30 เม.ย. 2023 เวลา 06:42 • กีฬา

ปากเก่งจนโดนคนเกลียด ดราม่าเมมฟิส กรีซลีย์ โดนเลเกอร์สั่งสอน

ในโลกของกีฬานั้น ความมั่นใจเป็นสิ่งดี แต่ถ้ามั่นใจมากเกินไป จนขาดความเคารพคู่แข่ง มันอาจจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า "Backfire" หรือคำพูดนั้นย้อนกลับมาเล่นงานตัวเอง
ในเดือนธันวาคม 2022 ช่อง ESPN จัดเซสชั่นสัมภาษณ์ 4 ซูเปอร์สตาร์ของ NBA ได้แก่ จา มอแรนต์ (เมมฟิส กรีซลีย์), ลูก้า ดอนซิช (ดัลลัส แมฟเวอร์ริคส์), เจสัน เทย์ทัม (บอสตัน เซลติคส์) และ โดโนแวน มิตเชลล์ (คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส)
มาลิก้า แอนดรูว์ พิธีกรของ ESPN ก็ถามไปเรื่อยๆ จนมาถึงประเด็นสำคัญ เธอถามมอแรนต์ว่า "ใน NBA ตอนนี้ คุณคิดว่าทีมไหนอันตราย และต้องระวังตัวบ้าง"
มอแรนต์ตอบว่า "เซลติคส์" แค่ทีมเดียว แล้วเงียบ
พิธีกรถามต่อว่า "แล้วในฝั่งตะวันตกล่ะ ไม่มีเลยหรือ?"
มอแรนต์ ตอบประโยคคลาสสิคว่า "ไม่ล่ะ ผมสบายดีกับฝั่งตะวันตก" (No, I'm fine in the west)
ก่อนอื่นต้องอธิบายว่า NBA จะแบ่งการแข่งขันเป็นสองฝั่งคือ ตะวันออก และ ตะวันตก คือฝั่งตะวันตกนั้นนอกจากกรีซลีย์แล้ว ก็มีทีมเก่งๆ เต็มไปหมด เช่น โกลเด้นสเตต วอร์ริเออร์ส แชมป์ทีมล่าสุด, แอลเอ เลเกอร์ส ที่มีเลอบรอน เจมส์, ฟีนิกซ์ ซันส์ ที่มีเดวิน บูเกอร์ รวมถึงซาคราเมนโต้ คิงส์ ที่มาแรงมากๆ ในซีซั่นนี้
ยังไม่นับเดนเวอร์ นักเกตส์ ที่มีนิโกล่า โยคิช MVP สองสมัยเป็นแกนหลัก ที่สำคัญยังมีดัลลัส แมฟเวอร์ริคส์ ซึ่งลูก้า ดอนซิช ก็นั่งอยู่ข้างๆ มอแรนต์ตอนนั้นด้วย
สื่อในสหรัฐฯ บอกว่า มอแรนต์จงใจ Diss ฝั่งตะวันตกทั้งหมด ว่าไม่มีทางต้านทานกรีซลีย์ได้ และจงใจไม่ Respect ใครเลยแม้แต่คนเดียว
การพูดแบบนี้ ทำให้แฟนๆ ทีมอื่น มีความหมั่นไส้ความคะนองของมอแรนต์ และ รอจะเหยียบซ้ำกรีซลีย์ทันที ขอแค่อย่าพลาดมาละกัน
หลังจากพูดประโยคนั้นเสร็จ การแข่งขันฤดูกาลปกติก็ดำเนินกันต่อไป กรีซลีย์ ก็เล่นได้ดีตามมาตรฐาน จบซีซั่นด้วยการเป็นอันดับ 2 ของสายตะวันตก (ชนะ 51 แพ้ 31) และเป็นหนึ่งในตัวเต็งแชมป์ฤดูกาลนี้
2
กรีซลีย์ ลงเล่นเพลย์ออฟ รอบแรก เจอกับแอลเอ เลเกอร์ส อันดับ 7 ของสายตะวันตก
สำหรับเลเกอร์สในปีนี้ มีความทุลักทุเลพอตัว ต้องผ่านรอบเพลย์-อินเข้ามาด้วยซ้ำ ดังนั้นสำนักพนันถูกกฎหมายทุกแห่งเชื่อว่า กรีซลีย์ได้เปรียบเยอะ และมีโอกาสชนะมากกว่า
