเมา
หากจำเวลาไม่ผิด หลังจากเดินเล่นหาอะไรกินชิลๆ เสร็จแล้ว เราเดินทางจากท่าเรือตอนประมาณบ่ายโมงเศษๆ และถึงหาดไร่เลย์ตอน 13:30 น.
เรือจากท่าเรืออ่าวน้ำเมาไปหาดไร่ไลย์ ราคา 100 บาท ใช้เวลา 15 นาที
หลังจากเดินทางมาถึง สิ่งแรกที่เราทำคือเดินไปที่โรงแรมเพื่อเช็คอิน และเก็บสัมภาระ โดยทริปนี้เราจะใช้เวลาทั้งสิ้น 3 วัน 2 คืน และทั้งสองคืน จะพักกันที่ Avatar Railay ในราคา 1,500 บาทต่อคืน
แวะเช็คอินที่ Avatar Railay
หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว ก็ออกไปเดินเล่นชมบรรยากาศริมหาดแบบง่ายๆ ชิลๆ ครับ
เราค่อยๆ เดินกันไปเรื่อยๆ จนเจอหาดพระนาง จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ที่ว่ากันว่างดงามที่สุดในไร่เลย์...ถือเป็นการปิดท้ายวันแรกที่ดีเกินคาด
ออกไปเดินเล่นที่ชายหาด
มาโผล่ที่หาดพระนาง/เตะบอลกับชาวต่างชาติ
ชมพระอาทิตย์ตกดิน ก่อนจะกลับไปพักผ่อน
Day 2/3
8:00 น. ถึงเวลาที่รอคอย
วันนี้เราจะไปปีนผากันครับ โดยผมเลือกใช้บริการของ Railay Rock Climbing แบบ Full day private trip
ซึ่งข้อดีของการมาแบบ Private คือครูฝึกจะดูแลเรากับเพื่อนๆ เป็นการส่วนตัว ไม่รวมกับนักปีนผาคนอื่นๆ ซึ่งนั่นจะทำให้เราสามารถกำหนดโปรแกรมได้ตามใจชอบครับ เรียกว่าทุกอย่างสามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม และความต้องการของเราเองเลย
อย่างครั้งนี้โจทย์ของเราคือ "อยากได้มุมแบบว้าวๆ ที่คนไม่มีประสบการณ์ก็ไปพิชิตได้"
ซึ่งหลังจากปรึกษากับพี่เจนและพี่เจ สองครูฝึกผู้ใจดีของเราก็ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจว่า วันนี้จะมี 3 ภารกิจให้ทำคือ
1.ปีนขึ้นไปชมวิวที่ High Viewpoint
2.โรยตัวจาก Bat Cave
3.เหินหาวที่ Thaiwand Wall
ผลจะเป็นยังไงบ้าง เราตามไปดูกันเลยครับ
ถึงจุดนัดพบ Railay Rock Climbing ตอน 8 โมง
หลังจากส่วมใส่อุปกรณ์ที่ทาง Railay Rock Climbing เตรียมไว้ให้เสร็จเรียบร้อย ประมาณ 9 โมงเช้าก็ได้เวลาออกไปผจญภัย
โดยเป้าหมายแรกของวันนี้ เป็นการเดินผสมกับปีนป่ายแบบไม่ยากนัก แต่เหนื่อยเอาเรื่อง เพื่อขึ้นชมวิว High Viewpoint ที่พี่เจนบอกว่า "น้อยคนที่ได้เห็นวิวนี้ เพราะยังไม่ค่อยมีคนรู็จัก"
เดินผสมปีนป่ายขึ้น High Viewpoint
ถึงแล้ว...วิวสวยมาก!
เหมาะกับการฝึกวิทยายุทธ์!
