ความเสี่ยง การผลิตชิป ของไต้หวัน คือ “น้ำไม่พอ”
ถ้าถามว่า นอกจากปัจจัย 4 แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คืออะไร หลายคนคงตอบว่า โทรศัพท์มือถือ..
ปัจจุบันรอบตัวเราถูกรายล้อมด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัยเหล่านี้ ก็คือ “ชิป”
หลายคนคงยังไม่รู้ว่า ชิป ต้องใช้น้ำและทรายเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต
โดยเฉพาะทรัพยากรสำคัญอย่าง “น้ำ” ที่ไต้หวันกำลังเริ่มประสบกับปัญหาน้ำไม่เพียงพอต่อการผลิตอีกด้วย
อุตสาหกรรมชิปใช้น้ำในการผลิตเยอะแค่ไหน
ทำไมไต้หวัน ถึงเจอปัญหาน้ำไม่เพียงพอต่อการผลิต ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
กว่าที่เราจะได้ “ชิป” หรือ “วงจรรวม” มา 1 ตัวนั้น
จะต้องผ่านขั้นตอนการผลิตมากมาย
เริ่มตั้งแต่การนำทราย มาสกัดให้กลายเป็นแท่งซิลิคอน จากนั้นจึงนำมาตัดเป็นแผ่นบาง คล้ายกับขนมเวเฟอร์
พอได้แผ่นเวเฟอร์มาแล้ว แผ่นพวกนี้จะถูกนำไปล้างทำความสะอาดให้มีความบริสุทธิ์มากที่สุด
ยิ่งบริสุทธิ์เท่าไร ประสิทธิภาพก็ยิ่งสูงเท่านั้น
สำหรับการล้างแผ่นซิลิคอนนี้ ก็ใช้น้ำในการล้าง เหมือนการล้างจาน ชาม หรือช้อน
แต่ปัญหาก็คือ มันไม่ใช่น้ำที่เราใช้กันทั่วไป
เพราะน้ำที่จะใช้ล้างแผ่นซิลิคอนเหล่านี้ จะต้องนำไปผ่านขั้นตอน ที่เรียกว่า Ultrapure Water ซึ่งมีความสะอาดมากกว่าน้ำที่เราดื่มกันถึง “1,000 เท่า”
เป็นที่รู้กันดีว่าอุตสาหกรรมชิป เป็นเมกะเทรนด์ และกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด
ความต้องการชิปประสิทธิภาพสูง ตามมาด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่มีความซับซ้อน และขั้นตอนการผลิตเพิ่มขึ้น
หมายความว่า โรงงานผลิตชิปเอง ก็ต้องใช้น้ำเพิ่มขึ้นเช่นกัน
หากเราไปดูสถิติการใช้น้ำของ TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก จะพบว่า
- ในปี 2016 ใช้น้ำไปทั้งหมด 42 ล้านตัน
- ในปี 2021 ใช้น้ำไปทั้งหมด 82 ล้านตัน
จะเห็นได้ว่า ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปี TSMC ต้องใช้น้ำเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว
โดยโรงงาน 1 โรง ในไต้หวันของ TSMC นั้น ต้องใช้น้ำมากถึงวันละ 100,000 ตันต่อวัน
ถ้าพูดให้เห็นภาพคือ เท่ากับปริมาณการใช้น้ำทั้งหมดต่อวันของคนกรุงเทพฯ ถึง 500,000 คนเลยทีเดียว..
ในช่วงที่ผ่านมา ไต้หวันประสบกับปัญหาน้ำไม่พอใช้ จากปัญหาภัยแล้ง
อ่างเก็บน้ำทุกแห่งของไต้หวัน มีน้ำสำรองไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความจุทั้งหมด
รัฐบาลไต้หวันจึงต้องหันมาออกนโยบายให้ภาคอุตสาหกรรม “ลดการใช้น้ำ” เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตในภาคเกษตรกรรมมากจนเกินไป
ซึ่งนโยบายที่ว่านี้ ก็ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิปโดยตรง ผู้ผลิตชิปจึงต้องเริ่มหาทางออกใหม่
อย่าง TSMC มีการลงทุนถึงเกือบ 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำเป็นของตัวเอง โดยมีการวางระบบบำบัดน้ำ เพื่อนำน้ำจากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่
ระบบที่ว่านี้ก็มีกำลังในการผลิตและบำบัด แค่เพียงวันละ 10,000 ตันเท่านั้น หากเทียบกับความต้องการใช้น้ำที่ 100,000 ตันต่อวัน ก็ยังห่างกัน เป็น 10 เท่าตัว
บริษัท TSMC เองก็รู้ตัวดีว่าต้องทำอะไรสักอย่าง และหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
ถึงขนาดที่ระบุเอาไว้ในรายงานบริษัทเลยว่า “น้ำ” เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงในการทำธุรกิจ
โดยบริษัทก็ได้ตั้งเป้าหมาย และหาวิธีที่จะลดการใช้น้ำลง 30% ภายในปี 2030 เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ถึงตรงนี้ เราก็คงพอเห็นภาพแล้วว่ากว่าจะมาเป็น ชิป ชิ้นส่วนเล็ก ๆ ในอุปกรณ์รอบตัวเรา เบื้องหลังคือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง น้ำ ปริมาณมหาศาล
เบื้องหน้าที่เราเห็นว่า ไต้หวัน และ TSMC กำลังเป็นกระดูกสันหลังของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก จริง ๆ แล้ว ก็มีความท้าทายซ่อนอยู่เหมือนกัน..
ใครอยากมีความรู้เรื่องตลาดหุ้น ลงทุนแมนแนะนำ หนังสือ BLACK SWAN เล่มนี้ ราคา 380 บาท ที่เล่าถึงความล้มเหลวก่อนที่จะสำเร็จของนักลงทุนในตำนาน 12 คน สามารถสั่งซื้อ ได้ที่
- 55
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