อีกหนึ่งตัวละคร ที่มีบทบาทมากๆ กับทีมกรีซลีย์ มีชื่อว่า ดิลล่อน บรู๊คส์ ผู้เล่นวัย 27 ปีชาวแคนาดา โดยบรู๊คส์ถูกขนานนามว่า NBA's next villian (ตัวร้ายคนต่อไปแห่ง NBA)
เขาเป็นคนเล่นแรง เล่นนอกเกมเป็นประจำ ในฤดูกาล 2022-23 เป็นผู้เล่นที่ทำเทคนิคัล ฟาวล์ (ฟาวล์จงใจ) มากที่สุดใน NBA ด้วยจำนวน 18 ครั้ง
ตามกฎของ NBA ระบุว่า ใน 1 ฤดูกาล ถ้าคุณทำเทคนิคัลฟาวล์ 16 ครั้ง จะโดนแบน 1 นัด จากนั้นอีกทุกๆ 2 เทคนิคัลฟาวล์ จะโดนแบนเพิ่มอีก 1 นัด เท่ากับว่าดิลล่อน บรู๊คส์ โดนแบนไปแล้ว 2 นัดในซีซั่นนี้
ไม่ใช่แค่ฟาวล์ในเกม แต่เขายังเล่นนอกเกมบ่อยมาก เช่น เอาศอกไปอัด โดโนแวน มิตเชลล์ ที่โคนขาหนีบเกือบโดนเป้า จนเกิดเหตุวิวาทขึ้น ตำรวจต้องลงมาระงับเหตุ
เขาเคยอัดแกรี่ เพย์ตัน กลางอากาศจนข้อศอกหัก รวมถึงเคยผลักช่างภาพที่ทำงานอยู่ดีๆ จนล้มกลิ้ง NBA ต้องสั่งปรับเงิน 35,000 ดอลลาร์
มีคำกล่าวว่า ทีมที่จะเป็นแชมป์ได้ ต้องมีแบดบอยอยู่บ้าง เหมือนที่ชิคาโก้ บูลส์ มีเดนนิส ร็อดแมน หรือ โกลเด้นสเตต มีเดรย์มอนด์ กรีน ฝั่งกรีซลีย์ก็มีดิลล่อน บรู๊คส์คนนี้นี่แหละ เป็นตัวแสบสุดๆ
ในการแข่งขันเพลย์ออฟ เริ่มต้นขึ้น เกมแรกเลเกอร์ส เอาชนะ กรีซลีย์ ไปได้ก่อน 1-0 เกม แต่กรีซลีย์เอาคืนเกมต่อมา ตีเสมอเป็น 1-1
1
สิ่งที่บรู๊คส์พยายามทำ คือเล่น Mind Game กับเลอบรอน เจมส์ ตำนานวัย 38 ปี ของเลเกอร์สตลอดเวลา น่าจะเป็นการทำให้รู้ว่า "จะเป็นใครมาจากไหน กูก็ไม่กลัวมึง"
ตัวอย่างเช่น ในเกมที่สอง ตอนบรู๊คส์ชู้ตสามแต้มลงลูกแรก เดินเข้าไปจ้องหน้าเลอบรอนแบบหาท้าทายอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีการพูดจา Trash Talking ใส่ตลอดเกม แต่ฝั่งเลอบรอนก็ไม่ได้อยู่เฉย มีพูดสวนกลับมาบ้างเหมือนกัน เช่น แซะบรู๊คส์ว่าเสียฟาวล์โง่ๆ เป็นต้น
หลังจบเกมที่สอง นักข่าวไปถามบรู๊คส์ว่า มันไม่เหมาะสมหรือเปล่า ที่จะทำกริยาแบบนั้น ใส่ผู้เล่นที่เป็นตำนานของลีกอย่างเลอบรอน โดยบรู๊คส์ตอบกลับไปว่า "ผมไม่สนใจหรอก เขามันก็แค่ไอ้แก่ เขาไม่ควรมาพูดกับผมตอนผมเสียฟาวล์ครั้งที่ 4 แบบนั้น แต่ผมก็ไม่สนหรอก ผมไม่เคารพใครทั้งนั้นจนกว่าไอ้หมอนั่นจะมาทำ 40 แต้มต่อหน้าผม"
เลอบรอน เจมส์ เคยลงเล่นปะทะกับบรู๊คส์ มาทั้งหมด 13 ครั้ง แต่ไม่เคยทำแต้มได้เกิน 34 แต้ม ดังนั้นบรู๊คส์ก็เลยด่าว่า อย่ามาทำเป็นเก๋า ยิงได้ 40 แต้มใส่กูก่อนเหอะ ค่อยหวังความเคารพ
