Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
รหัสวิทยา
•
ติดตาม
3 พ.ค. 2023 เวลา 03:31 • ปรัชญา
สรุปวิธีการพยากรณ์(ยูเรเนี่ยน)
1. พยากรณ์โดยการใช้ “ตำแหน่งสัมพันธ์” แต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการพิจารณาถึงอิทธิพลของดาวเคราะห์หรือปัจจัยในจักรราศีหรือเรือนชะตา
2. กำหนดให้ตำแหน่งสัมพันธ์ “สะท้อน” มีความสำคัญเสมือนกับตำแหน่งสัมพันธ์กับปัจจัยชนิดต่างๆทั่วไป
คำว่าตำแหน่งสัมพันธ์สะท้อนหมายถึงการที่ดาวเคราะห์หรือปัจจัยหนึ่งไปสถิตได้ตำแหน่งสัมพันธ์กับ “จุดสะท้อน” ของดาวเคราะห์หรือปัจจัยอีกดวงหนึ่ง
“จุดสะท้อน” หมายถึงจุดสะท้อน(หรือเงา)อันเกิดจากแกนโลก(แนว กรกฎ-มกร) หรือศูนย์สูตรโลก (แนว เมษ-ตุล)
ในทางทฤษฎีถือแกนโลกเป็นหลัก แต่ในทางปฏิบัติจะถือศูนย์สูตรโลกเป็นหลักแทนเพราะง่ายแก่การคำนวณ
สมผุสของจุดสะท้อนอาจคำนวณได้ตามสูตร “เมษ+เมษ-ดาว” (หรือ 360 องศา-ดาว)
ตัวอย่างเช่น ดาวพฤหัสสถิตราศีเมถุน 23 องศา 30 ลิปดา(แปลเป็นค่าองศาคือ 83 องศา 30 ลิปดา)
ดังนั้นสมผุสของจุดสะท้อนดาวพฤหัสคือการเอา 360 องศาไปลบ 83 องศา 30 ลิปดา แล้วแปลค่ากลับไปเป็นราศี ผลลัพธ์คือตำแหน่ง ราศีมกร 6 องศา 30 ลิปดา ตำแหน่งนี้ก็คือจุดสะท้อนของดาวพฤหัส
ดังนั้นหากดาว A มาสถิติที่ราศีเมษ 6 องศา 28 ลิปดา หมายความว่าดาว ก. นี้ก็จะได้ตำแหน่งสัมพันธ์กับจุดสะท้อนของดาวพฤหัส (สัมพันธ์กันด้วยมุม 90 องศา ระยะวังกะไม่เกิน 10 ลิบดา)
3. ดาวเคราะห์หรือปัจจัยใดๆ ก็ตามหากสถิตได้ตำแหน่งสัมผัสกันกับดาวเคราะห์หรือปัจจัยนั้นๆ จะผสมอิทธิพลกันเหมือนกับการผสมธาตุในวิชาเคมี
ตัวอย่างเช่น อังคาร=พฤหัส
ดังนั้นตรงตำแหน่งของดาวอังคารจะมีอิทธิพลที่เป็น “กิจกรรมที่ก่อให้เกิดความสุข” ส่วนที่ตำแหน่งของดาวพฤหัสบดีจะมีอิทธิพลเป็น “ ความสุขจากการทำงาน” เช่นนี้เป็นต้น
4. ปัจจัยและดาวเคราะห์ที่แสดงอิทธิพลเป็น “เจ้าชะตา” ในดวงชะตาคือ “เมอริเดียน เมษ อาทิตย์ ลัคนา จันทร์ ราหู” นิยมเรียกจุดเหล่านี้ว่า “จุดเจ้าชะตา”
จุดเจ้าชะตาทั้ง 6 นี้จะแทนตัวแทนเจ้าชะตาในฐานะต่างๆ กันกล่าวคือ
จุดเจ้าชะตากลุ่มแรกมีอิทธิพลเป็น “เจ้าชะตา” โดยตรงได้แก่
เมอริเดียน มีอิทธิพลเป็น “สัญชาตญาณ” ของเจ้าชะตา (ตัวกู)
จันทร์ มีอิทธิพลเป็น “จิตสังขาร” ของเจ้าชะตา (ใจหรืออารมณ์)
อาทิตย์ มีอิทธิพลเป็น “กายสังขาร” ของเจ้าชะตา (ร่างกาย)
และกลุ่มที่สองมีอิทธิพลเป็น “เจ้าชะตา” ทางอ้อมได้แก่
ราหู มีอิทธิพลเป็น “สัญชาตญาณในการรวมกลุ่ม”
ลัคนา มีอิทธิพลเป็น “สิ่งแวดล้อม”
เมษ มีอิทธิพลเป็น “โลก” (ในความหมายอย่างกว้าง)
หมายความว่าหากมีดาวดวงใดมาทำมุมสัมพันธ์เข้ากับจุดเจ้าชะตาเหล่านี้ อิทธิพลของดาวดวงนั้นย่อมส่งผลถึงชีวิตของตัวเจ้าชะตาตามแง่มุมซึ่งเป็นความหมายหรือคุณสมบัติของจุดเจ้าชะตานั้นๆ
5. ตรงจุดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพระเคราะห์หรือปัจจัยคู่ใดๆ ก็ตาม จะมีคุณสมบัติคล้ายกับเป็นดาวพระเคราะห์อีกดวงหนึ่ง และมีอิทธิพลที่เป็นการผสมอิทธิพลระหว่างปัจจัยคู่นั้นๆ เข้าด้วยกัน
วิชาโหราศาสตร์เรียกจุดดังกล่าวนี้ “ศูนย์รังสี”
ตัวอย่างเช่น จุดกึ่งกลางระหว่างดาวพุธกับดาวพฤหัส (ME/JU) จะมีอิทธิพลเป็นอิทธิพลผสมกันระหว่างดาวพุธกับดาวพฤหัส คือ “อารมณ์ดี” หรือ “ช่างพูด” เป็นต้น
6. ใช้สิ่งที่เรียกกันว่า “จุดอิทธิพล” สำหรับพยากรณ์ในรายละเอียดต่างๆ ที่ดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยเพียงดวงเดียวไม่สามารถให้คำพยากรณ์ชี้ชัดได้ (ศูนย์รังสีก็คือจุดอิทธิพลชนิดหนึ่งเหมือนกัน)
:)
เรียบเรียงจากหนังสือ : “คัมภีร์พระเคราะห์สนธิ”
เขียนโดย : อาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย