3 พ.ค. 2023 เวลา 02:44 • ท่องเที่ยว
อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก

"ม่อนจองที่จองแล้วไม่ได้ไป สุดท้ายต้องไปห่มใจที่ผ้าห่มปก"

ขอประเดิมความป่วงครั้งแรกในเพจด้วยทริปเดินป่าสั้น ๆ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา
.
เหตุเกิดจากช้างป่าลงพื้นที่ประจำปี (ปีที่แล้วก็ช่วงมกราคม มีข่าวนักท่องเที่ยวถูกช้างเหยียบได้รับบาดเจ็บ)
.
เรารู้ล่วงหน้าเพียง 1 วัน
.
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากกกกก
รู้วันนี้ว่าอดไป ทั้งที่ต้องเดินทางพรุ่งนี้
.
แผนใหม่ถูกสร้างขึ้นในคืนเดียว
.
จริง ๆ เรามีเส้นทางในใจที่อยากนำเสนอทุกคน แต่เสียงแตก!
.
ทางเลือกแรก คือ ผาแง่มหรือผาสองฤดู
ทางเลือกที่สอง คือ ดอยปุย (เดินเท้าตั้งแต่เส้นวัดผาลาดขึ้นไป)
1
"นู่น ๆ ตรงนู้นสวยยยยยยยย"
เงื่อนไขคือ เพื่อนในทริป 1 คนต้องเช่าเตนท์
.
จึงต้องตัดแผนแรกไปโดยปริยาย ถึงแม้ว่าเพื่อนจะอยากไปมากก็ตาม จึงลงเอยที่ดอยปุย เพราะเวลากระชั้นและก็เคยได้เดินเส้นทางเทรลลับขึ้นดอยสุเทพมาแล้วรอบนึงแต่ยังไปไม่ถึงปุย ก็เลยอยากชวนลูกทริปไปบ้าง
.
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ทั้งสองทางนั้น มีเส้นทางผุดขึ้นมาใหม่กลางดึก...เมื่อเราก็รู้สึกอยากให้ทุกคนสนุก ไม่รู้สึกว่ามาแล้วเสียเที่ยว ได้ไปในที่ที่อยากไป
.
ก็เลยมาลงเอยที่ ดอยผ้าห่มปก ดอยที่สูงเป็นอันดับที่ 2 ของไทย
ตอบโจทย์เพื่อนที่ไม่อยากไปดอยปุย (อาจเพราะรู้สึกมันใกล้) และเพื่อนที่ต้องเช่าเตนท์…โอเค แผนนี้แหละ!
รถที่เราจะนั่งไปฝางกันนนนนนนน (คันเดียวกับที่นั่งกลับมาจากเชียงดาว) เห็นแบบนี้เขาไม่ได้หวานเย็นอย่างที่คิดนะ โชเฟอร์ก็ซิ่งใช้ได้เลย😎 ราคา 97 บาทต่อหัว จากต้นสายจนสุดสาย
เราที่เพิ่งลงมาจากเชียงดาวเมื่อวันก่อน ก็เลยต้องนั่งรถคันเดิม เชียงใหม่-ท่าตอนกลับไป แต่คราวนี้เลยไปไกลถึงฝาง
.
รถตุเลง ๆ ไปตามทาง คดเคี้ยวผ่านไชยปราการ อำเภอจิ๋ว ๆ ระหว่างเชียงดาวและฝาง ทางเดียวกันกับไปดอยอ่างขาง หากมาจากเชียงใหม่
.
เรานั่งกันจนป้ายสุดท้าย
ท่ารถที่เราชอบมากกกกก ๆ ถ้าไม่โดนม่อนจองเท ก็คงไม่ได้เจอท่ารถที่นี่...เร็วขนาดนี้
แล้วก็เจอป้ายรถเมล์ที่โคตรน่ารักเลยยยยยย ที่นั่งพักเป็นเบาะเก่าบนรถเมล์ที่ไม่ใช้แล้ว (มั้ง) ตั้งอยู่ใต้ร่มต้นหูกระจงที่แผ่กิ่งก้านร่มรื่น มองดูแล้วช้อบชอบ
.
พี่วินมอไซค์จอดเรียงกันรอลูกค้ากันเป็นระเบียบ เราไม่รีรอเดินเข้าไปถามราคา “ไปน้ำพุร้อนฝางคนละ 120 ครับ” สตั๊นเล็กน้อยแล้วผละไป
.
เพราะความตั้งใจคือเหมาสองแถว น่าจะดีกว่าสำหรับ 5 คนพร้อมกระเป๋าเป้ใบใหญ่คนละใบ
สภาพกระเป๋าแต่ละคน เราทิ้งกระเป๋ากันไว้ที่นี่ แบบไม่กลัวของหาย ก่อนจะข้ามฝั่งถนนไปหาอะไรรองท้อง
แต่แล้วก็โชคดีได้สองแถวเหลือง ด้วยความช่วยเหลือของแม่ค้าในร้านบะหมี่ยูนนานฝั่งตรงข้ามท่ารถที่เราแวะฝากท้อง ในราคามิตรภาพ 300 บาทต่อเที่ยว!
