4 พ.ค. 2023 เวลา 22:50 • ครอบครัว & เด็ก
1) อย่ามองไกลเกินไป มองแค่ใกล้ๆพอค่ะ ช่วง จ-ศ ก็ตั้งตารอ ส-อ แต่ถ้า 7 วันเหมือนกัน ก็มองแค่วันต่อวันพอ!!
2) ลดมาตรฐานลงบ้าง ไม่ต้องเป๊ะทุกเรื่องค่ะ บ้านจะรกก็ช่างมันบ้าง พัฒนาการของลูกหรือโภชนาการสุขอนามัยจะพร่องไปบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย
3) ค่อยๆปรับความคิดเสียใหม่ว่า "ความเหนื่อย-ความลำบากไม่ใช่ความทุกข์" อย่าแปลความหมายของความเหนื่อยกายว่าเป็นความทุกข์ใจค่ะ ถ้าคิดได้แบบนี้เราจะมีภูมิต้านทานต่อความลำบาก ก่อนจะมองหาความสุข เราต้องสกัดไม่ให้ทุกข์เกิดค่ะ อันนี้ต้องค่อยๆฝึกค่ะ ความคิดความเชื่อแบบนี้จะส่งต่อไปถึงลูกๆได้ค่ะ ดังนั้นจึงคุ้มค่าที่แม่จะฝึกคิดแบบนี้นะคะ
4) เลี้ยงลูกคนเดียวทั้งๆที่มีสามี มันเฟ้งฟ้างยิ่งกว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว จะนอยด์หรือเหนื่อยก็ไม่ผิดค่ะ อย่าโทษตัวเอง อย่ามองตัวเองไม่ดี อย่าเอาความรู้สึกด้านลบไปลงที่คนอื่น แต่ปล่อยให้มันสลายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง อย่าเก็บไว้ อย่าสะสม
5) ความเหนื่อยของมนุษย์แม่ ถ้าแม่มองว่าเป็นความทุกข์ แม้ลูกๆโตขึ้นความเหนื่อยหายไป แต่ความทุกข์จะยังคงอยู่ ดังนั้นช่วงเวลาแห่งความเหนื่อยกายนี้ แม่ตั้งหลักให้ดีก่อน!! สามีไม่ช่วยเลี้ยงก็ช่างเขา วันหน้าเขาจะเสียดายช่วงเวลาเหล่านี้
6) ลูกหนึ่งคน ความเหนื่อยหนึ่งอัตรา แต่ลูกสอง ความเหนื่อยไม่ใช่คูณสองค่ะ มันคูณ 3 คูณ 4 อันนี้เข้าใจมากๆค่ะ ช่วงปีแรกหลังคลอดคือเหนื่อยสุด แต่มันจะค่อยๆดีขึ้นค่ะ ยิ่งพอลูกๆเข้าโรงเรียน เผลอแป๊บส์ๆเป็นวัยรุ่นแล้ว
ให้กำลังใจคูมแม่นะคะ แม่จู้จู้!!
โฆษณา