เมสซี่ กับ เนย์มาร์ คงไม่สามารถอยู่กับเปแอสเชได้อีกต่อไป มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ความสัมพันธ์ของปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับ ลีโอเนล เมสซี่ และ เนย์มาร์ กำลังจะล่มสลายไปพร้อมๆ กัน
คำถามคือมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมนักเตะ MVP ฟุตบอลโลกอย่างเมสซี่ และ ซูเปอร์สตาร์ที่อยู่กับทีมมานานอย่างเนย์มาร์ ถึงไม่สามารถอยู่ที่เปแอสเชต่อไปได้ เราจะไปลำดับเรื่องราวกันตั้งแต่แรก
ในเคสของลีโอเนล เมสซี่นั้น เขาย้ายจากบาร์เซโลน่า มาอยู่เปแอสเช ในปี 2021 พร้อมรับค่าเหนื่อยปีละ 35 ล้านยูโร โดยเซ็นสัญญากัน 2 ปี (2021-22 และ 2022-23)
เปแอสเชนั้น คาดหวังกับเมสซี่อย่างมาก ว่าจะสามารถพาสโมสรปลดล็อกคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้เสียที เพราะตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้แม้แต่ครั้งเดียว
ต่อให้เปแอสเช กวาดแชมป์ในประเทศแค่ไหน เมื่อไม่ได้แชมป์ยุโรป ก็ไม่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง ไม่สามารถกระโดดไปเป็นทีมระดับ Worldwide แบบบาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค หรือ เรอัล มาดริดได้ จนถึงวันนี้แฟนบอลโอลิมปิก มาร์กเซย ยังร้องเพลงแซวอยู่เลย ว่าสโมสรเราคือทีมเดียวในฝรั่งเศสที่ได้แชมป์ยุโรปโว้ย นี่เป็นกำแพงที่ทางเปแอสเชต้องการจะกระโดดข้ามไปให้ได้เสียที
เปแอสเชพยายามใช้เงินซื้อนักเตะเวิลด์คลาสเข้ามาหลายคน ก็ยังไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงคิดว่าเมสซี่จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ทำให้ภาพสมบูรณ์
การมาของเมสซี่ ถามว่าทำให้ทีมดีขึ้นไหม? คำตอบคือ ไม่ได้ดีขึ้นอย่างชัดเจนขนาดนั้น ฤดูกาลแรกของเมสซี่ (2021-22) เปแอสเชมีผลงานดังนี้ คือ
- ในลีกเอิง มีแต้มมากขึ้นกว่าปีก่อน แค่ 4 แต้ม
- บอลเฟรนช์คัพที่เคยได้แชมป์ก็ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
- ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
สถิติส่วนตัวของเมสซี่ลงเล่นทุกรายการ 34 นัด ยิงได้แค่ 11 ประตูเท่านั้น ขณะที่คีลียัน เอ็มบัปเป้ยิงไป 39 ประตูมากกว่ากันเกิน 3 เท่า แต่โอเคเอาล่ะ นั่นเป็นปีแรก ว่ากันไม่ได้ มาเริ่มต้นกันใหม่ในปีที่สอง
ซีซั่นที่สอง (2022-23) เมสซี่ไปเล่นฟุตบอลโลกกับอาร์เจนติน่า แล้วคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ พร้อมคว้า MVP ของรายการ มันแปลว่า เขาอยู่ในฟอร์มที่สุดยอดมากๆ