รถสองแถวสีเหลืองที่มารับพวกเรามาส่งถึงอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก สนนราคา 300 บาทต่อคัน ขายังไม่ก้าวลงจากรถดี ป้า ๆ ก็เข้าชาร์จขายสตรอว์เบอร์รี่กันเลย
ไปถึงน้ำพุร้อนฝาง หรือที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ต้องไปลงทะเบียนเหมารถโฟร์วีลขึ้นไปที่ “กิ่วลม” ลานกางเตนท์ที่สูงที่สุดในไทย…1,924 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
.
ที่ดอยผ้าห่มปกจริง ๆ มีลานกางเตนท์อื่นอีก แต่ถ้าต้องการเดินขึ้นยอดต้องมานอนที่นี่เท่านั้น
.
เพราะเริ่มเดินตั้งแต่ตี 4
.
อารมณ์การกางเตนท์ที่นี่คือเป็นอุทยานเลย อาจจะไม่เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศนอนในป่าขนาดนั้น
.
ไฟคาดหัวสว่างขึ้นเมื่อถึงเวลา
5 ชีวิต 3 เตนท์
ความเย็นประมาณ 7-8 องศาทำให้คนขี้หนาวอย่างเราสะท้านมาก
ไม่มีใครตายเพราะความเหนื่อยจากการเดินเขา แต่อาจจะตายเพราะอากาศหนาว
แผนพัง
.
ระยะทางเพียง 3.5 กิโลเมตร ก็พาไปถึงจุดสูงสุดของดอยผ้าห่มปก เรารอพระอาทิตย์ค่อย ๆ ขึ้นเพื่อชมแสงแรกอย่างที่ทำกันปกติ แล้วค่อยทยอยเดินลงจากยอดเมื่อแดดไล่หลัง
ไม้ใหญ่และไกด์น้อย กิ่งเค้าสวยม้ากกกกกก🤩
แม้ที่นี่จะไม่ได้ผจญภัยเท่าอีกหลายที่ แต่เราก็รู้สึกว่าเป็นที่ที่ใครก็แวะมาห่มใจกันได้ ในยามคับขัน (เพราะเราดันเจอแก๊งที่โดนม่อนจองเท แล้วมาซบที่นี่เหมือนกัน5555)
.
และเราก็จะไม่ล้มเลิกการจองม่อนจองในปีถัดไปด้วย
.
ดูซิว่าช้างจะเป็นใจมั้ยรอบนี้
ยอดดอยที่สูงอันดับที่สองของไทย มาได้ง่าย ๆ สบาย ๆ เลย คนไม่เคยเดินเราว่าก็มาได้นะ ลองดู
❎แพลนเดิม
- จองทริปล่วงหน้า 1 เดือน ผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านห้วยปูลิง (เส้นทางใหม่) หรือ บ้านมูเซอ (เส้นทางเก่า)
- นัดขึ้นรถสองแถวที่ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่เวลาตี 5
- เดินขึ้นเขาพร้อมข้าวห่อที่ศูนย์บริการเตรียมให้ มีเตนท์ให้เช่าพร้อม
- อาหารมีเตรียมให้อย่างดี มีหมูกระทะ แต่ขอผ่านดีกว่า
- กลับลงมาถึงเชียงใหม่ประมาณ 1 ทุ่ม
- ขึ้นรถทัวร์รอบสุดท้าย 2 ทุ่มครึ่งกลับกรุงเทพฯ
✅แพลนใหม่
- ไม่ได้จองทริป วอล์กอินได้เลย
- ขึ้นรถสายเชียงใหม่-ท่าตอน ที่สถานีขนส่งช้างเผือก
- เหมารถสองแถวเหลืองเข้าอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก (น้ำพุร้อนฝาง)
- เหมารถโฟร์วีล (4x4) ขึ้นลานกางเตนท์กิ่วลม คันนึงได้ 8 ที่ ราคาไปกลับ 1,800 บาท ถ้ามาคนน้อยต้องรอลุ้นคนเต็ม ไม่งั้นต้องเหมาเลย
- อาหารหอบขึ้นไปประกอบเอง หรือสามารถซื้อร้านสวัสดิการของอุทยานได้
- ขากลับลงมาโชเฟอร์ใจดีไปส่งถึงท่ารถเลย
- นั่งรถเชียงใหม่-ท่าตอนกลับเส้นทางเดิม และรอขึ้นรถทัวร์รอบสุดท้ายกลับตอนสองทุ่มครึ่งเหมือนแผนเดิม
ถ้าเป็นแผนนี้เราสามารถกลับโดยรถไฟได้ เพราะเหลือเวลาระหว่างรอหลายชั่วโมง แต่จองรถทัวร์ไปแล้วไม่มีใครอยากทิ้งตั๋ว จึงต้องกลับกันสภาพเดิมที่นครชัยแอร์ ใครอยากเร็วก็กลับเครื่องได้ แต่เราไม่อยากต้องมายุ่งเรื่องโหลดกระเป๋าอีก
โฆษณา