4 พ.ค. 2023 เวลา 06:23 • ข่าวรอบโลก

รัสเซีย ยูเครน : ผู้นำยูเครนพยายามฆ่าปูตินจริงหรือ

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ปฏิเสธว่า ประเทศของเขาได้ส่งโดรนบุกโจมตีกรุงมอสโกของรัสเซีย หลังรัสเซียอ้างว่า ปฏิบัติการโจมตีด้วยโดรน เป็นความพยายามเอาชีวิตประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
“เราไม่ได้โจมตีปูตินหรือมอสโก เราต่อสู้ในดินแดนของเราเอง เราปกป้องหมู่บ้านและเมืองของเรา” ผู้นำยูเครน กล่าว ระหว่างเดินทางเยือนฟินแลนด์
ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า ระบบต่อต้านอากาศยานได้ยิงสกัดโดรน 2 ลำในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 3 พ.ค. พร้อมประกาศว่า จะดำเนินการตอบโต้หากจำเป็น
ภาพวิดีโอที่มีการเผยแพร่และแชร์ในสังคมออนไลน์ แสดงให้เห็นโดรนบินเข้าใกล้อาคารวุฒิสภาของรัสเซีย และเกิดการระเบิดในเวลากลางคืน โดยปรากฎภาพชายสองคนปีนป่ายอยู่ใกล้โดมของตัวอาคาร ขณะที่ อีกวิดีโอ แสดงให้เห็นกลุ่มควันที่ลอยอยู่เหนือเครมลิน หรือพื้นที่ใจกลางกรุงมอสโก ซึ่งรวมถึงจัตุรัสแดง
ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า ยูเครนพยายามโจมตีสถานที่พำนักของปูติน พร้อมชี้ว่า นี่เป็น “การก่อการร้ายที่มีการวางแผนมาล่วงหน้า เพื่อลอบสังหารประธานาธิบดีรัสเซีย”
ทางการรัสเซียระบุว่า โดรน 2 ลำที่พุ่งเป้าโจมตีเครมลิน ถูกสกัดไว้ได้ด้วยอุปกรณ์ก่อกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิก ซึ่งในห้วงเวลานั้น ประธานาธิบดีปูตินไม่ได้อยู่ภายในเครมลิน
อย่างไรก็ดี รัฐบาลยูเครนมองว่า ข้อกล่าวอ้างของรัสเซีย เป็นเพียงฉากหน้าสำหรับการบุกโจมตียูเครนครั้งใหญ่ ด้านสหรัฐฯ ระบุว่า ต้องระมัดระวังต่อคำกล่าวอ้างของรัสเซีย
ผู้นำในปราการแดง
ประธานาธิบดีปูติน ถือได้ว่าเป็นผู้นำโลกที่มีการอารักขาแน่นหนาที่สุดคนหนึ่งของโลก
รัสเซียระบุว่า ยูเครนพยายามสังหารปูติน
แต่หากสิ่งที่รัฐบาลรัสเซียกล่าวอ้างเป็นความจริง ก็จะก่อให้เกิดคำถามว่า ประธานาธิบดีรัสเซียได้รับการอารักขาดีแค่ไหน
เหตุการณ์นี้ยังก่อให้เกิดคำถามว่า การป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียมีประสิทธิภาพแค่ไหน ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการพบเห็นการติดตั้งระบบต่อต้านอากาศยานบนดาดฟ้าของอาคารสำคัญหลายแห่งในกรุงมอสโก
เชื่อว่าการติดตั้งระบบต่อต้านอากาศยานเหล่านี้ เป็นผลจากที่รัสเซียวิตกว่า ยูเครน หรือผู้ที่สนับสนุนยูเครน อาจก่อเหตุโจมตีทางอากาศไปยังเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในกรุงมอสโก
ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันพุธที่ผ่านมา จะเป็นการโจมตีหรือจัดฉาก แต่คำถามคือ แล้วรัสเซียจะตอบโต้อย่างไร เจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนออกมาเรียกร้องให้ดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดกับยูเครน นายพลรัสเซียจำนวนไม่น้อยเคยเตือนมาหลายครั้งแล้วว่า จะตอบโต้อย่างหนักหน่วง หากมีการโจมตีเข้ามาในดินแดนของรัสเซีย
แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่า รัสเซียจะมีสมรรถนะทางทหารมากพอที่จะดำเนินการโจมตียูเครนอย่างมีนัยยะสำคัญได้มากกว่าที่ทำอยู่หรือไม่ แล้วเหตุการณ์นี้ จะเป็นชนวนสู่การยกระดับสงครามในยูเครนมากแค่ไหน
ตั้งใจหรือจัดฉาก
ไมไคโล โพโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ส่งสัญญาณว่า รัสเซียอาจ “กำลังเตรียมก่อการร้ายครั้งใหญ่” ในยูเครน
โพโดลยัก ยังระบุว่า ยูเครนไม่เห็นประโยชน์ต่อการโจมตีกรุงมอสโกเลย เพราะมีแต่จะสร้างความชอบธรรมให้รัสเซียโจมตีพลเรือนยูเครน
เมื่อวันพุธ (3 พ.ค.) รัสเซียได้ระดมโจมตีทางอากาศเมืองเคอร์สัน ทางตอนใต้ของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 คน โดยประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า การโจมตีดังกล่าว ได้ทำลาย “สถานีรถไฟ สะพาน บ้าน ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และสถานีน้ำมัน” ส่วนเหยื่อที่เสียชีวิต คือ ลูกค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต และพนักงานบริษัทพลังงาน ที่กำลังซ่อมแซมสถานีน้ำมันอยู่
“รัสเซียอาจกำลังจัดฉาก เพื่อมุ่งโจมตีประธานาธิบดีเซเลนสกี ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียเคยพยายามมาแล้ว”
โพโดลยัก เสริมว่า หากจะมีโดรนบินอยู่ในรัสเซีย ก็น่าจะเป็น “ปฏิบัติการรบแบบกองโจร ของกองกำลังในพื้นที่ที่ต่อต้านรัสเซีย”
“กำลังเกิดอะไรบางอย่างขึ้นในรัสเซีย แต่ไม่ใช่โดรนจากยูเครนที่บินไปโจมตีเครมลินแน่นอน”
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเกน ระบุว่า เขาไม่สามารถเชื่อได้สนิทใจต่อข้อกล่าวหาของรัสเซียว่า ยูเครนพยายามฆ่าปูติน และเขาจะรับฟังสิ่งที่ประธานาธิบดีรัสเซียแบบ “ฟังหูไว้หู”
ด้าน มิค มัลรอย อดีตรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม และเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ กล่าวว่า หากรายงานถึงการโจมตีกรุงมอสโกเป็นจริง ก็ไม่น่าจะใช่การลอบสังหาร เพราะยูเครนติดตามความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีปูตินอย่างใกล้ชิด และต้องรู้ว่า ช่วงเวลานั้น ปูตินอยู่ในมอสโกหรือไม่
“แต่นี่อาจแสดงให้คนรัสเซียเห็นว่า พวกเขาอาจถูกโจมตีไม่ว่าจะที่ไหนก็ได้ และสงครามที่พวกเขาก่อในยูเครน อาจจะมาถึงรัสเซีย และเมืองหลวงแล้ว”
แต่หากรายงานของรัสเซีย ไม่ตรงตามความเป็นจริง “รัสเซียอาจกำลังจัดฉาก เพื่อมุ่งโจมตีประธานาธิบดีเซเลนสกี ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียเคยพยายามมาแล้ว”
รัสเซียระบุว่า การโจมตีดังกล่าว เกิดขึ้นไม่นานก่อนกำหนดจัดขบวนพาเหรดเนื่องในวันแห่งชัยชนะ วันที่ 9 พ.ค. ในกรุงมอสโก ซึ่งจะมีแขกจากต่างประเทศมากมายเข้าร่วม อย่างไรก็ดี ทางการรัสเซียยืนกรานว่า จะเดินหน้าจัดขบวนพาเหรดและการสวนสนามของกองทัพต่อไป
โฆษณา