หลังจากเต็มอิ่มกับวิว 360 องศาบน High Viewpoint เราก็ตัดสินใจปีนลงมาข้างล่าง เพื่อกินมื้อเที่ยงและมุ่งหน้าไปทำภารกิจถัดไป ซึ่งอยู่ในหาดพระนาง
เป้าหมายของเรามีชื่อว่า "Bat Cave" โดยเมื่อเดินไปถึงท้ายหาด ก็ต้องลัดเลาะเข้าดงไปเจอกับโถงถ้ำ ซึ่งก็น่าอัศจรรย์ใจดีครับ ที่สิ่งที่เห็นจากตรงนั้นมันให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่าลึก มากกว่าชายทะเลเสียอีก
ลึกลับ งดงาม น่าค้นหา
ปีนลงจากจุดชมวิว
มุ่งหน้าไปหาดพระนาง
เมื่อถึงท้ายหาดต้องเดินลุยดงเข้าไป
ถึงโถงถ้ำแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าทะเลจะมีถ้ำแบบนี้ด้วย
Bat Cave...ลึกลับ งดงาม น่าค้นหา
แต่ความงดงามของ Bat Cave ไม่ใช่จุดเด่นที่สุดของพิกัดนี้ เพราะคนส่วนใหญ่มาที่นี่และขึ้นไปจุดเกือบจะยอดสุดของถ้ำ เพื่อทำกิจกรรมสุดท้าทาย...นั่นคือการโรยตัว!
มันเป็นการโรยตัวที่เราไม่เพียงจะได้ตื่นเต้นกับความสูงและเสียวครับ แต่ทิวทัศน์ที่ได้เห็นจากบนนั้นยังอลังการมากอีกด้วย
โพ้นทะเลอันดามันจากมุมสูง 🧡
เราโรยตัวลงมาถึงพื้นตอนเกือบสี่โมงเย็นพร้อมกับความรู้สึกประทับใจในสิ่งที่ได้สัมผัส
เพียงแต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดของวันนี้ ยังมีอีกหนึ่งภารกิจให้ทำ และสำหรับมือใหม่อย่างเรา มันเป็นอะไรที่ท้าทายที่สุดเลยด้วย
ภารกิจที่ว่าจะต้องทำที่ "Thaiwand Wall" ซึ่งอยู่ห่างจาก Bat Cave ไปไม่ไกลนัก
พี่เจนและพี่เจนำเราปีนขึ้นไปบนหน้าผาเล็กราวๆ 15 นาที และสิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า คือกำแพงหินสูงตระหง่าน ที่ตัดตรงทำมุม 90 องศากับท้องทะเลสีฟ้าคราม
"เราจะปีนขึ้นไปบนหน้าผานั้น และถีบตัวออกมาลอยกลางอากาศ" พี่เจพูดพลางชี้นิ้วไปที่กำแพงสูง
ผมหันไปมองพี่เจกับพี่เจนด้วยสีหน้าตกใจ "พวกผมจะทำได้เหรอครับพี่?"
พี่เจนหัวเราะ แล้วบอกว่า "ได้อยู่แล้ว" จากนั้นก็ตบหลังพี่เจให้ขึ้นไปติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ และสาธิตการ "เหินหาว" ให้เราดูเป็นตัวอย่าง
โรยตัวเสร็จก็มุ่งหน้าไปทำภารกิจสุดท้าย
สวัสดี Thaiwand Wall
พี่เจสาธิตเป็นตัวอย่าง
และในที่สุดก็ถึงคิวของผม...
ผมค่อยๆ ปีนขึ้นไปบนกำแพงหินที่มองจากข้างล่าง แทบไม่เชื่อสายตาว่าตัวเองจะไต่ขึ้นมาสำเร็จ
"จากตรงนั้นแหละครับ ถีบตัวเองออกมาเลย" พี่เจตะโกนบอก
ผมเป่าปากเรียกสมาธิอยู่หลายครั้ง ก่อนจะกลั้นใจใช้ขาดันตัวเองออกมาลอยถลาลมอยู่กลางอากาศ ที่มีโพ้นทะเลอันดามันกับทิวเขาบนเกาะไร่เลย์เป็นฉากหลัง
"วู้วววววววววววววว์....!"
มันกลายเป็นความทรงจำที่ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่อาจจะลืม
ค่อยๆ ไต่ขึ้นไปทำภารกิจ
ทำสำเร็จแล้วโว้ย!!!
หลังจากทำทั้งสามภารกิจสำเร็จ พี่เจกับพี่เจนก็พาเราเดินกลับไปบริเวณที่พัก ในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น ผมจำได้ดีว่าตัวเองยิ้มตลอดเวลา เพราะเก็บความรู้สึกภาคภูมิใจเอาไว้ไม่อยู่
หากย้อนเวลากลับไปไม่กี่วันก่อน บอกตามตรง ผมไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าทำอะไรแบบนี้ครับ มันบ้าระห่ำมากๆ
มันคงจะเป็นจริงอย่างที่ใครคนนึงเคยตั้งสเตตัสลอยๆ ไว้ในเฟซบุ๊กว่า "อย่าดูถูกตัวเอง เราเป็นและทำได้มากกว่าที่เราคิด"
Well Said.