ดังนั้นเมื่อกลับมาเล่นให้สโมสร แฟนๆ ก็คิดว่า คราวนี้ล่ะ เมสซี่จะแบกเปแอสเชไปถึงแชมป์ยุโรปได้ แต่เหตุการณ์ก็เป็นเหมือนเดิมเป๊ะ
- ในลีกเอิง มีโอกาสได้แต้มต่ำกว่าฤดูกาลที่แล้ว
- ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายเฟรนช์คัพ
- ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
คำถามคือการมีอยู่ของเมสซี่จะมีประโยชน์อะไรล่ะถ้างั้น แฟนบอลปารีสเริ่มเอาความหงุดหงิดมาระบายกับเมสซี่
เมสซี่โดนแฟนเปแอสเชโห่ใส่ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่แพ้บาเยิร์น มิวนิคคาบ้าน จากนั้นก็โดนโห่อีก ในเกมที่แพ้ลียง และแรนส์คาบ้าน เมสซี่ถูกวิจารณ์ว่าช่วยทีมไม่ได้เลย แล้วยังรับค่าเหนื่อยแพงๆ อีกต่างหาก
คำถามของแฟนๆ คือ ทำไมกับอาร์เจนติน่าเล่นได้ดี แต่กับเปแอสเชเล่นไม่ได้ ถ้าไปดูสถิติล่ะก็ หลังจบบอลโลกที่กาตาร์ เมสซี่มีสถิติ ยิงได้ 1 ประตูทุกๆ 210 นาทีและ 1 แอสซิสต์ทุกๆ 420 นาที ถือเป็นตัวเลขที่ไม่น่าพอใจอย่างยิ่ง
ไม่ใช่แค่เรื่องในสนามเท่านั้น แต่แฟนเปแอสเชรู้สึกไม่ชอบเมสซี่มากขึ้นเรื่อยๆ จากเรื่องนอกสนามด้วย ความเห็นของแฟนบอลรายหนึ่งกล่าวว่า "นี่คือนักเตะที่ไม่เคยมีความพยายามที่จะพูดภาษาฝรั่งเศส พวกเขาพร้อมจะขึ้นเครื่องบินหนีปารีสทันที ถ้ามีเวลาว่าง 5 นาที ถ้ามีนักเตะแบบนี้อยู่ เราไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้มากกว่านี้แล้ว"
แฟนบอลวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนว่าเมสซี่ ดูไม่ค่อยมีใจ ไม่ค่อยมีแพสชั่น ไม่รู้ว่าภูมิใจที่ใส่เสื้อของเปแอสเชหรือเปล่า
แต่แน่นอน ความผิดพลาดที่ไม่ชนะการแข่ง คุณจะโทษนักเตะอย่างเดียวก็ไม่ได้ คุณต้องโทษโค้ชเช่นเดียวกัน
ลองคิดดูว่า กับอาร์เจนติน่า ที่ตัวผู้เล่นไม่ดีเท่าเปแอสเชเท่านั้น แต่ทำไมยังเป็นแชมป์โลกได้ นั่นเพราะพวกเขารู้วิธีหรือเปล่า ว่าต้องใช้งานเมสซี่อย่างไร
ถ้าหากโค้ชใช้งานเป็นล่ะก็ ให้เมสซี่ได้เป็นแกนกลางของทีมโดยสมบูรณ์ บางทีอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
เดือนมีนาคม 2023 ก่อนหมดสัญญา 3 เดือน ฮอร์เก้ คุณพ่อของเมสซี่ ที่เป็นเอเยนต์ส่วนตัวด้วย เข้าไปคุยกับผู้บริหารของเปแอสเช ว่าสรุปแล้วจะเอายังไงต่อ ฝั่งเปแอสเชขอลดค่าเหนื่อยเมสซี่ลงมา ถ้าจะต่อสัญญากันในปีหน้า ดูเหมือนสโมสรก็ไม่อยากเก็บไว้ต่อเหมือนกัน การเจรจาในวันนั้นจึงล้มเหลว