เรื่องนี้เป็นดราม่าทันที เพราะผู้คนมองว่า บรู๊คส์เล่น "ข้ามรุ่น" เลอบรอนคือ Legend ที่ยังเล่นอยู่ เขาได้แชมป์ NBA มาแล้ว 4 สมัย MVP อีกนับไม่ถ้วน และในปีหน้าเมื่ออายุเข้า 39 ปี ก็จะเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในลีกด้วย
แต่ตัวบรู๊คส์เพิ่งมาพุ่งทะยานช่วงหลังนี่เอง ยังไม่เคยติดทีมออลสตาร์เลยสักครั้ง จะมาทำเก๋าอะไรเกินเบอร์ มีมารยาทกันหน่อยก็ได้
ก่อนเกมเพลย์ออฟ นัดที่ 3 จะเริ่มขึ้น เลอบรอน เจมส์ เดินเข้าไปหาบรู๊คส์ตรงๆ เลย แล้วพูดเตือนในลักษณะรุ่นพี่ในวงการว่า "คำพูดต่างๆ ที่นายพูด มันไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัวเลยนะ เพราะทุกคนจับตาดูอยู่ ทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม"
แต่บรู๊คส์ไม่รับฟัง แล้วสวนกลับมาว่า "มันไม่มีอะไรต้องมาส่วนตัวกันอยู่แล้ว ก็เปิดเผยมันไปเลยสิ ผมชอบแบบนั้นมากกว่า"
การแข่งเกมที่ 3 เริ่มต้นขึ้น ในควอเตอร์ที่ 3 เลอบรอน กำลังเลี้ยงบอลอยู่ บรู๊คส์เข้ามาประกบ แล้วไปต่อยบริเวณโคนขาหนีบของเลอบรอน จนร่วงไปกองกับพื้น ผู้ตัดสินเดินมา และไล่บรู๊คส์ออกจากสนาม เพราะเป็นการฟาวล์รุนแรง Flagrant 2
หลังโดนไล่ออก บรู๊คส์ ด่ากรรมการว่า โดนอิทธิพลของสื่อปั่นหัวสร้างภาพเขาเป็นตัวร้าย ก็เลยตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม
เกมที่ 3 เลเกอร์ส ชนะ กรีซลีย์ ขึ้นนำ 2-1 เกม เข้าสู่เกมที่ 4 กรีซลีย์เล่นได้ย่ำแย่มากๆ แล้วแพ้ไปอีก ทำให้เลเกอร์สขึ้นแท่น นำเป็น 3-1 เกม
ในเกมที่ 4 เลอบรอน เจมส์ เล่นได้เด่นที่สุด ทำไป 22 แต้มกับอีก 20 รีบาวด์ ทำให้ชาคิล โอนีล นักบาสคนดังออกมาเยาะเย้ยบรู๊คส์ว่า "เขาบอกว่าจะไม่เคารพเลอบรอนถ้าทำไม่ถึง 40 แต้ม แต่อย่าลืมว่า 20+20 ก็คือ 40 เหมือนกันนะ"
เกมที่ 5 กรีซลีย์ ลดบทบาทของบรู๊คส์ลงจากเดิม เขาเป็น 5 ตัวจริงที่ได้เล่นจำนวนนาทีน้อยที่สุด และสุดท้ายกรีซลีย์ทำได้ เอาชนะนัดนี้ จี้ขึ้นมาเป็น 3-2 เกม ยังไม่ยอมแพ้ในซีรีส์
ก่อนจะเริ่มเกม 6 มีประเด็นของฝั่งกรีซลีย์อีก เมื่อเดสมอนด์ เบน ผู้เล่นอีกคน ให้สัมภาษณ์ว่า "เราจะกลับไปเล่นเกมที่ 7 ต่อหน้าแฟนๆ ของเราที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน NBA" คือคนก็แซวว่า พี่เอาเกม 6 ให้รอดก่อนดีไหม สนใจเกมที่อยู่ตรงหน้าก่อน เลเกอร์สก็ไม่ได้หมูที่จะมองข้ามได้เลยนะ