Day 3/3
เช้าวันสุดท้ายของการเดินทาง เราใช้เวลาไปกับการเดินเล่นที่หาดพระนางอีกครั้ง ซึ่งบรรยากาศในเช้าวันนั้นทั้งสวยและเงียบสงบ
จากนั้นเราก็เช็คเอาท์จากที่พัก หามื้อเที่ยงกินชิลๆ ก่อนจะนั่งเรือเข้าฝั่งช่วงบ่าย แล้วมุ่งหน้าไปสนามบินกระบี่ และถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพในตอนค่ำ เป็นอันจบภารกิจปีนผาที่ไร่เลย์โดยสมบูรณ์
หาดพระนางยามเช้า
จบทริปปีนผาไร่เลย์โดยสมบูรณ์
ข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับการปีนผาที่ไร่เลย์
1.หาดไร่เลย์ อยู่ในตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่
2.กิจกรรมเด็ดของที่นี่คือ "การปีนหน้าผา" ที่เด็ดจนถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์ของนักปีนผาทั่วโลก
3.ไร่เลย์มีเส้นทางปีนผามากกว่า 600 เส้นทางให้เลือก และมีทุกเลเวลด้วยนะ ตั้งแต่ง่ายมากไปจนถึงยากสุดๆ
4.ที่สำคัญคือวิวสวยมาก ผมเคยปีน 4-5 เส้น สวยบ้าบอคอแตกทุกเส้นเลย
5.สำหรับคนที่อยากลอง ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ก็มาได้นะครับ เริ่มนับหนึ่งที่นี่ได้เลย
6.ที่ไร่เลย์มีโรงเรียนสอนปีนผาให้เลือกเยอะมากครับ จะจองมาก่อนหรือ walk-in ก็ได้ ทุกที่ใช้ราคามาตรฐานเดียวกัน ดังนี้
-แบบครึ่งวัน 1,500 บาทต่อคน
-แบบเต็มวัน 2,600 บาทต่อคน (รวมอาหารเที่ยง)
-แบบ Private ครึ่งวัน 3,500 บาทต่อคน
-แบบ Private เต็มวัน 5,500 บาทต่อคน (รวมอาหารเที่ยง)
โดยราคาดังกล่าวรวมอุปกรณ์ด้วยนะครับ
7.สำหรับการปีนผาสามารถมาได้ทั้งปี เพราะในแต่ละเดือนก็จะมีมุมสวยๆ แตกต่างกันไป ตามองศาของพระอาทิตย์
8.สำหรับใครที่ไม่ชอบปีนผา ก็สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมอื่นๆ ได้สบายๆ เลยครับ บนไร่เลย์มีทั้งจุดชมวิวสวยๆ มีร้านอาหาร ดนตรีสด มีชายหาดให้เดินเล่น และอีกมากมายก่ายกองให้ทำ รับรองว่าไม่มีเบื่อ
9.แนะนำว่าควรจะมีเวลาสัก 3 วัน 2 คืน หรืออย่างน้อยๆ ก็ไม่ควยน้อยกว่า 2 วัน 1 คืน
10.สำหรับท่าเรือที่ใช้เดินทางไปที่ไร่เลย์ คือ ท่าเรืออ่าวน้ำเมา ราคา 100 บาทต่อคน ใช้เวลาเดินทางแค่ 15 นาที รู้สึกว่าเรือจะออกทุกๆ ชั่วโมงเลยครับ หรืออาจจะถี่กว่านั้นด้วยซ้ำ
11.ส่วนที่พักก็มีหลากหลายราคาให้เลือกครับ ตั้งแต่หลักร้อย พัน ไปจนถึงหมื่น ซึ่งเราก็สามารถเลือกได้ตามสะดวก
"แล้วเจอกันใหม่นะไร่เลย์"
เรื่องราวจากไร่เลย์จบแล้วครับ หวังว่าจะชอบและมีประโยชน์กับคนที่สนใจบ้างไม่มากก็น้อย
เหนือสิ่งอื่นใด ขอขอบคุณจากใจที่อ่านมาจนบรรทัดสุดท้าย แล้วเจอกันใหม่ในบทความต่อๆ ไปนะครับ
ด้วยรักและสวัสดี
หมาก.
ให้การเดินทางของผม
เป็นหนังสือเล่มโปรดของคุณ
The Walker
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