เข้าสู่เกมลีกเอิงนัดล่าสุด วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน เปแอสเชเปิดบ้านพบ ลอริยองต์ โดยสตาฟฟ์โค้ชตั้งแรงจูงใจไว้ว่า ถ้าหากเปแอสเชชนะในเกมนี้ จะให้ผู้เล่นหยุดพัก 2 วัน คือจันทร์และอังคาร ไม่ต้องมาซ้อม พักผ่อนไปเลย แต่ถ้าไม่ชนะต้องกลับมาซ้อมวันจันทร์ และจะได้หยุดแค่อังคารวันเดียว
ผลปรากฏว่า เปแอสเช แพ้ลอริยองต์คาบ้าน 3-1 กับผลงานที่ย่ำแย่เอามากๆ ดังนั้นนักเตะทุกคนจำเป็นต้องมาซ้อมในวันจันทร์ตามที่ตกลงกัน
แต่ปรากฏว่าเมสซี่ไม่ยอมมาซ้อม แต่กลับบินไปซาอุดิอาระเบียเฉยเลยตั้งแต่วันจันทร์ เพื่อช่วยโปรโมท โปรเจ็กต์ Vision 2030 ของประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่เขารับเงินเป็นสปอนเซอร์อยู่ ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสโมสร
เมสซี่บินไปเฉยๆ โดยไม่ได้ขอนัสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ และ หลุยส์ คัมโปส ผู้อำนวยการกีฬา โดดซ้อมไปเลย ง่ายๆ แค่นั้น
นั่นคือเหตุผลที่เปแอสเชมองว่าเมสซี่ลองดี คืออยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องขออนุญาตอะไรทั้งนั้น พวกเขาจึงสั่งแบนเมสซี่ 2 สัปดาห์ ข้อหาไม่ปฏิบัติตามกฎของสโมสร
พอโดนแบนปั๊บ สื่ออาร์เจนติน่า ออกมาปกป้องเมสซี่กันมากมาย เช่น หนังสือพิมพ์โอเล่ พาดหัวว่า "การลงโทษแบบบ้าคลั่ง ที่เปแอสเชทำแบบนี้ เพราะเป็นการเล่นงานเมสซี่โทษฐานไม่ยอมต่อสัญญา"
เช่นเดียวกับ หนังสือพิมพ์ ดาริโอ ป็อปปูลาร์ พาดหัวว่า "เรื่องแค่เล็กน้อยแต่เปแอสเชทำให้ใหญ่โตเหมือนสึนามิ ถามหน่อยว่าเปแอสเชจะกล้าลงโทษแบบนี้ไหม ถ้าเมสซี่ยังไม่พาทีมตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก"
ถึงตรงนี้ เส้นทางของเมสซี่กับ เปแอสเช ก็ดูจะไม่มีวันต่อติดอีกต่อไป
ฝั่งเมสซี่ไม่สนใจแล้ว จะทำอะไรก็ทำ รายงานจากสื่อฝรั่งเศสบอกว่า จับตาดูให้ดี ในอีก 5 เกมที่เหลืออยู่ของซีซั่น เมสซี่อาจจะไม่กลับมาซ้อมอีกเลยก็ได้ จะปรับเงินก็ปรับไป ไม่สน จะได้แยกทางกันไปเลย
ส่วนฝั่งเปแอสเช ก็ไม่เอาเมสซี่แล้วเหมือนกัน เพราะมีอยู่ก็ไม่เวิร์ก ทีมไม่ได้เล่นดีขึ้น และถ้าปล่อยออกไป ก็จะได้พื้นที่เพดานเงินเดือนเพิ่มขึ้น สามารถเอาไปเซ็นสัญญากับนักเตะดังๆ ที่เป็นข่าวได้หลายคน ทั้งอายเมอริก ลาป็อกต์, ลูกาส์ เอร์นันเดซ และ แรนดัล โคโล่ มูอานี่
แวงซ็องต์ ดูลัค คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์เลกิ๊ป อธิบายว่า "เมสซี่ไม่มีความรักให้เปแอสเชและฟุตบอลฝรั่งเศส รู้สึกได้ว่า เวลาเขาลงเล่นในลีกเอิง เขาทำให้จบๆ ไปเหมือนไปหาหมอฟัน"