พอเข้าสู่เกมที่ 6 เลเกอร์ส เล่นได้เหนือกว่าแบบคนละโลก และเอาชนะไปได้อย่างเละเทะ 125-85 คะแนน ปิดซีรีส์ได้สำเร็จ 4-2 เกม กรีซลีย์ตกรอบไปอย่างน่าเจ็บปวด
หลังจากกรีซลีย์แพ้ปั๊บ ผู้คนจึงย้อนเอาทุกเหตุการณ์ที่ผู้เล่นกรีซลีย์เคยอหังการเอาไว้ ออกมาเย้ยหยันกันรัวๆ
เช่น จา มอแรนต์ กับประโยคว่า "I'm fine in the west" สบายดีไหมล่ะตอนนี้ ร่วงตกรอบแรกไปแล้วนะ
ตามด้วย ดิลล่อน บรู๊คส์ ที่เคยบอกว่า ถ้าไม่โดนยิง 40 แต้ม จะไม่มีความเคารพเลอบรอน ประเด็นคือ ในเกมที่ 6 นัดสุดท้ายของซีรีส์ เลเกอร์สชนะ 125-85 ห่าง 40 แต้มพอดีเป๊ะ ผู้คนเลยบอกว่า 40 แต้มแบบนี้ พอจะ Respect กันได้หรือยัง
และอีกคนที่โดนแซะ คือเดสม่อนด์ เบน ที่บอกว่าจะกลับไปเล่นเกมที่ 7 ต่อหน้าแฟนๆ แต่สิ่งที่เห็นคือ ซีรีส์จบลงแค่ 6 เกม ไม่ต้องเล่นถึงเกม 7 ด้วยซ้ำ
บทสรุปของเรื่องนี้ นักข่าวจากซีบีเอสที่สหรัฐฯ วิจารณ์ว่า กรีซลีย์ปล่อยให้เรื่องน่ากวนใจนอกสนาม ทำลายสมาธิผู้เล่นจนหมด นอกจากนั้นการออกมาพูดที่ไร้สาระ ยิ่งทำให้มีศัตรูเพิ่มขึ้น ไม่เป็นผลดีต่อสภาพจิตใจของทีมเลย ตรงข้ามกับฝั่งเลเกอร์ส ที่โฟกัสในการแข่งอย่างเดียว พยายามลดดราม่าให้มากที่สุด
แล้วเกมเพลย์ออฟ ทุกคนทราบดี ว่ามันไม่ใช่แค่ฝีมือแล้ว แต่มันตัดสินว่าใครจะมี "สติ" ดีกว่ากัน ในเมื่อกรีซลีย์คุมสติไม่ได้ จึงต้องร่วงตกรอบในที่สุด
สำหรับเลอบรอนนั้น เขาไม่ตอบโต้อะไรฝั่งกรีซลีย์เลย ตั้งใจซ้อมกันไป โดยใน 6 วันที่ผ่านมา เขาไม่ได้โพสต์อะไรในอินสตาแกรมแม้แต่รูปเดียว คือสนใจแต่เกมที่จะลงแข่งล้วนๆ
แต่หลังจากชนะกรีซลีย์ 4-2 เข้ารอบเรียบร้อย เลอบรอนโพสต์รูปเขากำลังแหกปากสะใจแล้วเขียนแคปชั่นว่า "ถ้าคุณเข้าไปในป่า แล้วเห็นผมกำลังต่อสู้อยู่กับหมีกรีซลีย์ ไปช่วยหมีซะ!"
2
สำหรับรอบต่อไป เลเกอร์ส จะเข้าไปเจอกับผู้ชนะระหว่างโกลเด้นสเตท วอร์ริเออร์ส กับ ซาคราเมนโต้ คิงส์ ที่เสมอกันอยู่ 3-3 เกมในซีรีส์ และนี่จะเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่เลอบรอนจะมีลุ้นแชมป์ NBA
1
ขณะที่กรีซลีย์ก็ต้องเลียแผลใจกันไป เป็นอีกครั้งที่พวกเขาตกรอบเร็วในเพลย์ออฟ
และเป็นบทเรียนสำคัญกับทุกๆ คนว่า การปากกล้าสามารถทำได้ แต่ถ้าคิดจะปากกล้าแล้วล่ะก็ ต้องทำใจด้วย ว่าในวันที่คุณเป็นผู้แพ้ จะต้องโดนกระแสตีกลับอย่างหนัก จนเจ็บตัวสาหัสแบบนี้นี่เอง
โฆษณา