เมสซี่ไม่มีแพสชั่น, แฟนๆ ก็ไม่ได้รักไม่บูชาเขา, ส่วนผู้บริหารอยากปล่อยเพื่อลดค่าใช้จ่าย ขณะที่ สื่อมวลชนก็ดูไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ จะเห็นได้ว่าในเรื่องนี้ ไม่มีใครอยากไปต่อกันเลยแม้แต่คนเดียว
ดังนั้น ก็แน่นอนว่า วันที่ 30 มิถุนายน 2023 เมื่อเมสซี่หมดสัญญาปั๊บเขาจะย้ายออกจากเปแอสเชอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องอยู่ต่อ โดยตัวเลือกมีทั้งสโมสรในซาอุดิอาระเบีย ,อินเตอร์ ไมอามี่ที่สหรัฐฯ และ การกลับบาร์เซโลน่าก็เป็นอีกชอยส์เช่นกัน
เหตุการณ์ที่ตามมาต่อเนื่องกัน คือ แฟนบอลต้องการขับไล่เนย์มาร์ให้ออกจากสโมสรไปอีกคน
เนย์มาร์อยู่กับเปแอสเชมานาน แต่แฟนๆ ก็รู้สึกได้ว่า ไม่มีใจอยากจะเล่นให้ทีมเท่าที่ควร
เหตุการณ์ใหญ่ เกิดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม เมื่อแฟนๆ กลุ่มอุลตร้าของเปแอสเชจำนวน 100 คน ได้รวมตัวกันบุกไปหน้าบ้านของเนย์มาร์แล้วตะโกนว่า "เนย์มาร์ ไสหัวไปซะ"
โรแม็ง มาบิลล์ ประธานกลุ่มอุลตร้า อธิบายว่า "เมสซี่กำลังจะย้ายออกแล้ว และเราคิดว่ามันน่าจะดีถ้าสโมสรโละเนย์มาร์ทิ้งไปด้วยเลยอีกคน"
เนย์มาร์เป็นอีกหนึ่งผู้เล่น ที่ไม่ค่อยแคร์สโมสรเท่าไหร่ ทำอะไรอย่างที่ตัวเองอยากทำ ตัวอย่างเช่น ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 เขาไม่ยอมมาซ้อม เพราะอยากจะบีบให้ทีมขายเขาคืนให้กับบาร์เซโลน่า
เปแอสเช ถึงขั้นต้องมี "โบนัสพฤติกรรม" ถ้าเนย์มาร์ไม่ก่อเรื่องในแต่ละปี จะได้รับเงินพิเศษ เพื่อชักจูงไม่ให้นักเตะออกนอกลู่นอกทาง
สิ่งเหล่านี้ ทำให้แฟนพันธุ์แท้ของเปแอสเชไม่พอใจ คือคุณไม่ได้อยู่กับเราเพราะรักสโมสรเลยนี่หว่า แต่เห็นแค่เป็นสโมสรที่มีช่องทางทำเงินที่ดีที่สุดแค่นั้น ประธานกลุ่มอุลตร้ากล่าวต่อไปว่า "ที่เราบุกมาที่บ้านของเขา เราไม่มีมีเจตนาจะทำร้ายหรืออะไร แต่เราอยากให้เขาไปเล่นฟุตบอลไกลๆ ปารีส เราต้องการเดินหน้าไปสู่ยุคสมัยต่อไป เราอยู่ในยุคที่นักเตะทำอะไรก็ได้ตามใจ จากนี้ไปเราอยากมีสโมสรฟุตบอลที่นักเตะอยากจะลงเล่นเพื่อทีมจริงๆ"
ปัญหาคือเนย์มาร์ ก็ดูจะไม่แคร์นัก พอเกิดเรื่อง เนย์มาร์ก็พร้อมจะโยนน้ำมันเข้ากองไฟอีก ด้วยการไปกดไลค์โพสต์ของแฟนบอลที่ด่าเปแอสเชว่า "เป็นแค่ทีมเล็กๆ เท่านั้น" ยิ่งทำให้บรรยากาศระหว่างนักเตะกับแฟนบอล แทบจะต่อกันไม่ติดอีก
สำหรับมุมของสื่อในฝรั่งเศส จะมองในแนวทางคล้ายกับแฟนบอล ว่าถ้าเปแอสเชยังใช้ไอเดีย อัดซูเปอร์สตาร์ทั้งโลก มากองรวมกันแบบนี้ นำทัพโดยเมสซี่ เนย์มาร์ อย่างที่เป็นทุกวันนี้ โอเค คุณอาจจะชนะในลีกเอิง เพราะคู่แข่งระดับต่างกันเกินไป แต่ถ้าต้องไปเล่นในรายการยุโรป ที่สโมสรอื่นๆ มีไอเดีย มีแนวทาง มีแพสชั่นที่เหนือกว่า ยังไงเปแอสเชก็ไม่รอด
ดังนั้น ถ้าอยากจะยกระดับทีม มันได้เวลาที่ต้องตัดสินใจแล้ว ควรโละทั้งเมสซี่และเนย์มาร์ทิ้งไปเลย เหลือแค่เอ็มบัปเป้เอาไว้คนเดียว เพื่อเป็นศูนย์กลางของสโมสรก็พอแล้ว
สำหรับเคสของเนย์มาร์ จะซับซ้อนกว่าเมสซี่นิดหน่อย เพราะเนย์มาร์เหลือสัญญาอีก 2 ปีกับสโมสร ดังนั้นถ้าจะปล่อย ก็ต้องตามหาคนที่พร้อมซื้อ ซึ่งปัญหาคือเนย์มาร์ตอนนี้อายุ 31 ปีแล้ว กับค่าเหนื่อยสูงถึงวีกละ 1 ล้านยูโร จึงไม่แน่ใจนักว่าจะมีสโมสรไหน กล้าทุ่มทุนขนาดนั้น
บทสรุปของเรื่องนี้คือเมสซี่ยังไงก็ไปแน่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องอยู่เปแอสเชต่อ แต่จะไปทีมไหนนั้น จะไปโกยเงินที่ซาอุฯ หรือ จะยอมลดค่าเหนื่อยแล้วกลับบ้านเก่าที่บาร์เซโลน่า เราก็ต้องมาติดตามกันต่อไป ขณะที่เคสของเนย์มาร์นั้น สโมสรยังไม่เคยแสดงจุดยืนว่าจะปล่อยหรือเก็บ ก็ต้องรอดูเช่นเดียวกัน
สำหรับปารีส แซงต์ แชร์กแมงนั้น ในที่สุดพวกเขาก็คิดได้ ว่าการกว้านซื้อนักเตะดังๆ มากองเต็มที่ เนย์มาร์, เมสซี่, เซร์คิโอ รามอส ฯลฯ มันไม่ใช่วิธีการที่เวิร์กนัก เพราะนักเตะที่เอามา อาจจะดังก็จริง แต่แพสชั่นไม่มีให้ทีม ซึ่งมันเป็นปัญหาสำคัญจริงๆ ถ้าอยากคว้าแชมป์ยุโรปให้ได้
ในภาพรวมของเรื่องนี้ ต้องบอกว่า สองปีของเมสซี่กับเปแอสเช ไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ต่อให้ได้ 2 แชมป์ลีกเอิง ก็ยังนับว่าน้อยเกินไปมาก
ก็จริงว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมด แต่ในฐานะนักเตะเบอร์ 1 ของโลก คุณย่อมถูกคาดหวังสูงแบบนี้เป็นธรรมดา
ทีนี้ ก็น่าสนใจว่าเมื่อต่างคนต่างเดินแล้ว คราวนี้เมสซี่จะไปยังไงต่อ ทีมต่อไปที่เขาจะลงเล่นคือที่ไหน เมสซี่ยังไม่แขวนสตั๊ดในช่วง 1-2 ปีนี้แน่นอน
ขณะที่มูฟต่อไปของเปแอสเช ก็น่าสนใจเช่นกัน เราอาจจะเห็นเอ็มบัปเป้ก้าวขึ้นมายึดอำนาจอย่างถาวร ไม่มีใครต่อกรกับบารมีอีกต่อไป
ซึ่งคิดๆ แล้ว การให้เอ็มบัปเป้เป็นคีย์แมนเบอร์หนึ่งอย่างแท้จริง อาจจะเป็นกุญแจความสำเร็จ ที่พาพวกเขาเป็นแชมป์ยุโรปก็ได้ ใครจะรู้
#goodbyeMESSI
- 42
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
